คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บาดแผล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 339 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 674/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม ส่งผลให้เกิดบาดแผลและต้องรักษาตัวเกิน 20 วัน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297
ผู้เสียหายถูกฟันด้วยมีดมีบาดแผลที่ริมฝีปากล่าง บนริมจมูกและหลังมือซ้ายกว้างแผลละ 1/3 เซนติเมตร ยาว2-3เซนติเมตรครึ่งแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 21 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่ารักษาตัวในโรงพยาบาล 21 วัน แล้วกลับไปอยู่บ้านก็ยังไม่หายดี เช่นนี้ย่อมพอที่จะฟังได้ว่าป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำผิดทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสจนหน้าเสียโฉม ถือเป็นตัวการ
ลักษณะและสภาพของบาดแผลจะทำให้ผู้เสียหายถึงต้องหน้าเสียโฉมติดตัวเพราะกระโหลกศีรษะตอนหน้าผากจะเป็นรอยบุบยุบเข้าไป เช่นนี้นับได้ว่า ผู้เสียหายรับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
การที่จำเลยทั้ง 4 วิ่งเข้าไปที่ผู้เสียหายพร้อมกันแล้วจำเลยที่ 4 ชูปืนพร้อมกับร้องห้ามไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปช่วยและในขณะเดียวกัน จำเลยที่ 1, 2,3 ก็เข้ากลุ้มรุมทำร้ายผู้เสียหายเช่นนี้ ถือว่าจำเลยที่ 4 ร่วมกระทำผิด เป็นตัวการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยบันดาลโทสะจากถูกทำร้าย: ศาลพิจารณาความรุนแรงของการกระทำและบาดแผลเพื่อตัดสินโทษ
ผู้ตายเมาสุรามาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกันครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นมาเสียบนเรือนผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีกเมื่อจำเลยขัดขืนผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้จึงฟันเอาเช่นนี้ จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา 72

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 889/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดดาบ แต่บาดแผลไม่ร้ายแรง ไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายแก่กาย
ใช้มีดดาบแทงทำร้ายถูกชายโครงซ้ายมีรอยช้ำแดงโตกลมครึ่งเซนติเมตร รักษาประมาณ 5 วันหาย นั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย จึงผิดเพียงมาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดดาบ แต่บาดแผลไม่ร้ายแรง ศาลตัดสินว่าไม่ถึงอันตรายแก่กาย
ใช้มีดดาบแทงทำร้ายถูกชายโครงซ้ายมีรอยช้ำแดงโตกลมครึ่งเซนติเมตร รักษาประมาณ 5 วันหาย นั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย จึงผิดเพียงมาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า พิจารณาจากลักษณะอาวุธและบาดแผล การพิสูจน์เจตนาจากพฤติการณ์
จำเลยใช้มีดยาว 4 นิ้วฟุต กว้าง 2 เซนติเมตร ด้ามเป็นเหล็กแบนติดต่อกับตัวมีด ยาว 5 นิ้วฟุตเศษ แทงเลือกไปแถวหน้าอกผู้ตายในขณะที่ผู้ตายเดินมาหาโดยมิได้ระวังตัว แผลทะลุของปอด เช่นนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2503

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากลักษณะอาวุธและบาดแผล: ศาลฎีกาตัดสินคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
จำเลยใช้มีดยาว 4 นิ้วฟุต กว้าง 2 เซนติเมตรด้ามเป็นเหล็กแบนติดต่อกับตัวมีดยาว 5 นิ้วฟุตเศษ แทงเสือกไปแถวหน้าอกผู้ตายในขณะที่ผู้ตายเดินมาหาโดยมิได้ระวังตัว แผลทะลุช่องปอด เช่นนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินความสาหัสของบาดแผลเพื่อกำหนดโทษฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
ผู้บาดเจ็บถูกฟันศีรษะ 1 ที และถูกแทงหลัง 1 ที ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 15 วัน แพทย์ก็ให้กลับและให้ไปโรงพยาบาลทุก 3 วันเพราะประสาทยังไม่ปกติไปโรงพยาบาลอีก 3 ครั้ง แล้วขอยามารักษาที่บ้านเพราะต้องเดินไกลสะเทือนสมอง เพียงเท่านี้ไม่ปรากฏอาการใดที่จะถือเป็นทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน ถือว่ายังไม่เป็นอันตรายสาหัส
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้มีผู้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสาม จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกาศาลฎีกาเห็นว่าบาดเจ็บนั้นไม่ถึงสาหัสจึงเป็นผิดเพียงตาม มาตรา 340 วรรคสอง ซึ่งมีโทษเบากว่าแม้จำเลยอื่นจะมิได้ฎีกา ก็เป็นเหตุในลักษณะคดี ย่อมมีผลตลอดถึงจำเลยอื่นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยเกี๊ยะจนเกิดบาดแผลบวมนูน ถือเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
จำเลยตีผู้เสียหาย 2 คน ด้วยเกี๊ยะ ฐานแผลถึงบวมนูน แพทย์ผู้ชันสูตรประมาณว่ารักษาหายภายใน 3 วัน และ 2 วันตามลำดับ โจทก์นำสืบว่า ผู้เสียหาย รักษา 7 วัน 5 วัน หาย เห็นว่าลักษณะการกระทำของจำเลยและฐานแผลของผู้เสียหาย ต้องรักษาอยู่หลายวัน ถือได้ว่าเป็นอันตราย แก่กาย ไม่จำเป็นต้องมีโลหิตไหลเป็นอันตรายแก่กาย ย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายด้วยเกี๊ยะจนเกิดบาดแผลบวมนูน ถือเป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
จำเลยตีผู้เสียหาย 2 คน ด้วยเกี๊ยะฐานแผลถึงบวมนูนแพทย์ผู้ชันสูตรประมาณว่ารักษาหายภายใน 3 วัน และ 2 วัน ตามลำดับ. โจทก์นำสืบว่า ผู้เสียหายรักษา 7 วัน 5 วัน หาย เห็นว่าลักษณะการกระทำของจำเลยและฐานแผลของผู้เสียหายต้องรักษาอยู่หลายวัน ถือได้ว่าเป็นอันตรายแก่กายไม่จำต้องมีโลหิตไหลเป็นอันตรายแก่กายย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
of 34