คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับสารภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 559 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2070/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร้ายแรง แม้จะรับสารภาพและลดโทษแล้ว ศาลฎีกาไม่รอการลงโทษ
จำเลยกระทำความผิดถึง 2 กระทง คือจำหน่ายกัญชาซึ่ง เป็นยาเสพติดให้โทษและมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นภัยต่อ สังคมอย่าง ร้ายแรง แม้กัญชาทั้งหมดจะมีน้ำหนักเพียง 5 กรัมและแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ก็ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดให้เล่นวีดีโอเกมเป็นการพนัน แม้ผู้เล่นไม่ได้เล่นพนันกันเอง และการฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพ
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดให้เล่นวิดีโอเกมเป็นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน แม้ไม่มีการเดิมพันทรัพย์สินโดยตรง การฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพต้องห้าม
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1283/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งส่วนตัว มีแผนการล่วงหน้าและรับสารภาพ
ผู้ตายกับจำเลยเคยมีสาเหตุกันเนื่องจากผู้ตายแบ่งเงินจากการขายรถจักรยานยนต์ที่ลักมาให้จำเลยน้อยและพูดจาดูถูกจำเลยเสมอวันเกิดเหตุผู้ตายกับจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกันเนื่องจากจำเลยลวงผู้ตายว่ามีผู้สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจำเลยใช้อาวุธปืนที่พาติดตัวไปยิงผู้ตายในลักษณะจ่อยิงด้านหลัง แล้วลากศพไปทิ้งไว้ในป่า และนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อนไว้ก่อนเกิดเหตุไม่ปรากฏว่าจำเลยทะเลาะกับผู้ตาย เช่นนี้แสดงว่าจำเลยได้วางแผนตระเตรียมการที่จะฆ่าผู้ตายไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงฟังได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญา ศาลไม่จำเป็นต้องถามข้อหาเฉพาะ หากจำเลยรับสารภาพตามฟ้องทั้งหมด
เมื่อศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วว่าโจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาใดบ้าง แล้วจึงถามคำให้การจำเลย ซึ่งจำเลยก็ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง แสดงว่ารับสารภาพในทุกข้อหาที่โจทก์บรรยายในฟ้องและศาลอาจลงโทษจำเลยในทุกข้อหาดังกล่าวได้ ดังนี้ ศาลชั้นต้นไม่จำต้องถามจำเลยต่อไปอีกว่าจำเลยรับสารภาพในข้อหาใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญา ศาลต้องสอบถามให้ชัดเจนถึงข้อหาที่รับสารภาพเพื่อความถูกต้องของกระบวนการยุติธรรม
ศาลชั้นต้นอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วว่า โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาใด บ้าง แล้วจึงถาม คำให้การจำเลยที่ 4 และที่ 5 ซึ่ง จำเลยทั้งสองก็ให้การ รับสารภาพว่าได้ กระทำ ผิดจริงตาม ฟ้อง แสดงว่ารับสารภาพในทุกข้อหาตาม ที่โจทก์บรรยายในฟ้องและศาลอาจลงโทษจำเลยในทุกข้อหาดังกล่าวได้ ศาลชั้นต้นไม่จำต้องถาม จำเลยทั้งสองต่อไปอีกว่า จำเลยทั้งสองรับสารภาพในข้อหาใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญา: ศาลไม่ต้องถามย้ำถึงข้อหาที่รับสารภาพหากจำเลยรับสารภาพตามฟ้อง
เมื่อศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วว่าโจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในข้อหาใดบ้าง แล้วจึงถามคำให้การจำเลย ซึ่งจำเลยก็ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง แสดงว่ารับสารภาพในทุกข้อหาที่โจทก์บรรยายในฟ้องและศาลอาจลงโทษจำเลยในทุกข้อหาดังกล่าวได้ ดังนี้ ศาลชั้นต้นไม่จำต้องถามจำเลยต่อไปอีกว่าจำเลยรับสารภาพในข้อหาใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2533 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพ, พยานแวดล้อม, และดุลพินิจศาลในการลดโทษคดีอาญา
จำเลยให้การรับสารภาพและศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองตามฟ้อง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์เพียงขอลดมาตราส่วนโทษโดยมิได้อุทธรณ์ในปัญหาที่ว่าจำเลยมิได้กระทำผิดตามฟ้อง ปัญหานี้จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยก็เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
การพิพากษาคดีอาญา หาได้มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ศาลจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาคดีอื่น ดังนั้นเมื่อ ว. ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดร่วมกับจำเลยถูกฟ้องในคดีอื่น และศาลพิพากษายกฟ้องเพราะไม่มีประจักษ์พยาน จึงไม่ผูกพันศาลว่าจะต้องพิพากษายกฟ้องจำเลยในคดีนี้ด้วย
แม้จำเลยจะกระทำผิดขณะมีอายุ 18 ปี แต่พฤติกรรมที่จำเลยร่วมกันวางแผนกระทำความผิดและดำเนินการตามแผนที่วางไว้ส่อแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกผิดชอบเสมือนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ศาลใช้ดุลพินิจไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 953/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจนหน้าที่สืบพยานของโจทก์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยเพียงข้อหาเดียว การที่จำเลยให้การว่า 'ขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง' ดังนี้ ไม่ชัดเจนว่าจำเลยกระทำผิดฐานใด กรณีเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำความผิดของจำเลยจึงจะลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผลิตอาหารปลอมเกินมาตรฐาน โต้แย้งข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปใจความได้ว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตอาหารประเภทเครื่องดื่มเกลือแร่ชนิดแห่งที่ต้องละลายก่อนบริโภคบรรจุซองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นอาหารควบคุมเฉพาะตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๖๕ (พ.ศ. ๒๕๒๕) ที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของเครื่องดื่มเกลือแร่ ๑ ลิตร ต้องมีปริมาณโซเดียม ๔๐ มิลลิอิควิวาเลนท์ แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ที่จำเลยทั้งสองผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายมีปริมาณโซเดียมมากถึง๑๑๕ มิลลิอิควิวาเลนท์ ต่อเครื่องดื่มเกลือแร่ ๑ ลิตร มีปริมาณโซเดียมเกินกว่าร้อยละ ๑๘๗.๕ จากเกณฑ์สูงสุดตามกฎหมายจึงเป็นอาหารที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามคุณภาพหรือมาตรฐานที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ถึงขนาดส่วนประกอบที่เป็นคุณค่าทางอาหารมีปริมาณเกินกว่าร้อยละ ๓๐ จากเกณฑ์สูงสุดและแตกต่างจากคุณภาพหรือมาตรฐานที่ระบุไว้จนทำให้เกิดโทษหรืออันตรายแก่ร่างกายผู้บริโภค อันเป็นอาหารปลอมโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีจึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แม้มิได้บรรยายว่าเมื่อบริโภคโซเดียมเข้าสู่ร่างกายมากตามฟ้องแล้วจะทำให้ผู้บริโภคได้รับโทษหรืออันตรายอย่างไร ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะนำสืบได้ในชั้นพิจารณาหากจำเลยให้การปฏิเสธ
เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ดังฟ้องของโจทก์จำเลยทั้งสองจะมาโต้เถียงในชั้นฎีกาว่า โซเดียมจำนวนตามที่โจทก์ฟ้องไม่ทำให้เกิดโทษต่อร่างกายหรือไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหาได้ไม่ เพราะเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่จำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ทั้งเป็นการยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งมิได้ว่ากันมาในศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
of 56