คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับของโจร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่เข้าข่ายรับของโจร ต้องมีเจตนาซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือพาเอาไปเสีย ซึ่งฎีกานี้เห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอฟัง
การที่มีผู้เห็นจำเลยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่หายไปโดยมีนาย อ. เป็นคนขับในวันรุ่งขึ้นจากที่รถหาย และในตอนเย็นหลังจากวันที่รถหายได้ 1 วัน บุตรชายของนาย ย. ได้พาเพื่อน4 คนไปที่บ้านของนาย ย. พร้อมกับรถคันที่หายโดยมีจำเลยไปด้วยจำเลยค้างที่บ้านของนาย ย.2 คืน แล้วกลับไปก่อน ส่วนคนอื่นค้าง 3 คืน เมื่อจำเลยกลับไปแล้ว รถคันที่หายก็ยังอยู่ที่บ้านของนาย ย. และในวันที่เจ้าพนักงานตำรวจไปยึดชิ้นส่วนรถที่บ้านของนาย ย. ไม่เห็นจำเลย ดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าจำเลยไปกับคนร้ายเท่านั้น การกระทำของจำเลยยังถือไม่ได้ว่าเป็นการซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซึ่งรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจรและการทำเอกสารให้สูญหาย จำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา
จำเลยรับเช็คของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายมาโดยทราบว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาอันเป็นความผิดฐานรับของโจร เมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเช็คของผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 188 อีกบทหนึ่งด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจรและทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นไร้ประโยชน์ การเบิกเงินเช็คลักมาเข้าข่ายความผิดมาตรา 188
จำเลยรับเช็คของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายมาโดยทราบว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาอันเป็นความผิดฐานรับของโจรตาม ป.อ.มาตรา 357 เมื่อจำเลยนำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารจึงเป็นการเอาไปเสียซึ่งเช็คของผู้เสียหายในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายอันเป็นความผิดตามมาตรา 188 อีกบทหนึ่งด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6395/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร: ต้องหลังการยักยอก
ความผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ถูกยักยอกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อจำเลยกระทำหลังจากความผิดฐานยักยอกได้เกิดขึ้นแล้ว โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับ-ของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 โดยรถยนต์กระบะดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ ย.ยักยอกจากโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2530 เป็นการฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานรับของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมก่อนที่รถยนต์กระบะนั้นถูก ย.ยักยอกไป การกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6395/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจรต้องเกิดขึ้นหลังการกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานรับของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 โดยรถยนต์กระบะดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ ย. ยักยอกจากโจทก์ร่วมโดยทุจริตเมื่อวันที่29 ตุลาคม 2530 เป็นการฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยได้กระทำความผิดฐานรับของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมก่อนที่รถยนต์กระบะนั้นถูก ย. ยักยอกเอาไป การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6395/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานรับของโจรต้องเกิดขึ้นหลังการยักยอก การบรรยายฟ้องไม่ถูกต้องทำให้ไม่ครบองค์ประกอบความผิด
ความผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ถูกยักยอกจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อจำเลยกระทำหลังจากความผิดฐานยักยอกได้เกิดขึ้นแล้วโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2528 โดยรถยนต์กระบะดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ ย. ยักยอกจากโจทก์ร่วมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2530เป็นการฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานรับของโจรรถยนต์กระบะของโจทก์ร่วมก่อนที่รถยนต์กระบะนั้นถูก ย. ยักยอกไปการกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5621/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร: โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยรู้ว่าเป็นทรัพย์ผิดกฎหมาย การครอบครองทรัพย์เพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
คดีเกี่ยวกับรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดมิใช่เพียงแต่คิดหรือเห็นว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์แล้วต้องให้จำเลยนำสืบแก้ตัวว่าไม่รู้ว่าเป็นของร้าย การที่เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 1 ได้ขณะเอาลูกกุญแจไปไขจะติดเครื่องขับรถจักรยานยนต์ของ ม. ซึ่งมีหน้าปัดวัดความเร็วอันเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปติดอยู่ เพียงเท่านี้จะฟังว่าจำเลยที่ 1 ครอบครองจักรยานยนต์ของกลางโดยรู้แล้วว่ามีของผิดกฎหมายซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฐานความผิดจากรับของโจรเป็นลักทรัพย์โดยตรงจากพยานหลักฐานที่ได้จากการพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์รับของโจร ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจร จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้กระทำความผิดฐานรับของโจรศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่กระทำความผิดเข้าองค์ประกอบฐานลักทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 334 ประกอบด้วยมาตรา 336 ทวิแต่ให้กำหนดโทษคงเดิมได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจรสุจริต - ไม่ต้องคืนทรัพย์สิน - ผู้เสียหายไม่เสนอราคา
พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรและให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหาย เมื่อศาลฟังว่าจำเลยรับซื้อสินค้าไว้โดยสุจริตไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานฉ้อโกงและพิพากษายกฟ้อง โจทก์ร่วมมิได้เสนอราคาสินค้าให้จำเลย จำเลยจึงไม่ต้องคืนหรือใช้ราคาสินค้านั้นแก่โจทก์ร่วมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1332

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1928/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร – สุจริต – ไม่รู้ว่าเป็นของชำรุด – ไม่ต้องคืนของ
จำเลยรับซื้อสินค้าไว้โดยไม่มีพฤติการณ์ใดส่อให้เห็นว่าเป็นการรับซื้อไว้โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ ร. ฉ้อโกงมาจากโจทก์ร่วม เป็นการซื้อไว้โดยสุจริตย่อมไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร การที่จำเลยรับซื้อสินค้าของโจทก์ร่วมไว้จาก ร.พนักงานขายของโจทก์ร่วมถือได้ว่าเป็นการซื้อสินค้าไว้จาก ร.ผู้ขายสินค้าชนิดนั้น เมื่อจำเลยซื้อมาโดยสุจริตและไม่ปรากฎว่าโจทก์ร่วมเสนอชดใช้ราคาให้ จำเลยจึงไม่จำต้องคืนสินค้าของกลางหรือชดใช้ราคาสินค้านั้นให้แก่โจทก์ร่วม
of 65