คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้คดีก่อนหน้าเกี่ยวกับที่ดินเดียวกัน เพราะประเด็นต่างกัน และการครอบครองเป็นไปแทนโจทก์
จำเลยขายฝากที่ดินกับโจทก์จนครบกำหนดไถ่ถอนคืนแล้วโจทก์จำเลยตกลงกันเป็นหนังสือว่าโจทก์จะเอาที่ดินไว้เฉพาะด้านที่ติดถนน ส่วนด้านหลังทั้งหมดคืนให้แก่จำเลย และได้มอบที่ดินให้จำเลยครอบครอง ต่อมาโจทก์ขอออกโฉนดที่ดินพิพาท จำเลยจึงฟ้องบังคับให้โจทก์โอนที่ดินให้ตามสัญญา ขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทเป็นคดีนี้ เช่นนี้แม้คดีทั้งสองจะพิพาทเกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกัน คู่ความรายเดียวกันและต่อมาคดีแรกศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ เพราะคดีแรกจำเลยฟ้องโจทก์ให้ปฏิบัติตามสัญญา คดีมีประเด็นว่าสัญญามีผลบังคับหรือไม่ ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคำฟ้องในเรื่องละเมิดเกี่ยวกับที่ดินทั้งแปลง ประเด็นแห่งคดีต่างกัน ถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
แม้โจทก์จะยอมให้จำเลยครอบครองที่พิพาทตลอดมาโดยมีเจตนาจะให้ที่พิพาทแก่จำเลยก็เป็นเรื่องจะให้หรือคำมั่นจะให้ถือไม่ได้ว่าโจทก์สละสิทธิการครอบครองแล้ว การครอบครองของจำเลยเป็นการครอบครองแทนโจทก์ แม้ต่อมาจำเลยได้ฟ้องให้โจทก์โอนที่ดินแก่จำเลยตามสัญญาเพื่อแสดงการโต้แย้งสิทธิ หรือเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือแต่โจทก์ก็ฟ้องคดีนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่จำเลยฟ้องคดีดังกล่าว จำเลยจึงไม่ได้สิทธิครอบครองในที่พิพาท
ปัญหาเรื่องค่าเสียหาย โจทก์ไม่ได้ฎีกา การที่โจทก์ยื่นคำแก้ฎีกายกปัญหาข้อนี้ขึ้นให้ศาลฎีกาวินิจฉัยด้วยเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3272/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่จากการเช่าปากเปล่า: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหรือไม่?
ฟ้องโจทก์ตั้งสภาพข้อกล่าวหาว่าจำเลยอยู่อาศัยบ้านพิพาทของโจทก์โดยการเช่าไม่มีลายลักษณ์อักษร และไม่มีกำหนดระยะเวลา โจทก์ประสงค์จะใช้ประโยชน์เอง บอกกล่าวให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออก จำเลยและบริวารไม่ออกทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายโดยเปรียบเทียบเป็นอัตราค่าเช่าขณะยื่นฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่ฟ้องตามสัญญาเช่า โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องว่า มีข้อสัญญาว่าจำเลยชำระเงินค่าเช่าวิธีใด อย่างไร ผิดนัดค่าเช่าอย่างไร เป็นฟ้องซึ่งบรรยายแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับและข้ออ้างเป็นที่อาศัยแห่งข้อหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 แล้ว ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจผู้จัดการมรดกฟ้องขับไล่และการไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์
พินัยกรรมตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก กำหนดให้โจทก์ดำเนินการแบ่งแยกที่ดินมรดกให้ทายาทผู้ตายโดยให้มีถนนเข้าสู่ที่ดินทุกแปลง เมื่อโจทก์เพียงแต่โอนที่ดินใส่ชื่อทายาทของผู้ตายลงในโฉนด แต่ยังมิได้จัดการแบ่งแยกที่ดินและทำถนนการจัดการมรดกจึงยังไม่เสร็จสิ้น โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินอันเป็นมรดกของผู้ตายได้
เมื่อจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินพิพาท แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินนั้นติดต่อกันมาเกิน 10 ปีก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2926/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่ของผู้จัดการมรดกยังคงมีอยู่จนกว่าการจัดการมรดกจะเสร็จสิ้น แม้จะโอนทรัพย์สินให้ทายาทแล้ว
พินัยกรรมตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก กำหนดให้โจทก์ดำเนินการแบ่งแยกที่ดินมรดกให้ทายาทผู้ตายโดยให้มีถนนเข้าสู่ที่ดินทุกแปลง เมื่อโจทก์เพียงแต่โอนที่ดินใส่ชื่อทายาทของผู้ตายลงในโฉนด แต่ยังมิได้จัดการแบ่งแยกที่ดินและทำถนนการจัดการมรดกจึงยังไม่เสร็จสิ้น โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินอันเป็นมรดกของผู้ตายได้
