พบผลลัพธ์ทั้งหมด 228 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1386/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีใหม่เรียกค่าเสียหายจากสัญญาเดิมที่ไม่สามารถบังคับได้ ศาลวินิจฉัยว่าไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องจำเลยกับผู้รับโอนที่ดินจากจำเลย ขอให้เพิกถอนการโอน เพราะโจทก์มีสัญญาจะซื้อขายที่ดินไว้กับจำเลยก่อนแล้ว ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะสิทธิของโจทก์เป็นบุคคลสิทธิ ไม่มีทรัพยสิทธิที่จะติดตามเอาที่ดินคืนจากบุคคลภายนอก โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และอายุความ การยอมสละข้อโต้เถียงในชั้นศาลมีผลอย่างไรต่อการวินิจฉัยคดี
ได้ความตามฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยว่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัย ที่พิพาทมีโฉนดจำเลยให้การไม่รับรองโฉนด หากมีและโจทก์รับโอนมาก็เป็นสมยอมไม่สุจริตจำเลยไม่ได้อาศัยที่พิพาทนายนวมให้จำเลยๆ ครอบครองมา 15 ปีแล้ว
ชั้นชี้สองสถานจำเลยแถลงว่าแม้ที่จะอยู่ในเขตโฉนดจำเลยก็ได้ครอบครองมา 15 ปีแล้วการรังวัดเพื่อออกโฉนดจะทำกันหรือไม่ไม่ทราบ
ในที่สุดปรากฏในรายงานพิจารณาว่า คู่ความคงโต้เถียงแต่ในเรื่องความสมบูรณ์ของการออกโฉนดกับเหตุแห่งการได้มาซึ่งการครอบครองของฝ่ายจำเลยเท่านั้นได้ความเพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยยอมสละข้อโต้เถียงในคำให้การที่ว่าโจทก์สมยอมโอนกันโดยไม่สุจริตซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการวินิจฉัยคดีไม่ได้เพราะในรายงานพิจารณามิได้ปรากฏให้เห็นเป็นเช่นนั้น
ชั้นชี้สองสถานจำเลยแถลงว่าแม้ที่จะอยู่ในเขตโฉนดจำเลยก็ได้ครอบครองมา 15 ปีแล้วการรังวัดเพื่อออกโฉนดจะทำกันหรือไม่ไม่ทราบ
ในที่สุดปรากฏในรายงานพิจารณาว่า คู่ความคงโต้เถียงแต่ในเรื่องความสมบูรณ์ของการออกโฉนดกับเหตุแห่งการได้มาซึ่งการครอบครองของฝ่ายจำเลยเท่านั้นได้ความเพียงเท่านี้จะถือว่าจำเลยยอมสละข้อโต้เถียงในคำให้การที่ว่าโจทก์สมยอมโอนกันโดยไม่สุจริตซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการวินิจฉัยคดีไม่ได้เพราะในรายงานพิจารณามิได้ปรากฏให้เห็นเป็นเช่นนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อพิพาทตามข้อตกลงท้าทายเขตที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาตามประเด็นที่ตกลง หรือพิจารณาตามประเด็นในคดี
เมื่อคู่ความตกลงท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะในข้อที่ว่าเมื่อตรวจสอบเขตที่ดินแล้วถ้าที่ดินพิพาทตกอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด อีกฝ่ายหนึ่งยอมยกให้แก่ฝ่ายนั้นเช่นนี้ศาลต้องวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ท้ากันเท่านั้นแต่ถ้าการตรวจสอบเขตที่ดินยังไม่พอจะให้ชี้ขาดไปตามที่คู่ความท้ากันแล้วศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาไปตามประเด็นในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามเมื่อศาลชั้นต้นและอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงตรงกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานชิงทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 300ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับลงโทษจำเลยเพียงทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เช่นนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริง แม้จะอ้างเหตุผลไปคนละนัย แต่ในที่สุดก็เห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ดังข้อหาของโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานชิงทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนี้โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์หาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (ประชุมใหญ่ครั้งที่21/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงขัดกับข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 300ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับลงโทษจำเลยเพียงทำร้ายร่างกายตาม มาตรา 254 เช่นนี้เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริง แม้จะอ้างเหตุผลไปคนละนัย แต่ในที่สุดก็เห็นต้องกันว่าจำเลยไม่ผิดฐานลักทรัพย์หรือชิงทรัพย์ดังข้อหาของโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ฐานชิงทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนี้โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์หาได้ไม่ เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 (ประชุมใหญ่ครั้งที่21/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินตื้นเขินริมน้ำไม่ใช่ที่งอกต่อจากที่ดินโฉนด เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน ศาลวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องรังวัด
ที่ท้องทางน้ำซึ่งตื้นเขินขึ้นสูงกว่าที่ของโจทก์และมีลำรางน้ำฝนไหลคั่นกลางเช่นนี้หาใช่ที่งอกต่อจากที่โจทก์ไม่แต่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
เมื่อศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้วศาลก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
เมื่อศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงในคดีพอวินิจฉัยได้แล้วศาลก็มีอำนาจพิพากษาคดีนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกและการครอบครองปรปักษ์: ศาลวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงและสิทธิที่ปรากฏในชั้นพิจารณา
โจทย์ฟ้องว่า นาพิพาทมารดายกให้ และโจทก์ได้ครอบครองโดยปรปักษ์มากว่า 10 ปีขอให้ศาลแสดงว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่า นาพิพาทตกเป็นมรดกได้แก่โจทก์จำเลย และโจทก์มิได้ ได้สิทธิในทางครอบครองปรปักษ์ ดังนี้ศาลย่อมวินิจฉัยให้แบ่งกันได้ตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และสิทธิในมรดก ศาลวินิจฉัยแบ่งทรัพย์สินตามส่วนเมื่อข้ออ้างไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องว่า นาพิพาทมารดายกให้ และโจทก์ได้ครอบครองโดยปรปักษ์มากว่า 10 ปี ขอให้ศาลแสดงว่าเป็นกรรมสิทธิของโจทก์แต่ทางพิจารณาได้ความว่า นาพิพาทตกเป็นมรดกได้แก่โจทก์จำเลยและโจทก์ก็มิได้ ได้สิทธิในทางครอบครองปรปักษ์ดังนี้ศาลย่อมวินิจฉัยให้แบ่งกันได้ตามส่วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยจากสภาพศพต้องมีคำพยานสนับสนุน ศาลไม่สามารถวินิจฉัยเองได้
ข้อความที่ว่าศพยังมีโลหิตไหลออกทางจมูก และศพยังสดอยู่ชวนให้เชื่อว่าถูกทำร้ายตายไม่ถึง 3 วันนั้น ศาลต้องวินิจฉัยโดยมีคำพยานสนับสนุน ศาลไม่อาจรู้เองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสืบพยานร่วมไม่ชัดเจน ศาลต้องวินิจฉัยตามสำนวนที่มีอยู่ การครอบครองที่ดิน
โจทก์จำเลยตกลงสืบพยานร่วมปากเดียว ถ้าพยานเบิกความว่าในการกู้ยืมได้ระบุที่พิพาทเป็นประกันเงินกู้ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ระบุที่รายพิพาทเป็นประกันเงินกู้แล้ว จำเลยยอมแพ้ พยานเบิกความว่าในการกู้เงินได้ระบุที่สวนของจำเลยประกันเงินกู้ ดังนี้จำเลยจะมีที่ดินแปลงเดียวหรืออย่างไรไม่ทราบชัด เห็นได้ว่าพยานไม่ได้เบิกความว่า ได้ระบุที่พิพาทเป็นประกัน ฉะนั้นจะชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะคดีเพราะคำพยานร่วมไม่ได้ ศาลต้องวินิจฉัยตามท้องสำนวนเท่าที่มีอยู่ว่า คู่กรณีฝ่ายใดควรชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยย่อมเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยย่อมเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี