พบผลลัพธ์ทั้งหมด 687 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำของและการรับผิดในความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญา
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ได้ความว่า จำเลยรับจ้างทำไม้ให้แก่โจทก์ตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา แต่จำเลยทำไม้ไม่ครบ ไม้บางส่วนสูญหาย ขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดสัญญา มิได้ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิด คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม สัญญาจ้างที่ว่า ผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำไม้หวงห้ามที่ทำออกจากป่าสัมปทาน ไม้ต้นใดหรือท่อนใดที่ผู้รับจ้างได้ลงมือทำผู้รับจ้างมีหน้าที่ดูแลรักษามิให้เกิดความเสียหายจนกว่าผู้จ้างจะได้ขายให้ผู้รับจ้าง ไม้ที่ตีตราภาคหลวงแล้วผู้จ้างจะขายให้แก่ผู้รับจ้าง และผู้รับจ้างมีหน้าที่นำเงินมาชำระเพื่อนำไปวางมัดจำเพื่อตีตราภาคหลวง มิฉะนั้นผู้จ้างอาจจะนำไม้จำหน่ายแก่ผู้อื่นได้โดยผู้จ้างจะชำระค่าจ้างทำไม้ซึ่งเป็นสินจ้างแก่ผู้รับจ้าง เช่นนี้เป็นสัญญาจ้างทำของ จำเลยให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าไม้ โจทก์มิได้ฟ้องคดีภายใน 2 ปี แต่จำเลยฎีกาว่าโจทก์มิได้ฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ที่ซื้อขายขาดตกบกพร่องภายใน 1 ปี นับแต่เวลาส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 467 ฎีกาของจำเลยจึงแตกต่างจากที่จำเลยให้การไว้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างร่วมรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้าง: ผลประโยชน์ร่วมกันในการประกอบการขนส่ง
พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้มีชื่อในทะเบียนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุมีชื่อเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ที่ข้างรถยนต์บรรทุกมีชื่อของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 ยอมรับว่านำรถยนต์บรรทุกไปประกอบการขนส่งในนามของจำเลยที่ 2 ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองมีผลประโยชน์ร่วมกันในการประกอบการขนส่ง และร่วมกันเป็นนายจ้างของ ถ.ผู้ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวเมื่อถ. ผู้เป็นลูกจ้างกระทำละเมิดในทางการที่จ้าง และในการประกอบการขนส่งอันเป็นธุรกิจที่จำเลยทั้งสองมีผลประโยชน์ร่วมกัน จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5392/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีผลผูกพัน แม้จำเลยวางเงินหลังฟ้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยไม่อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถือว่าพอใจในผลของคำพิพากษาแล้ว แม้โจทก์จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 เพื่อให้จำเลยรับผิดเต็มตามจำนวนในฟ้อง ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่ว่าจะเป็นประการใดจะไม่ลดความรับผิดของจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นลงอีก และที่จำเลยนำเงินตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลก่อนที่โจทก์จะขอหมายบังคับคดีและโดยไม่ปรากฎสาเหตุจะถือว่าเป็นการวางเพื่อให้มีผลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 295 (1) ไม่ได้ ต้องถือว่าจำเลยวางเงินเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แม้จำเลยจะคัดค้านก็ไม่ตัดอำนาจศาลชั้นต้นที่จะสั่งอนุญาตให้โจทก์รับเงินที่จำเลยวางไว้ต่อศาลชั้นต้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4991/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คมีมูลหนี้ ผู้ลงลายมือชื่อต้องรับผิด แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องดวงตราและอากรแสตมป์
