คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่ดินพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินต่อเนื่อง + โฉนดที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย = ผู้ครอบครองมีสิทธิ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามน.ส.3โจทก์จึงมีแต่เพียงสิทธิครอบครองแม้โจทก์จะอ้างว่าเป็นการเรียกทรัพย์คืนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336แต่ก็เป็นการฟ้องคดีเพื่อเรียกคืนซึ่งสิทธิครอบครองต้องอยู่ภายใต้บังคับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ4ลักษณะ3ว่าด้วยการครอบครองต้องฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายในหนึ่งปีตามมาตรา1375 ที่ดินน.ส.3ของจำเลยมีการออกโฉนดที่ดินทั้งแปลงแล้วน.ส.3ย่อมเป็นอันยกเลิกโฉนดที่ดินซึ่งจำเลยรังวัดออกมาจากที่ดินน.ส.3ดังกล่าวจึงเป็นโฉนดที่ดินที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา61 โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่ดินการที่จำเลยขอออกโฉนดที่ดินทับที่ดินน.ส.3ของโจทก์และมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์สืบต่อกันมาโดยมิได้เข้าครอบครองที่ดินจึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินจากโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีได้แม้จะเกิน1ปีนับแต่วันที่ทางราชการออกโฉนดที่ดินให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3372/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินช่วงห้ามโอนเป็นโมฆะ การครอบครองเป็นแทนเจ้าของเดิม แม้พ้นกำหนดห้ามโอน สิทธิครอบครองไม่เกิด
มารดาโจทก์ขายและมอบการครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งยังอยู่ภายในข้อกำหนดห้ามโอนให้จำเลยโดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงไม่ถูกต้องตามแบบและเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามชัดแจ้งตกเป็น โมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา113เดิม การครอบครองของผู้รับโอนจึงต้องถือว่าเป็นการ ครอบครองแทนเจ้าของที่ดินพิพาทแม้พ้นกำหนดเวลาห้ามโอนแล้วก็ยังคงถือว่าครอบครองไว้แทนจนกว่าจะมีการบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือตามมาตรา1381หรือจนกว่าเจ้าของที่ดินพิพาทจะ แสดงเจตนาสละการครอบครองให้ตามมาตรา1377,1379การที่โจทก์รื้อบ้านไปในระยะเวลาห้ามโอนเท่ากับสละเจตนาครอบครองเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามโอนตกเป็น โมฆะเช่นกันคดีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับต้องฟ้องเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนภายใน1ปีตามมาตรา1374

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3315/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยไม่สุจริต: การครอบครองที่ดินพิพาทและเจตนาของผู้ซื้อ
ปัญหาที่ว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดโดยสุจริตหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์รู้อยู่ก่อนแล้วหรือไม่ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาท เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทโดยเห็นจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ เมื่อจำเลยนำเจ้าพนักงานไปรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกโฉนด โจทก์ก็ลง-ลายมือชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่โต้แย้ง นอกจากนี้บิดาโจทก์ยังมีที่นาอยู่ติดกับที่ดินพิพาท โจทก์เคยมาช่วยบิดาทำนาถึง 4 ปี ย่อมเห็นจำเลยครอบครองทำนาในที่ดินพิพาทนี้ตลอดมา พฤติการณ์ดังกล่าวถือไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทโดยสุจริตและจด-ทะเบียนสิทธิโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3315/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อที่ดินโดยไม่สุจริตและการครอบครองปรปักษ์ ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
ปัญหาที่ว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมีโฉนดโดยสุจริตหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์รู้อยู่ก่อนแล้วหรือไม่ว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทโดยเห็นจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทอยู่เมื่อจำเลยนำเจ้าพนักงานไปรังวัดที่ดินพิพาทเพื่อออกโฉนดโจทก์ก็ลงลายมือชื่อรับรองแนวเขตโดยไม่โต้แย้งนอกจากนี้บิดาโจทก์ยังมีที่นาอยู่ติดกับที่ดินพิพาทโจทก์เคยมาช่วยบิดาทำนาถึง4ปีย่อมเห็นจำเลยครอบครองทำนาในที่ดินพิพาทนี้ตลอดมาพฤติการณ์ดังกล่าวถือไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อที่ดินพิพาทโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท การเพิกถอนการประมูล และข้ออ้างเรื่องเจตนาไม่สุจริตของเจ้าพนักงาน
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไป และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า 30 ปี ก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแลจำเลยจึงไม่ได้บุกรุก ประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริต เพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูล การประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างใหม่ คำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2660/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทระหว่างการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ ขอให้ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและรบกวนการครอบครอง จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาท จึงมีประเด็นพิพาทกันว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณา จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะให้จำเลยและบริวารเข้าไปปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทก่อนคดีถึงที่สุด กรณีมีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีการคุ้มครองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 254 (2) มาใช้ โดยห้ามจำเลยและบริวารเข้าไปดำเนินการใด ๆ ในที่ดินพิพาทจนกว่าคดีถึงที่สุด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2660/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองชั่วคราวเพื่อห้ามการก่อสร้างบนที่ดินพิพาทที่มีข้อโต้แย้งเรื่องสิทธิครอบครอง
แม้คำฟ้องอ้างเพียงว่าจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทของโจทก์ทั้งหกกับพวกด้วยการยื่นคำคัดค้านขอรังวัดออกโฉนดที่ดินขอให้ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและรบกวนการครอบครองแต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองจึงมีประเด็นพิพาทว่าฝ่ายใดมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทการที่จำเลยยินยอมให้ผู้อื่นเช่าที่ดินพิพาทส่วนหนึ่งปลูกสร้างอาคารร้านค้าในเวลาต่อมาอันเป็นการกระทำขึ้นใหม่ซึ่งอาจเกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งหกได้หากศาลพิพากษาให้โจทก์ทั้งหกเป็นฝ่ายชนะคดีจึงมีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา254(2)มาใช้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทที่เคยวินิจฉัยแล้วในคดีก่อน
แม้คดีก่อนเป็นคดีที่จำเลยฟ้องขอให้โจทก์ถอนคำคัดค้านการรังวัดที่ดินพิพาท แต่การวินิจฉัยคดีก่อนนั้นศาลต้องวินิจฉัยด้วยว่า โจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท เมื่อศาลได้วินิจฉัยโดยปริยายแล้วว่า จำเลยมีสิทธิครอบครอง การที่โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของโจทก์ และจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อน เมื่อเป็นคู่ความรายเดียวกันและคดีก่อนถึงที่สุดแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทที่เคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
แม้คดีก่อนเป็นคดีที่จำเลยฟ้องขอให้โจทก์ถอนคำคัดค้านการรังวัดที่ดินพิพาทแต่การวินิจฉัยคดีนั้นศาลต้องวินิจฉัยด้วยว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทเมื่อศาลได้วินิจฉัยโดยปริยายว่าจำเลยมีสิทธิครอบครองการที่โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของโจทก์และจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อนเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเมื่อมีการโอนทรัพย์สินที่พิพาทระหว่างดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ พ. แม้โจทก์จะโอนขายที่ดินพิพาทแก่ ศ.ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น แต่ในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องที่ดินพิพาทยังเป็นมรดกของ พ. อีกทั้งโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้ ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เมื่อโจทก์ได้โอนที่ดินพิพาทให้แก่ ศ.ไปแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายจากจำเลยจนถึงวันที่ได้โอนที่ดินพิพาทไปเท่านั้น
of 51