คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ปลอมเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 888/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือค้ำประกันหลังสัญญากู้ปลอม: ไม่เป็นความผิดสนับสนุนปลอมเอกสาร
ทำหนังสือค้ำประกันหนี้ที่ปลอมสัญญากู้ขึ้น แต่ทำภายหลังที่ได้ทำสัญญากู้ปลอมเสร็จขาดตอนแล้ว ไม่เป็นความผิดฐานสนับสนุนปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงนามในเอกสารราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้วางระเบียบไว้ว่าใบสุทธิและใบรับรองให้ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการหรือผู้รักษาการแทนเท่านั้นเป็นผู้ลงชื่อตัวชื่อสกุลพร้อมด้วยตำแหน่ง จำเลยเช่ากิจการโรงเรียนราษฎร์ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการจาก ส.ซึ่งได้รับอนุญาตให้เปิดทำการสอนนักเรียนได้ ระหว่างที่จำเลยเช่านั้นตำแหน่งครูใหญ่ว่างอยู่ ส.จึงยื่นเรื่องราวขอบรรจุจำเลยเป็นผู้จัดการและครูใหญ่ แต่ก่อนที่ทางการจะสั่ง ส.ได้ไปขอถอนเรื่องคืน ระหว่างที่ ส.ยื่นเรื่องราวไว้นั้น จำเลยได้ลงชื่อในใบสุทธิให้แก่นักเรียนไปโดยบางฉบับระบุว่าเป็นครูใหญ่ บางฉบับว่าอาจารย์ใหญ่ ดังนี้เป็นการปลอมตนว่าเป็นผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารนั้น เอกสารนี้จึงไม่ใช่เอกสารที่แท้จริง เพราะไม่ได้ลงนามผู้ที่มีอำนาจจะออกใบสุทธิได้ แม้ข้อความในใบสุทธินั้นเป็นความจริงก็มิใช่ว่าเอกสารปลอมจะมีข้อความตรงกับความจริงมิได้ สารสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยมีอำนาจลงนามในเอกสารนั้นได้หรือไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงนามในเอกสารราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้วางระเบียบไว้ว่าใบสุทธิและใบรับรองให้ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการหรือผู้รักษาการแทนเท่านั้น เป็นผู้ลงชื่อสกุลพร้อมด้วยตำแหน่งจำเลยเช่ากิจการโรงเรียนราษฎร์ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการจาก ส. ซึ่งได้รับอนุญาตให้เปิดทำการสอนนักเรียนได้ ระหว่างที่จำเลยเช่านั้นตำแหน่งครูใหญ่ว่างอยู่ ส. จึงยื่นเรื่องราวขอบรรจุจำเลยเป็นผู้จัดการและครูใหญ่แต่ก่อนที่ทางการจะสั่ง ส. ได้ไปขอถอนเรื่องคืนระหว่างที่ ส. ยื่นเรื่องราวไว้นั้นจำเลยได้ลงชื่อในใบสุทธิให้แก่นักเรียนไปโดยบางฉบับระบุว่าเป็นครูใหญ่ บางฉบับว่าอาจารย์ใหญ่ ดังนี้ เป็นการปลอมตนว่าเป็นผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารนั้น เอกสารนี้จึงไม่ใช่เอกสารที่แท้จริง เพราะไม่ได้ลงนามผู้ที่มีอำนาจจะออกใบสุทธิได้ แม้ข้อความในใบสุทธินั้นเป็นความจริง ก็มิใช่ว่าเอกสารปลอมจะมีข้อความตรงกับความจริงมิได้สารสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยมีอำนาจลงนามในเอกสารนั้นได้หรือไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1650/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ: การปลอมบัตรอนุญาตขึ้นเขาศูนย์และการประทับตราต่ออายุปลอม
บัตรอนุญาตของเจ้าหน้าที่ให้ขึ้นเขาศูนย์ได้ ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามตามประกาศของผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ
ขายบัตรอนุญาตการขึ้นเขาศูนย์ซึ่งปลอมการต่ออายุโดยประทับตรายางและลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ปลอม เป็นการปลอมเอกสารราชการแก่ผู้ที่มาซื้อหลายคนในคราวเดียวกัน เป็นความผิดกรรมเดียว การมอบหลายคราวเป็นต่างกระทงเป็นแต่ละคราว การประทับตราและลงลายมือชื่อปลอมลงในบัตร 6 ฉบับในวันเดียวต่อเนื่องกันไป เป็นต่างกระทงกัน 6 กระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสาร ภ.บ.ท.๖ ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเอกสารใหม่แสดงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้
โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6) ไว้ต่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับมอบหมายให้รับแจ้งแบบสำรวจเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันแก้ไขแบบ ภ.บ.ท.6 นี้ โดยลบชื่อโจทก์ในช่องผู้ชี้เขตออก แล้วจำเลยที่ 2 เขียนชื่อจำเลยที่ 1 ลงแทนชื่อโจทก์ และลบลายมือชื่อโจทก์ที่ลงไว้ในช่องผู้ชี้เขต - ผู้ยื่นออก แล้วจำเลยที่ 1 พิมพ์ลายนิ้วมือของตนลงแทน เมื่อดูเอกสารที่ถูกแก้ไขนี้แล้ว ย่อมเห็นได้ว่า เอกสารฉบับนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็น ภ.บ.ท.6 ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ยื่น ซึ่งตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือที่แท้จริงที่จำเลยที่ 1 ได้ลงเป็นผู้ยื่นไว้ไม่มีทางให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อในเรื่องชื่อและลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 เป็นอย่างอื่นไปได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1389/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขแบบแสดงรายการภาษีบำรุงท้องที่โดยลบชื่อผู้ยื่นเดิมและใส่ชื่อใหม่ ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากเอกสารใหม่แสดงข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือ
โจทก์ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.6)ไว้ต่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับมอบหมายให้รับแจ้งแบบสำรวจเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันแก้ไขแบบ ภ.บ.ท.6 นี้ โดยลบชื่อโจทก์ในช่องผู้ชี้เขตออก แล้วจำเลยที่ 2 เขียนชื่อจำเลยที่ 1 ลงแทนชื่อโจทก์ และลบลายมือชื่อโจทก์ที่ลงไว้ในช่องผู้ชี้เขต ผู้ยื่น ออก แล้วจำเลยที่ 1พิมพ์ลายนิ้วมือของตนลงแทน เมื่อดูเอกสารที่ถูกแก้ไขนี้แล้ว ย่อมเห็นได้ว่า เอกสารฉบับนี้ได้เปลี่ยนสภาพเป็น ภ.บ.ท.6 ที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ยื่น ซึ่งตรงกับลายพิมพ์นิ้วมือที่แท้จริงที่จำเลยที่ 1 ได้ลงเป็นผู้ยื่นไว้ ไม่มีทางให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อในเรื่องชื่อและลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 เป็นอย่างอื่นไปได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปลอมเอกสารต้องระบุความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมแต่ไม่ได้ระบุมาว่าการที่จำเลยปลอมเอกสารขึ้นนั้น น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และแม้จะอ่านคำบรรยายฟ้องโจทก์โดยตลอดก็ไม่อาจทราบความหมายนี้ได้ฟ้องโจทก์ดังนี้ไม่ครบองค์ความผิดตามกฎหมายที่โจทก์ขอให้ลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานรัฐยักยอกเงินและปลอมเอกสารสิทธิ การปรับบทความผิดให้ถูกต้องตามกฎหมาย
จำเลยเป็นพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอันเป็นองค์การของรัฐ ใช้อำนาจในหน้าที่เบียดบังยักยอกเอาเงินค่ากระแสไฟฟ้าที่จำเลยรับไว้โดยทุจริต ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 เพียงมาตราเดียวไม่ผิดตามมาตรา 8 ด้วย เพราะเป็นการเบียดบังตัวทรัพย์ที่อยู่ในหน้าที่ไว้เป็นประโยชน์ มิใช่อาศัยหน้าที่หาประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการเบียดบังเอาทรัพย์ และกรณีดังกล่าวไม่จำต้องปรับบทด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 อีก
ใบเสร็จรับเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ถูกทำปลอมขึ้น เพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นใบเสร็จที่แท้จริง อันอาจนำไปเรียกเก็บเงินซ้ำอีกได้นั้น แม้จะมิได้มีการลงชื่อในช่องพนักงานเก็บเงินว่าได้รับเงินไว้ถูกต้องแล้วก็ตาม ย่อมเป็นเอกสารสิทธิแต่มิใช่เอกสารราชการ จำเลยผู้ทำปลอมขึ้นต้องมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามมาตรา 266 และกรณีไม่จำต้องปรับบทด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพนักงานรัฐยักยอกเงินและการปลอมเอกสารสิทธิ: การปรับบทความผิดให้ถูกต้อง
จำเลยเป็นพนักงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอันเป็นองค์การของรัฐ ใช้อำนาจในหน้าที่เบียดบังยักยอกเอาเงินค่ากระแสไฟฟ้าที่จำเลยรับไว้โดยทุจริต ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 เพียงมาตราเดียว ไม่ผิดตามมาตรา 8ด้วย เพราะเป็นการเบียดบังตัวทรัพย์ที่อยู่ในหน้าที่ไว้เป็นประโยชน์ มิใช่อาศัยหน้าที่หาประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการเบียดบังเอาทรัพย์ และกรณีดังกล่าวไม่จำต้องปรับบทด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 อีก
ใบเสร็จรับเงินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ถูกทำปลอมขึ้นเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นใบเสร็จที่แท้จริง อันอาจนำไปเรียกเก็บเงินซ้ำอีกได้นั้น แม้จะมิได้มีการลงชื่อในช่องพนักงานเก็บเงินว่าได้รับเงินไว้ถูกต้องแล้วก็ตาม ย่อมเป็นเอกสารสิทธิ แต่มิใช่เอกสารราชการ จำเลยผู้ทำปลอมขึ้นต้องมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามมาตรา 266 และกรณีไม่จำต้องปรับบทด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงลายมือชื่อแทนกันในสัญญา แม้ได้รับมอบอำนาจก็เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร แต่ต้องพิเคราะห์ความเสียหายที่เกิดขึ้น
ลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้เซ็นแทนกันได้ แม้จะมอบอำนาจก็เซ็นแทนไม่ได้ จำเลยเซ็นชื่อสามีจำเลยลงในสัญญามัดจำซื้อขายที่ดินจึงเป็นการลงลายมือชื่อปลอม แต่ความผิดฐานปลอมเอกสารนั้นจะต้องมีลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนด้วย เมื่อผู้เสียหายรู้จักชื่อและตัวสามีจำเลยผู้เป็นเจ้าของที่ดินตลอดจนจำเลยซึ่งเป็นภรรยาอยู่ก่อนแล้ว ยังได้สมัครใจเข้าทำสัญญากับจำเลยและรู้เห็นว่าจำเลยได้ลงชื่อสามีจำเลยในช่องผู้ให้สัญญาตอนทำสัญญานั้น จากพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าผู้เสียหายมิได้หลงผิดหรือหลงเชื่อ จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะอ้างว่าได้รับความเสียหายตามกฎหมายสามีจำเลยก็ไม่เสียหายเพราะเป็นผู้มอบอำนาจให้จำเลยไว้ จำเลยจึงไม่มีความผิด
of 29