คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 670 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การในฐานะพยานใช้ลงโทษจำเลยไม่ได้หากไม่แจ้งสิทธิและเงื่อนไขตามกฎหมาย
ก่อนจับกุมจำเลย พนักงานสอบสวนได้เรียกจำเลยมาสอบสวนในฐานะพยานและทำบันทึกคำให้การไว้ ซึ่งตามบันทึกคำให้การดังกล่าวก็ระบุว่าเป็นคำให้การของจำเลยในฐานะเป็นพยานมิใช่ในฐานะผู้ต้องหา ไม่มีข้อความที่แสดงว่าได้บอกให้ผู้ต้องหาทราบก่อนว่าถ้อยคำที่ผู้ต้องหากล่าวนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันตนในการพิจารณาได้ตามที่ประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา มาตรา 134 บัญญัติไว้ เช่นนี้ จะถือว่าเป็นบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาไม่ได้ เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมให้ฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ลำพังบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยซึ่งให้การไว้ในฐานะพยานมิใช่ในฐานะผู้ต้องหายังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังคำให้การในฐานะพยานและผู้ต้องหา, พยานแวดล้อม, การพิสูจน์ความผิดทางอาญา
ก่อนจับกุมจำเลย พนักงานสอบสวนได้เรียกจำเลยมาสอบสวนในฐานะพยานและทำบันทึกคำให้การไว้ ซึ่งตามบันทึกคำให้การดังกล่าว ก็ระบุว่าเป็นคำให้การของจำเลยในฐานะเป็นพยานมิใช่ในฐานะผู้ต้องหา ไม่มีข้อความที่แสดงว่าได้บอกให้ผู้ต้องหาทราบก่อนว่าถ้อยคำ ที่ผู้ต้องหากล่าวนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันตนในการพิจารณาได้ ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา134 บัญญัติไว้ เช่นนี้ จะถือว่าเป็นบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาไม่ได้เมื่อโจทก์ ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมให้ฟังว่าจำเลยกระทำความผิด ตามฟ้อง ลำพังบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยซึ่งให้การไว้ ในฐานะพยานมิใช่ในฐานะผู้ต้องหายังฟังลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำตายของผู้ถูกทำร้ายยืนยันตัวคนร้ายได้ แม้ใกล้เสียชีวิต
ผู้ตายระบุชื่อคนร้ายแก่ผู้ถาม 3 ครั้งในเวลาห่างกันไม่มากนัก โดยครั้งที่สามผู้ตายระบุชื่อคนร้ายขณะที่ผู้ตายมีอาการเพียบหนักทุรนทุราย ต่อจากนั้นผู้ตายก็พูดไม่ได้แล้ว แสดงว่าผู้ตายกล่าวย้ำยืนยันในขณะที่ตนเองรู้ตัวว่าใกล้จะตายคำกล่าวของผู้ตายเช่นนี้ย่อมรับฟังเป็นพยานได้ว่าเป็นความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำตายของผู้ตายที่ระบุชื่อผู้กระทำผิดในขณะใกล้เสียชีวิตมีน้ำหนักรับฟังเป็นพยานได้
ผู้ตายระบุชื่อคนร้ายแก่ผู้ถาม 3 ครั้งในเวลาห่างกันไม่มากนักโดยครั้งที่สามผู้ตายระบุชื่อคนร้ายขณะที่ผู้ตายมีอาการเพียบหนักทุรนทุราย ต่อจากนั้นผู้ตายก็พูดไม่ได้แล้ว แสดงว่าผู้ตายกล่าวย้ำยืนยันในขณะที่ตนเองรู้ตัวว่าใกล้จะตาย คำกล่าวของผู้ตายเช่นนี้ย่อม รับฟังเป็นพยานได้ว่าเป็นความจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำตายของผู้ถูกทำร้ายเป็นพยานรับฟังได้
ผู้ตายระบุชื่อคนร้ายแก่ผู้ถาม 3 ครั้งในเวลาห่างกันไม่มากนักโดยครั้งที่สามผู้ตายระบุชื่อคนร้ายขณะที่ผู้ตายมีอาการเพียบหนักทุรนทุราย ต่อจากนั้นผู้ตายก็พูดไม่ได้แล้ว แสดงว่าผู้ตายกล่าวย้ำยืนยันในขณะที่ตนเองรู้ตัวว่าใกล้จะตายคำกล่าวของผู้ตายเช่นนี้ย่อมรับฟังเป็นพยานได้ว่าเป็นความจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันคำให้การและการใช้ดุลพินิจรับพยานนอกกรอบกฎหมายในคดีแรงงาน
แม้ อ. ประธานกรรมการบริษัทจำเลยแต่ผู้เดียวทำหนังสือมอบอำนาจให้ ว. กรรมการบริหารมีอำนาจกระทำการแทนจำเลยอันเป็นการไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทจำเลยก็ตาม แต่หลังจาก ว. ได้ยื่นคำให้การต่อศาลแล้ว จำเลยก็ทำหนังสือมอบอำนาจใหม่ให้ ฉ.เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีแทนโดยอ.และว. ลงชื่อถูกต้องตามข้อบังคับของจำเลยเช่นนี้ การที่ ฉ. ดำเนินคดีต่อมาโดยนำสืบพยานไปตามคำให้การที่ ว. ต่อสู้คดีไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ให้สัตยาบันยอมรับคำให้การดังกล่าวจึงมีสิทธินำสืบพยานไปตามคำให้การนั้นได้
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับบัญชีระบุพยานของจำเลยว่า'รับ 5 อันดับ' แสดงว่าได้ใช้ดุลพินิจสั่งรับบัญชีระบุพยานของจำเลยที่ยื่นฝ่าฝืนต่อกฎหมายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5892/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมพิจารณาคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับคู่ความและพยานเดียวกัน ศาลชอบด้วยกฎหมาย
คดีสามสำนวนค้างพิจารณาอยู่ในศาลชั้นต้นเดียวกันโจทก์และจำเลยทั้งสามสำนวนเป็นคู่ความรายเดียวกันพยานโจทก์และพยานจำเลยทั้งสามสำนวนส่วนใหญ่เป็นพยานชุดเดียวกัน จะเป็นการสะดวกหากพิจารณารวมกัน จำเลยยื่นคำร้องขอให้รวมพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสามสำนวนเข้าด้วยกันหลังจากคดีสำนวนแรกสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วและสืบพยานจำเลยไปบ้างแล้ว ส่วนคดีอีกสองสำนวนเพียงแต่สืบพยานโจทก์เสร็จซึ่งเป็นเวลา ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาทั้งสามสำนวน โจทก์มีโอกาสสืบ พยานโจทก์ทั้งสามสำนวนและซักค้านพยานจำเลยได้เต็มที่ในสำนวนแรก แม้จำเลยจะงดสืบพยานจำเลยอีกสองสำนวนก็มิได้ทำให้โจทก์เสียเปรียบในเชิงคดี การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้พิจารณาพิพากษาคดีทั้งสามสำนวนเข้าด้วยกันจึงเป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 28

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4512/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานร่วมกระทำผิด คำให้การชอบด้วยกฎหมาย และอำนาจสอบสวนคดีอาญา
แม้พยานโจทก์ทั้งสองปากจะมีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลย แต่เมื่อพนักงานสอบสวนได้กันไว้เป็นพยานค่าเบิกความของพยานดังกล่าวอาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่มีน้ำหนักน้อย มิใช่จะรับฟังไม่ได้เลยเสียทีเดียว และถ้าหากโจทก์มีพยานหลักฐานอื่นประกอบแล้ว ก็รับฟังลงโทษจำเลยได้
ผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีอยู่ในฐานะเป็นคู่ความ จึงมีสิทธิที่จะเรียงคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ตลอดทั้งมีสิทธิเรียงคำฟ้องอุทธรณ์และคำแก้อุทธรณ์ได้
เหตุความผิดฐานฆ่าผู้ตายเกิดที่อำเภอ ก. ถือว่าความผิดฐานใช้จ้าง วาน ให้ฆ่าผู้ตาย เกิดในท้องที่ดังกล่าวท้องที่หนึ่งด้วยและคดีได้เริ่มทำการสอบสวนตั้งแต่จับจำเลยยังไม่ได้ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอ ก. ซึ่งท้องที่ที่พบการกระทำผิดก่อนอยู่ในเขตอำนาจย่อมเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา มาตรา 19 ข้อบังคับของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา เป็นเพียงระเบียบปฏิบัติภายในที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของข้อบังคับดังกล่าวหาทำให้อำนาจสั่งคดีของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอ ก. ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเสียไปไม่ การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3489/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยาน การพิสูจน์สาเหตุการตาย และผลของกรมธรรม์ประกันภัยเมื่อมีการชำระเบี้ยผ่านตัวแทน
ขณะศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์นำ ณ. เข้าสืบยังอยู่ระหว่างการนัดสืบพยานประเด็นโจทก์และโจทก์ยังไม่ได้แถลงหมดพยานทั้งหมดแม้จำเลยจะนำพยานเข้าสืบบ้างแล้วแต่ก็ไม่มีกฎหมายห้ามโจทก์นำพยานมาสืบเพิ่มในกรณีนี้ จึงรับฟังคำพยานของ ณ. ได้ กรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุที่ ส. เอาประกันไว้กับจำเลยที่ 1 ระบุว่าในกรณีที่ ส. ถึงแก่กรรมเนื่องจากการประสบอุบัติเหตุจำเลยที่ 1 จะจ่ายเงินจำนวนประกันรวมจำนวนเงินประกันอุบัติเหตุให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความว่า ส.ป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจตีบก็ตามแต่เหตุที่ทำให้ส. ถึงแก่ความตายเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุถูกสุกรเข้าชนที่ขาด้าน หลังล้มหงายศีรษะฟาด พื้นคอกสุกร กรณีจึงต้องถือว่า ส. ถึงแก่กรรมเนื่องจากการประสบอุบัติเหตุ มิใช่เนื่องจากการป่วยเจ็บอันเป็นเหตุยกเว้นความรับผิดตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดจ่ายเงินประกันตามสัญญา จำเลยที่ 3 ตัวแทนเชิด เก็บเบี้ยประกันตามที่ได้รับมอบหมายมาให้จำเลยที่ 2 แม้จำเลยที่ 1 ผู้รับประกันภัยยังไม่ออกหลักฐานการรับชำระเบี้ยประกันให้โจทก์ ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับชำระเบี้ยประกันภัยโดยผ่านทางจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นตัวแทนแล้ว กรมธรรม์จึงยังไม่สิ้นผลบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3460/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมด้วยวาจาต้องทำในขณะอันตรายใกล้ตายและผู้ทำพินัยกรรมต้องแสดงเจตนาได้ มิเช่นนั้นไม่สมบูรณ์
ป.พ.พ. มาตรา 1663 บัญญัติให้ผู้ตก อยู่ ในอันตรายใกล้ความตายทำพินัยกรรมด้วยวาจาได้ การที่ผู้ทำพินัยกรรมมีอาการป่วยหนักพูดจาไม่ได้ ไม่สามารถให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ได้ แต่ไม่ปรากฏว่าขณะผู้ทำพินัยกรรมแสดงเจตนากำหนดข้อพินัยกรรมนั้นผู้ทำพินัยกรรมตก อยู่ ในอันตรายใกล้ความตายไม่สามารถทำพินัยกรรมตามแบบอื่น กรณีจึงมิใช่เป็นเรื่องที่จะทำพินัยกรรมด้วยวาจาตามบทบัญญัติดังกล่าวได้.
of 67