เมื่อจำเลยเป็นผู้เช่าที่ดินพิพาท แม้จำเลยจะครอบครองที่ดินนั้นติดต่อกันมาเกิน 10 ปีก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการครอบครองสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: ผู้ยึดถือไม่มีสิทธิในที่ดินและฟ้องขับไล่ไม่ได้
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้น ผู้ใดหามีสิทธิครอบครองและมีกรรมสิทธิ์ไม่ โจทก์ผู้ยึดถือครอบครองอยู่จึงไม่มีสิทธิให้เช่า การที่โจทก์ให้ผู้อื่นเช่า จึงเป็นการมอบการยึดถือครอบครองให้แก่ผู้อื่น และผู้ยึดถือครอบครองที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินจะหวงกันผู้อื่นได้ก็แต่ขณะที่ยึดถือครอบครองอยู่ เมื่อโจทก์มิใช่ผู้ยึดถือครอบครองเสียแล้ว จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้ครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไถ่ถอนการขายฝากแม้ไม่จดทะเบียน ก็มีผลใช้ยันระหว่างคู่กรณี โจทก์ในฐานะทายาทไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทไว้กับ ซ.สามีโจทก์ 1 ปีจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากแล้ว แม้การไถ่ถอนจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม ก็เป็นเพียงทำให้การกลับคืนมาซึ่งทรัพย์สิทธิในที่ดินยังไม่บริบูรณ์เท่านั้น แต่ในระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยกันเอง ย่อมมีผลใช้ยันกันได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของ ซ. จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝาก: ผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์และการฟ้องขับไล่
จำเลยให้การว่าซื้อที่ดินและตึกแถวรายพิพาทจริง โดยทำนิติกรรมขายฝาก แต่โจทก์ให้จดทะเบียนเป็นสัญญาซื้อขายเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญาขายฝาก หากเป็นจริงดังจำเลยอ้างสัญญาซื้อขายย่อมตกเป็นโมฆะ บังคับไม่ได้ โจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวพิพาทส่วนโจทก์จะได้กรรมสิทธิ์และมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยตามสัญญาขายฝากหรือไม่ เป็นปัญหาที่จะต้องพิจารณาในภายหลัง คดีจำเป็นต้องฟังพยานต่อไป(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินสาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ จำเลยผู้ครอบครองมีสิทธิดีกว่า
ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันโจทก์จะอ้างความเป็นเจ้าของหรือสิทธิครอบครองเหนือที่ดินพิพาทไม่ได้เมื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทอยู่ จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิในที่ดินนั้นดีกว่าโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสอง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขับไล่-ฟ้องแย้งสัญญาเช่า: ศาลต้องรับฟ้องแย้งทั้งหมดเมื่อเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอาคารและบ้านซึ่งจำเลยเช่าจากโจทก์โดยมิได้ทำหนังสือสัญญาเข่าและไม่มีกำหนดระยะเวลาเช่า จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า สัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทน ขอให้บังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนโดยยินยอมให้จำเลยเช่าอาคารและบ้านเป็นเวลา 20 ปี หากโจทก์ไม่อาจให้เช่าได้ก็ขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ500,000 บาท คำขอให้ชดใช้ค่าเสียหายจึงเกี่ยวเนื่องกับคำขอที่บังคับให้ปฏิบัติตามสัญญาและเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมด้วย ศาลต้องรับฟ้องแย้งไว้ทั้งหมด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยไม่สุจริต โจทก์ซื้อรู้ว่าจำเลยซื้อก่อน ย่อมฟ้องขับไล่ไม่ได้
โจทก์ซื้อและจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและตึกแถวพิพาทจาก ช. โดยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยได้ซื้อที่ดินและตึกแถวพิพาทไว้ก่อนเป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริต โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและตึกแถวพิพาทไม่ได้.
of 59