เมื่อได้ความว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์โดยมีมูลหนี้ระหว่างกันจึงหาต้องคำนึงถึงการรับโอนของผู้ทรงคนต่อมาว่าสุจริตหรือไม่ เพราะจำเลยไม่สามารถยกข้อต่อสู้ว่าเช็คไม่มีมูลหนี้ขึ้นต่อสู้ผู้ทรงคนก่อนได้อยู่แล้ว เช็คพิพาทเป็นเช็คส่วนตัวของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท จำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายและประทับดวงตราสำคัญแบบใหม่ของจำเลยที่ 1 ซึ่งยังมิได้จดทะเบียนการใช้ จึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย แต่การที่เช็คพิพาทลงลายมือชื่อบุคคลหลายคน มีทั้งบุคคลซึ่งไม่อาจเป็นคู่สัญญาแห่งตั๋วเงินนั้นได้เลยหรือเป็นได้แต่ไม่เต็มผล ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงความรับผิดของบุคคลอื่น ๆ นอกนั้นซึ่งคงต้องรับผิดตามตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 902 ดังนั้นจำเลยที่ 2 จึงยังคงต้องรับผิดตามเช็ค จำเลยทั้งสองรับว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพียงแต่อ้างว่าไม่ต้องรับผิดตามเช็ค ดังนี้แม้เช็คพิพาทจะปิดอากรแสตมป์ไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงก็รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2ได้สั่งจ่ายเช็คพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4943/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาเกินเลยคำฟ้องในคดีละเมิด การรับผิดของบิดาต่อการกระทำของบุตรผู้เยาว์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดฐานกระทำละเมิด โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้ร่วมกันกระทำละเมิดโดยร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงบุตรโจทก์ตาย การที่ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 1 มิได้ร่วมกันจำเลยที่ 3 ในการใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่กลับพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดของจำเลยที่ 3 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 429 ในฐานะบิดาซึ่งมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลปล่อยให้จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรผู้เยาว์หยิบฉวยอาวุธปืนไปใช้ยิงผู้ตาย จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้องเป็นการนอกฟ้อง นอกประเด็นตาม ป.วิ.พ.มาตรา 142 และปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นอ้างซึ่งปัญหาเช่นว่านั้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4849/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันด้วยเอกสารปลอม: จำเลย 2 ต้องรับผิดในฐานะส่วนตัว แม้หนังสือมอบอำนาจเป็นเท็จ
จำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกทำหนังสือมอบอำนาจปลอมว่าจำเลยที่ 1มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 นำหลักทรัพย์ไปประกันตัวผู้ต้องหากับโจทก์แล้วจำเลยที่ 2 เข้าทำสัญญาประกันกับโจทก์โดยอาศัยหนังสือมอบอำนาจปลอมดังกล่าว เพื่อให้โจทก์หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงและยินยอมให้จำเลยที่ 2 ประกันตัวผู้ต้องหาไป หลังจากนั้นจำเลยที่ 2ได้ไปขอผัดส่งตัวผู้ต้องหากับโจทก์หลายครั้ง โดยเป็นที่ตระหนักดีแก่จำเลยที่ 2 ว่าตนเองมิได้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่ 1 แต่อย่างใดจึงเท่ากับจำเลยที่ 2 เข้าทำสัญญาประกันกับโจทก์ในฐานะส่วนตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4637/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารต้องรับผิดชอบการจ่ายเช็คที่มีลายมือชื่อปลอม แม้จะอ้างว่าผู้เสียหายประมาทในการเก็บรักษาเช็ค
เช็คที่โจทก์เก็บรักษาไว้ที่บ้านก็ดี ที่นำติดตัวไปด้วยโดยเก็บไว้ในกระเป๋าในรถยนต์ก็ดีเป็นการเก็บเช็คและนำเช็คติดตัวไปเพื่อใช้ดังเช่นที่วิญญูชนจะพึงปฏิบัติตามปกติธรรมดา มิได้มีความบกพร่องไม่เก็บเช็คไว้ในที่มั่นคงและปลอดภัยแต่อย่างใด ถือไม่ได้ว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารจำเลยจ่ายเงินตามเช็คพิพาทไป แม้จะอ้างว่าปราศจากความประมาทเลินเล่อแต่เมื่อลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายในเช็คเป็นลายมือชื่อปลอม ไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ จำเลยจึงหาหลุดพ้นความรับผิดไปไม่ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาฝากเงินประเภทเงินฝากกระแสรายวันซึ่งมีข้อตกลงว่าในการใช้เช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์จะต้องลงลายมือชื่อโจทก์เป็นผู้สั่งจ่าย แต่จำเลยจ่ายเงินตามเช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อโจทก์ จึงขอให้จำเลยคืนเงินที่จำเลยหักไปจากบัญชีของโจทก์เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม(มาตรา 193/30 ที่แก้ไขใหม่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4455/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยต้องรับผิดตามเช็ค หากไม่สามารถพิสูจน์ข้ออ้างเรื่องการเป็นตัวแทนได้ คดีแพ่งไม่ผูกพันกับผลคดีอาญา
