พบผลลัพธ์ทั้งหมด 233 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกระทงเดียว – ศาลทหาร/ศาลพลเรือน: ห้ามฟ้องซ้ำหากมีคำพิพากษาแล้ว แม้บทลงโทษหนักกว่า
กรณีที่เป็นความผิดกระทงเดียวละเมิดกฎหมายหลายบท และความผิดบางบทขึ้นศาลทหาร บางบทขึ้นศาลพลเรือนดังนี้ ถ้าได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหารและศาลทหารพิพากษาลงโทษจำเลยในบทความผิดที่ขึ้นศาลทหารแล้ว จะมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนในความผิดบทที่ขึ้นศาลพลเรือนอีกไม่ได้แม้ความผิดที่ขึ้นศาลพลเรือนจะเป็นบทหนักกว่าก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในคดีปล้นทรัพย์ที่มีผู้เสียชีวิต พิจารณาจากบทลงโทษที่เหมาะสมกับพฤติการณ์
การปล้นและมีการค่าเจ้าทรัพย์ตาย ถ้าไม่ปรากตว่าจำเลยเปนคนค่าหรือสมคบไนการค่า ก็ลงโทสตามมาตรา 301 ตอน 3 จะลงโทสตามมาตรา 250 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 623/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ใช้กฎหมายในขณะฟ้องและพิจารณา เมื่อกฎหมายเดิมถูกยกเลิกและไม่มีบทลงโทษในกฎหมายใหม่
เมื่อกฎหมายในเวลากระทำผิดถูกยกเลิก และกฎหมายในขณะพิจารณาก็ไม่มีบทบังคับว่าเป็นความผิด ต้องใช้กฎหมายในขณะฟ้องและพิจารณาบังคับคดี อ้างฎีกาที่ 908/2474, ที่ 932/2474,ที่ 492/2475.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงเพื่อแสวงหากำไรจากเด็กและความยินยอมของผู้ปกครอง: การเปลี่ยนแปลงบทลงโทษ
หลอกลวงผู้ปกครองเอาเด็กไปเพื่อหากำไร เด็กเต็มใจไปและผู้ปกครองก็ยินยอมให้เด็กไปเพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงดังนี้ เป็นผิดตามมาตรา 275 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลย ตาม ม. 273 274 จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิดตาม ม. 275 และโจทก์ก็ฟ้องขอให้ลงโทษ ตาม ม. 275 ด้วยดังนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษตามมาตรา 275 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทลงโทษโดยศาลฎีกา แม้จำเลยบางส่วนไม่ฎีกา คดีสมคบกันลักทรัพย์
โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยบางคนที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องปล่อยตัวไป แม้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลอุทธรณ์ แต่ในส่วนจำเลยที่ไม่มีฎีกาขึ้นมานั้นเมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็นในลักษณคดีว่าศาลวางบทผิดมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้วางบทที่ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จและการใช้ดุลพินิจของเจ้าพนักงาน: ศาลฎีกาแก้บทลงโทษจาก ม.270 เป็น ม.118
แม้จะไม่ใช่ประเด็นที่ฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา แต่การที่ศาลล่างลงโทษจำเลยโดยปรับบทผิดศาลฎีกาพิพากษาแก้ปรับบทใหม่ตามบทที่ถูกต้องนั้นได้
จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ร้ายลักทรัพย์ ขอให้ไปจับกุมมาสอบสวน เขาจึงถูกจับมาควบคุมสอบสวนดังนี้ จำเลยยังไม่มีผิดตามกฎหมายอาญา ม.270 คงมีผิดเพียงฐานแจ้งความเท็จ
อ้างฎีกาที่ 169/2479 , 484/2479
จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ร้ายลักทรัพย์ ขอให้ไปจับกุมมาสอบสวน เขาจึงถูกจับมาควบคุมสอบสวนดังนี้ จำเลยยังไม่มีผิดตามกฎหมายอาญา ม.270 คงมีผิดเพียงฐานแจ้งความเท็จ
อ้างฎีกาที่ 169/2479 , 484/2479
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 545/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาแม้โจทก์มิได้อ้างบทลงโทษโดยตรง ศาลมีอำนาจลงโทษตามบทที่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
ฟ้องโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงถูกต้องตามที่สืบได้ความแก่โจทก์อ้างบทมาตราที่ขอให้ลงโทษผิดศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายกลุ่มบุคคล: การพิสูจน์เจตนาสมคบเพื่อทำร้าย และบทลงโทษตาม ม.256 vs. ม.258
ทั้งสองฝ่ายต่างมีพวกเกิดวิวาทต่อสู้ทำร้ายกันแต่ไม่ได้ความฝ่ายหนึ่งสมคบกันเพื่อมาทำร้าย+ฝ่ายหนึ่ง เมื่อฝ่ายนั้นมีบาดเจ็บดังนี้ จะลงโทษ+ที่ทำร้ายตาม ม.256 ไม่ได้ ต้องลงโทษตาม ม.258 ศาลอุทธรณ์วาง ม.256 จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษตาม ม.258 +ขอให้รอการลงอาญาได้ไม่ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีและเงินเพิ่มจากความล่าช้าในการยื่นรายการภาษี และความแตกต่างระหว่างบทลงโทษทางแพ่งและอาญา
เมื่อผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ไม่ยื่นรายการเงินได้ภายในวันที่ 15 พฤษภาคมตาม ม.13 นายตรวจภาษีชอบที่จะปฏิบัติการตาม ม.16 เพื่อกำหนดประเมินจำนวนเงินภาษีและมีอำนาจที่จะเรียกเงินภาษีเพิ่มขึ้นดังที่กำหนดไว้ใน ม.16(4)ได้ เงินเพิ่มภาษีตาม ม.16(4) เป็นจำนวนที่ได้กำหนดไว้แน่ลงตัวจะลดลงอีกไม่ได้ ม.49 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้เป็นบทลงโทษปรับผู้ไม่ยื่นรายการในทางอาญา ซึ่งผิดกับ ม.16 แต่มาตราทั้ง 2 นี้หาลบล้างซึ่งกันและกันไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้หรือปลอมแปลงหนังสือสำคัญ ความแตกต่างของบทลงโทษตาม ม.223 และ ม.227
แก้น้อย ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ม.223-73 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตาม ม.227-73 แต่คงให้จำคุกตามศาลเดิม เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ปัญหาที่ว่าจำเลยเพียงแต่ใช้หนังสือโดยรู้ว่าปลอมหรือจำเลยปลอมขึ้นเองนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง