คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สาระสำคัญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับเช็คไม่สำคัญคดี ความแตกต่างในรายละเอียดผู้รับเช็คไม่ถือเป็นข้อแตกต่างสาระสำคัญของฟ้อง
เมื่อศาลฟังว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้ทรงเช็คและเป็นผู้เสียหายแล้ว ใครจะเป็นผู้รับเช็คจากจำเลยก็ไม่ใช่ข้อสารสำคัญของคดี แม้ฟ้องโจทก์จะบรรยายว่าเช็ครายพิพาทจำเลยออกให้แก่โจทก์ร่วม แต่ความจริงจำเลยออกให้แก่คนอื่น ก็ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง อันเป็นข้อสารสำคัญแห่งคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชีเพียงพอ แม้ข้อเท็จจริงในฟ้องต่างจากทางพิจารณา แต่ไม่ถึงขั้นสารสำคัญ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยออกเช็ค 10,000 บาท ให้โจทก์ โจทก์นำเช็คไปขอรับเงิน ธนาคารปฎิเสธไม่จ่ายเงิน เพราะจำเลยไม่มีเงินในบัญชีของธนาคาร ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาปรากฎว่า จำเลยมีเงินในบัญชี 232.32 บาท ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน โดยให้โจทก์ไปติดต่อกับผู้สั่งจ่าย ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณาย่อมแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง แต่ข้อแตกต่างนี้ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ จำเลยจึงต้องมีความผิดดังโจทก์ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนอง: สัญญาจำนองเป็นหลัก สารบัญญัติในสัญญาสำคัญกว่าพยานหลักฐานอื่น แม้มีการตกลงนอกสัญญา
สัญญาจำนองเป็นการทำหนังสือจดทะเบียนไว้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตราทรัพย์สินของตนไว้เป็นประกันการชำระหนี้ สาระสำคัญแห่งการจำนองจึงอยู่ที่ข้อความในหนังสือสัญญาจำนองที่จดทะเบียนไว้ สิ่งที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงก็คือ สัญญาจำนองที่ได้จดทะเบียนไว้นั้น เมื่อสัญญาจำนองระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าจำเลยจำนองที่ดินเต็มทั้งโฉนด และสิ่งปลูกสร้างจำนองด้วยทั้งสิ้น จำเลยจะนำสืบว่าได้ตกลงจำนองกันเพียงที่ดินและห้องแถวเพียง 16 ห้องในจำนวน 22 ห้องที่มีอยู่ในเวลาทำสัญญานั้นหาได้ไม่ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
แม้เอาสารสัญญากู้ที่ลูหนี้ได้ทำไว้กับโจทก์ก่อนหน้าที่จำเลยทำสัญญาจำนองจะได้กล่าวถึงตึกแถวว่าจำนวน 16 คูหาก็ดี ก็เป็นความตกลงคนละเรื่องคนละรายกับสัญญาจำนองรายนี้
แม้ในสัญญาจำนองจำได้กล่าวไว้ว่า ข้อสัญญาอื่น ๆ เป็ฯไปตามสัญญากู้ที่ลูกหนี้ทำไว้กับโจทก์ และตามสัญญากู้กล่าวว่าจำนอง 16 ห้อง แต่เมื่องสัญญาจำนองระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าจำนองที่ดินทั้งโฉนดพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างมากน้องเพียงใดจึงไม่ใช่ข้อสัญญาอื่น ๆ นอกสัญญาจำนอง ดังนั้นจะตีความว่าจำนองเพียง 16 ห้องตามที่กล่าวในสัญญากู้หาได้ไม่
แม้จะถือว่ากรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ได้ยินยอมให้จำเลย+ถอนทรัพย์จำนองบางส่วนออกไปเมื่อยังมิได้จัดการแก้ทะเบียนที่ได้ตราไว้ ก็ไม่กระทบกระเทือนสัญญาจำนองที่มีอยู่
