คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปฏิบัติหน้าที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 307 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยและการปฏิบัติหน้าที่ตามคำพิพากษา: แม้มีเหตุขัดข้องก็ต้องพยายามชำระหนี้
จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ยอมชำระเงินค่าเลี้ยงดูโจทก์เป็นรายเดือนจนกว่าโจทก์จะถึงแก่ความตาย หากผิดนัดงวดหนึ่งงวดใด ยอมยกที่ดินให้เป็นของโจทก์ทันที และศาลพิพากษาตามยอมไปแล้ว แม้ควายของจำเลยจะหายและต้องออกติดตามจำเลยก็ยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติการชำระหนี้ตามคำพิพากษาการไปตามควายกลับไม่ทันมิใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 ที่จำเลยว่าขายข้าวไม่ได้เพราะข้าวไม่มีราคานั้น หากขวนขวายขายในราคาต่ำด้วยความจำเป็นที่จะต้องหาเงินมาชำระหนี้ ก็ย่อมทำได้ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าเลี้ยงดูให้โจทก์ภายในกำหนดย่อมตกเป็นผู้ผิดนัด จำเลยจะยกเหตุทั้งสองดังกล่าวแล้วเป็นข้อแก้ตัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 205, 219 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติการนอกหน้าที่ ไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157
องค์ประกอบความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้นจะต้องได้ความว่าการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติของเจ้าพนักงานนั้นอยู่ในหน้าที่ โจทก์พา ส. ไปแล้วได้จดทะเบียนสมรสกัน ม. บิดาของ ส. ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐมว่าโจทก์ฉุดคร่า ส. จำเลยที่ 2 เป็นนายตำรวจอยู่กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้จับโจทก์บอกว่ามีคนแจ้งให้จับเรื่องฉุดผู้หญิง และขู่ให้ถอนทะเบียนสมรสเสีย เมื่อไปถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐมจำเลยที่ 2 ได้พาโจทก์ไปพบจำเลยที่ 1 ที่บ้านจำเลยที่ 1เป็นนายตำรวจอยู่กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 7ตำแหน่งนายเวรได้พูดขู่จะทำร้ายโจทก์และให้คนไปตามม.มา ม. บอกว่าจัดการก็แล้วกัน จำเลยที่ 1 ก็ให้จำเลยที่ 2 พาโจทก์ไปมอบให้นายร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐม การกระทำของจำเลยดังนี้ เป็นการปฏิบัติการนอกหน้าที่ ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 157 เพราะจำเลยมิได้มีหน้าที่เกี่ยวกับคดีที่ ม. แจ้งความไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติการนอกหน้าที่ ไม่เข้าข่ายความผิดมาตรา 157
องค์ประกอบความผิดของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้นจะต้องได้ความว่าการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติของเจ้าพนักงานนั้นอยู่ในหน้าที่ โจทก์พา ส. ไปแล้วได้จดทะเบียนสมรสกัน ม. บิดาของ ส. ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐมว่าโจทก์ฉุดคร่า ส. จำเลยที่ 2 เป็นนายตำรวจอยู่กองทะเบียนประวัติอาชญากรได้จับโจทก์บอกว่ามีคนแจ้งให้จับเรื่องฉุดผู้หญิง และขู่ให้ถอนทะเบียนสมรสเสีย เมื่อไปถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐมจำเลยที่ 2 ได้พาโจทก์ไปพบจำเลยที่ 1 ที่บ้านจำเลยที่ 1 เป็นนายตำรวจอยู่กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 7ตำแหน่งนายเวร ได้พูดขู่จะทำร้ายโจทก์และให้คนไปตามม.มา ม. บอกว่าจัดการก็แล้วกัน จำเลยที่ 1 ก็ให้จำเลยที่ 2 พาโจทก์ไปมอบให้นายร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐม การกระทำของจำเลยดังนี้ เป็นการปฏิบัติการนอกหน้าที่ ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 157 เพราะจำเลยมิได้มีหน้าที่เกี่ยวกับคดีที่ ม. แจ้งความไว้นั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรา 157) ต้องมีพฤติการณ์แจ้งความเท็จ หรือกระทำการทุจริตต่อหน้าที่
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 จอข้อความเท็จลงในเอกสารการซื้อขายที่ดินและจำเลยทั้งสองไม่ได้สมคบกันอ้างหรือใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานก็ไม่ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งจะลงโทษจำเลยในฐานความผิดนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญามาตรา 157 ต้องมีพฤติกรรมเจ้าพนักงานปฏิบัติ/ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ/ทุจริต หากไม่มีพฤติการณ์ดังกล่าว แม้ฟ้องใช้ได้ก็ลงโทษไม่ได้