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็ค เมื่อจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริงเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยให้การว่าเป็นตัวแทนของโจทก์นำเงินของโจทก์ไปลงทุนเล่นแชร์น้ำมันกับ ช.จึงสั่งจ่ายเช็คพิพาทไว้เป็นหลักฐาน เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดตามเช็ค หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยนำสืบฟังไม่ได้ตามที่ให้การต่อสู้ไว้ จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์
คดีอาญามีผลชี้ขาดเพียงไม่มีมูลในเจตนากระทำผิดทางอาญาเท่านั้น ทั้งคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผลแห่งคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันคดีแพ่งนี้
คดีอาญามีผลชี้ขาดเพียงไม่มีมูลในเจตนากระทำผิดทางอาญาเท่านั้น ทั้งคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผลแห่งคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันคดีแพ่งนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4455/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดในฐานะผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย หากไม่สามารถพิสูจน์ข้ออ้างการเป็นตัวแทนได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็ค เมื่อจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริงเบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยให้การว่าเป็นตัวแทนของโจทก์นำเงินของโจทก์ไปลงทุนเล่นแชร์น้ำมันกับ ช. จึงสั่งจ่ายเช็คพิพาทไว้เป็นหลักฐาน เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดตามเช็ค หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยนำสืบฟังไม่ได้ตามที่ให้การต่อสู้ไว้ จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์ คดีอาญามีผลชี้ขาดเพียงไม่มีมูลในเจตนากระทำผิดทางอาญาเท่านั้น ทั้งคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผลแห่งคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันคดีแพ่งนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4282/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยต้องรับผิดตามเช็ค หากไม่สามารถพิสูจน์ข้ออ้างการเป็นตัวแทนได้ คดีแพ่งไม่ผูกพันผลคดีอาญา
โจทก์ทั้งสามฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็ค เมื่อจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทจริง เบื้องต้นต้องถือว่าโจทก์ทั้งสามเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเลยให้การว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ทั้งสามนำเงินของโจทก์ทั้งสามไปลงทุนเล่นแชร์น้ำมันกับ ช. จึงสั่งจ่ายเช็คพิพาทไว้เป็นหลักฐาน เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดตามเช็ค หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงตกอยู่แก่จำเลย เมื่อจำเลยนำสืบฟังไม่ได้ตามที่ให้การต่อสู้ไว้ จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสาม
ส่วนเงินจำนวน 321,600 บาท ที่จำเลยรับไปจากโจทก์ที่ 2นั้น จำเลยไม่ได้ฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดแต่อย่างใด จึงต้องฟังว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ 2
คดีอาญามีผลชี้ขาดเพียงไม่มีมูลในเจตนากระทำผิดทางอาญาเท่านั้นทั้งคดีแพ่งที่โจทก์ทั้งสามฟ้องก็มิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผลแห่งคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันคดีแพ่งนี้
ส่วนเงินจำนวน 321,600 บาท ที่จำเลยรับไปจากโจทก์ที่ 2นั้น จำเลยไม่ได้ฎีกาโต้เถียงว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดแต่อย่างใด จึงต้องฟังว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ 2
คดีอาญามีผลชี้ขาดเพียงไม่มีมูลในเจตนากระทำผิดทางอาญาเท่านั้นทั้งคดีแพ่งที่โจทก์ทั้งสามฟ้องก็มิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ผลแห่งคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันคดีแพ่งนี้