ธนาคารอุตสาหกรรมร้องของให้ศาลสั่งขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองของผู้จำนองหลายรายซึ่งตราไว้เป็ฯประกันหนี้รายเดียวกัน ในวงเงินต่าง ๆ กัน ผู้จำนองร่วมกันทำคำแถลงต่อสู้คดีโดยขอให้ศาลยกคำร้องดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินคดีร่วมกัน มิได้เสนอ-ต่อศาลขอแยกพิพาทเรียงรายตัวบุคคล ดังนั้น เมื่อผู้จำนองแพ้คดี ศาลย่อมพิพากษาให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนฝ่ายที่ชนะคดีได้ ไม่จำต้องแบ่งส่วนตามจำนวนเงินที่แต่ละคนจำนอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาการกระทำผิดเป็นสาระสำคัญ หากไม่ตรงกับที่ฟ้องร้อง ศาลต้องยกฟ้อง
คดีอาญา โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผู้เสียหายถูกจำเลยขู่เข็ญให้รับว่ารับจ้างมาฆ่าจำเลย ขณะผู้เสียหายถูกกักขังคือ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม2505 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 9 มกราคม 2505 เวลากลางวัน เท่านั้นส่วนวันเวลาที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จขึ้นนั้น โจทก์คงระบุยืนยันไว้ชัดแจ้งในตอนต้นว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2505 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ซึ่งแตกต่างกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณา ข้อแตกต่างในเรื่องวันเวลาที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดนี้เป็นข้อสารสำคัญซึ่งตามกฎหมายให้ศาลต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญากู้ใหม่ – ไม่ถือเป็นการแปลงหนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของหนี้เดิม
หนี้เงินกู้ ซึ่งทำหนังสือกู้กันใหม่ โดยรวมจำนวนเงินกู้ครั้งหลังเข้าไว้ด้วยนั้น มิใช่เป็นเรื่องแปลงหนี้ใหม่เพราะไม่มีการเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้แต่อย่างใด
บุคคลที่เป็นหนี้เงินกู้ต่อกัน อาจตกลงทำหนังสือกู้กันใหม่หรือนำเงินกู้รายก่อนๆ มารวมในหนังสือกู้ครั้งหลังได้และการนำสืบถึงที่มาแห่งหนี้ตามหนังสือสัญญากู้ฉบับหลังย่อมมิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารเพราะแม้นำสืบได้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขความรับผิดตามเอกสาร
ผู้กู้จะขอนำสืบว่า ผู้ให้กู้เอาจำนวนดอกเบี้ยเกินอัตรามารวมเป็นต้นเงินในสัญญากู้ได้ เพราะเป็นการนำสืบว่าหนี้อันเกิดจากดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น ไม่สมบูรณ์อย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 517/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเป็นสำคัญในการปลอมเครื่องหมายการค้า การจดทะเบียนไม่เป็นสาระสำคัญ
สารสำคัญขององค์ความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าอยู่ที่เจตนาของการปลอมฉะนั้น เมื่อจำเลยมีเจตนาทำปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นแล้ว แม้โจทก์จะได้บรรยายฟ้องว่าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในหรือนอกราชอาณาจักร จึงไม่ใช่ข้อสำคัญคงเป็นแต่เพียงรายละเอียดในการบรรยายฟ้องเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดในสัญญาแบ่งแยกโฉนดไม่ใช่สาระสำคัญ การไม่ปฏิบัติตามไม่ถือผิดสัญญา
ข้อความในสัญญาอาจมีได้ 2 ประการ คือ ข้อกำหนดอันเป็นสารสำคัญในการแสดงเจตนาตกลงกันประการหนึ่ง กับข้อกำหนดอันเป็นแต่เพียงเพื่อเหตุวิธีการที่จะนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นสารสำคัญแห่งข้อตกลงนั้นอีกประการหนึ่ง การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดประการหลังนี้ หาทำให้คู่กรณีตกเป็นผู้ผิดสัญญาไม่ถ้าจะต้องรับผิดก็เพียงแต่ชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่การนั้นเท่านั้น