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้แจ้งให้จำเลยที่ 2 จดข้อความเท็จลงในเอกสารการซื้อขายที่ดิน และจำเลยทั้งสองไม่ได้สมคบกันอ้างหรือใช้เอกสารดังกล่าว ทั้งจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานก็ไม่ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งจะลงโทษจำเลยในฐานความผิดนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาที่ว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ก็ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของโจทก์ต่อไปอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนเกิดอันตรายแก่กาย และการจับกุมผู้เมาสุรา การกระทำของเจ้าพนักงานที่ไม่ถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้เสียหายถูกเตะทั้งรองเท้า มีบาดแผล คือ 1. รอยช้ำบวมที่หน้าผากข้างขวาเหนือคิ้วขวา 2. เบ้าตาขวาช้ำบวมเขียว ตาขาวมีรอยช้ำเลือด 3. ริมฝีปากล่างซ้ายแตก 4. รอยช้ำบวมที่ปลายคาง5. หัวเข่าซ้ายบวมเล็กน้อย มีรอยถลอกเลือดออกซับบาดแผลทั้งหมดควรจะหายภายใน 7 วัน เช่นนี้ ถือว่าได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 แล้ว
จำเลยเป็นจ่าสิบตำรวจและสิบตำรวจเอกได้จับกุมผู้เสียหายในข้อหาเสพสุราจนเป็นเหตุให้เมาประพฤติวุ่นวายครองสติไม่ได้ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ เมื่อนำไปยังสถานีตำรวจแล้วผู้เสียหายยังร้องเอะอะอาละวาด เตะโน่นเตะนี่ เดินไปมาและจะลงไปจากสถานีตำรวจ จำเลยจึงเอาตัวผู้เสียหายเข้าไปขังไว้ในห้องขังเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย ดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้ผู้เสียหายปราศจากเสรีภาพในร่างกายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2246/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การรังวัดที่ดินและการกล่าวหาเรื่องสินบน
นาย จ. ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า จำเลยบุกรุกที่ดินน.ส.3 พนักงานสอบสวนจึงมีหนังสือถึงนายอำเภอขอให้สั่งพนักงานที่ดินไปร่วมทำการรังวัดสอบเขต นายอำเภอได้สั่งให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเสมียนที่ดินอำเภอไปร่วมรังวัดสอบเขตกับพนักงานสอบสวน จำเลยไม่ยอมให้ทำการรังวัด และกล่าวดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "พนักงานที่ดินหมาๆ ชอบกินแต่เบี้ย(ชอบกินสินบน)" ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 แล้ว(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2515 )

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2246/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่: การรังวัดที่ดินตามคำสั่งนายอำเภอ
นาย จ. ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า จำเลยบุกรุกที่ดินน.ส.3 พนักงานสอบสวนจึงมีหนังสือถึงนายอำเภอขอให้สั่งพนักงานที่ดินไปร่วมทำการรังวัดสอบเขต นายอำเภอได้สั่งให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเสมียนที่ดินอำเภอไปร่วมรังวัดสอบเขตกับพนักงานสอบสวน จำเลยไม่ยอมให้ทำการรังวัด และกล่าวดูหมิ่นผู้เสียหายว่า "พนักงานที่ดินหมาๆ ชอบกินแต่เบี้ย(ชอบกินสินบน)" ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 แล้ว (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2228/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน: การแยกความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่
ตำรวจขอแรง บ. ราษฎรเจ้าของเรือยนต์ให้ขับเรือติดตามจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายไปเมื่อตามไปทัน จำเลยวิ่งหนีขึ้นตลิ่ง ตำรวจกับ บ.ก็ขึ้นตลิ่งแยกกันวิ่งไล่ตามจำเลย จำเลยยิง บ. ได้รับอันตรายแก่กายการกระทำของจำเลยเป็นการพยายามฆ่า บ. ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(3), 80 แต่ไม่ใช่การใช้กำลังประทุษร้ายในการต่อสู้หรือขัดขวางผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายฯ อันเป็นความผิดตามมาตรา 138 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2228/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน: การแยกความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่
ตำรวจขอแรง บ. ราษฎรเจ้าของเรือยนต์ให้ขับเรือติดตามจำเลยซึ่งเป็นคนร้ายไปเมื่อตามไปทัน จำเลยวิ่งหนีขึ้นตลิ่ง ตำรวจกับบ.ก็ขึ้นตลิ่งแยกกันวิ่งไล่ตามจำเลย จำเลยยิง บ. ได้รับอันตรายแก่กาย การกระทำของจำเลยเป็นการพยายามฆ่า บ. ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(3),80 แต่ไม่ใช่การใช้กำลังประทุษร้ายในการต่อสู้หรือขัดขวางผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายฯ อันเป็นความผิดตามมาตรา 138 ด้วย
of 31