ทำสัญญากันว่า ผู้ขายตกลงขายที่ดินให้ผู้ซื้อโดยแบ่งแยกออกเสียก่อน 1 ไร่เพื่อผู้ขายจะขายให้คนอื่น ส่วนที่เหลือ 21 ไร่ขายให้ผู้ซื้อ โดยผู้ขายต้องไปขอแบ่งแยกโฉนดใน 30 วันนั้น ข้อกำหนดที่ผู้ขายต้องแบ่งแยกโฉนดออก 1 ไร่ หาใช่ข้อสารสำคัญที่ผู้ขายจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้แก่ผู้ซื้อไม่ ฉะนั้นการที่ผู้ขายไม่ไปขอแบ่งแยกโฉนด แต่ได้ขอโอนที่ดินทั้ง 22 ไร่ ให้ผู้ซื้อโดยไม่คิดราคาเพิ่ม จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนผิดข้อสัญญาอันจะเรียกเอาค่าเสียหายหรือเบี้ยปรับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 548/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อกำหนดในสัญญาแบ่งเป็นสาระสำคัญและวิธีการชำระหนี้ การไม่ปฏิบัติตามวิธีการชำระหนี้ไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
ข้อความในสัญญาอาจมีได้ 2 ประการ คือ ข้อกำหนดอันเป็นสารสำคัญในการแสดงเจตนาตกลงกันประการหนึ่ง กับข้อกำหนดอันเป็นแต่เพียงเพื่อเหตุวิธีการที่จะนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นสารสำคัญแห่งข้อตกลงนั้นอีกประการหนึ่ง การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดประการหลังนี้ หาทำให้คู่กรณีตกเป็นผู้ผิดสัญญาไม่ถ้าจะต้องรับผิดก็เพียงแต่ชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่การนั้นเท่านั้น
ทำสัญญากันว่า ผู้ขายตกลงขายที่ดินให้ผู้ซื้อโดยแบ่งแยกออกเสียก่อน 1 ไร่ เพื่อผู้ขายจะขายให้คนอื่น ส่วนที่เหลือ 21 ไร่ ขายให้ผู้ซื้อโดยผู้ขายต้องไปขอแบ่งแยกโฉนดใน 30 วัน นั้น ข้อกำหนดที่ผู้ขายต้องแบ่งแยกโฉนดออก 1 ไร่ หาใช่ข้อสารสำคัญที่ผู้ขายจะต้องปฏิบัติการชำระหนี้แก่ผู้ซื้อไม่ฉะนั้น การที่ผู้ขายไม่ไปขอแบ่งแยกโฉนด แต่ได้ขอโอนที่ดินทั้ง22 ไร่ ให้ผู้ซื้อโดยไม่คิดราคาเพิ่ม จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนผิดข้อสัญญาอันจะเรียกเอาค่าเสียหายหรือเบี้ยปรับได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 837/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาต่างวัตถุประสงค์: การฆ่าโดยสำคัญผิดไม่ใช่สาระสำคัญ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่านายรอก แต่มาฆ่านายอ่อนเพราะสำคัญผิดว่านายอ่อนคือนายรอก แม้ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยไม่ได้ฆ่าเพราะสำคัญผิด ก็ลงโทษได้เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่างกับฟ้อง ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยได้ฆ่าผู้ตายหรือไม่ ส่วนจะฆ่าโดยสำคัญผิดหรือไม่สำคัญผิดนั้นเป็นเพียงเหตุประกอบแห่งการฆ่าเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จไม่เป็นสาระสำคัญ หากศาลไม่เชื่อพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบ
ในคดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทและครอบครองปรปักษ์มาเกิน 10 ปี ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์และห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง จำเลยในคดีนั้นต่อสู้คดี โจทก์นำนางหลินเข้าเบิกความเป็นพยานนางหลินเบิกความว่าพ่อตาโจทก์ตามเมื่อ 4 ปีมานี้ ซึ่งความจริงพ่อตาโจทก์ตายมากว่า10 ปีแล้วข้อความที่พยานเบิกความเช่นว่านั้นแม้เป็นเท็จก็ไม่ถือว่าเป็นข้อสำคัญในคดี เพราะในคดีก่อน ศาลฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์มิได้ซื้อที่พิพาทและครอบครองปรปักษ์มาจริงตามฟ้อง นางหลินยังไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
of 25