พบผลลัพธ์ทั้งหมด 419 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1224/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าหรือไม่: การพิจารณาจากพฤติการณ์, อาวุธ, และบาดแผล
ผู้เสียหายขี่รถจักรยานสามล้อผ่านหน้าบ้านจำเลย จำเลยซึ่งกำลังถือมีดเหน็บเตรียมจะผ่ามะพร้าวอยู่ที่ชานบ้าน ได้กระโดดเข้าแทงผู้เสียหายถูกที่สีข้างด้านซ้าย ลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายกับจำเลยไม่เคยโกรธเคืองกันมาก่อน เพียงแต่น้องของผู้เสียหายเคยทะเลาะกับบุตรของจำเลย เป็นเหตุให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเฉยเมยต่อกันเท่านั้น และเป็นเรื่องตั้งแต่ก่อนที่ผู้เสียหายจะมาอยู่ มีดที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดที่จำเลยจะใช้ผ่ามะพร้าว และบาดแผลของผู้เสียหายไม่ฉกรรจ์ แม้ว่าจำเลยจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีก แต่ผู้เสียหายหลบทัน และวิ่งไล่ตามเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนี ก็เป็นเหตุเกิดโดยกะทันหัน ไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายก่อน แม้จะมีอาวุธ
จำเลยมีอายุ 60 ปีเศษ กำลังขึ้นอยู่บนต้นตาลผู้ตายอายุประมาณ 30 ปี ได้มาร้องท้าทายให้จำเลยมาฟันกัน จำเลยลงมาจากต้นตาล ในมือถือมีดปาดตาล แต่ยังไม่ทันได้ต่อสู้กันเพราะมีผู้อื่นห้ามไว้ จำเลยวิ่งหนีกลับไปที่ขนำที่พักของจำเลยพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น แสดงว่าจำเลยมีความเกรงกลัวผู้ตายผู้ตายมีขวานวิ่งตามไปติดๆ ห่างกันเพียง 2 วา จำเลยหนีไปถึงขนำที่พักของจำเลยแล้ว ผู้ตายยังตามไปใช้ขวานฟันจำเลยก่อนที่หน้าขนำที่พักของจำเลย จำเลยจึงคว้าพร้างอฟันไปถูกที่ศีรษะของผู้ตายเพียงทีเดียวเท่านั้น การกระทำของจำเลยย่อมเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ที่ขาดตอน การถืออาวุธข่มขู่หลังพาทรัพย์ไปแล้ว ไม่ถึงแก่ความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยลักไก่ 4 ตัวไปจากบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายชวนเพื่อนบ้านออกติดตามไป 1 ชั่วโมงเศษ ถึงกระท่อมนาซึ่งอยู่ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เส้น คนละหมู่บ้านกัน พบเข่งไก่กับไก่ 4 ตัวอยู่ในกระท่อม จำเลยนั่งอยู่ใกล้เข่งไก่ ผู้เสียหายเข้าไปถามจำเลย จำเลยลุกขึ้นยืนถือเหล็กแหลมจ้องมาทางผู้เสียหายกับพวก ผู้เสียหายกับพวกจึงช่วยกันจับจำเลยไว้ ดังนี้ เมื่อจำเลยถือเหล็กแหลมจ้องขู่ผู้เสียหายนั้น การลักทรัพย์ของจำเลยขาดตอนไปแล้ว ไม่ใช่อยู่ในระหว่างพาทรัพย์ไป การขู่จะทำร้ายเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายหลัง มิได้ต่อเนื่องในการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งเฉพาะผู้มีหรือใช้อาวุธในคดีปล้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ที่ว่า " ผู้ใดกระทำความผิดตาม2.....ฯลฯ มาตรา 340.... โดยมีหรือใช้อาวุธปืน ฯลฯ" ต้องระวางโทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งนั้น เฉพาะตัวผู้มีหรือใช้อาวุธปืน ผู้ที่ร่วมกระทำการปล้นแต่ไม่ได้มีหรือใช้อาวุธปืน ไม่ต้องด้วยมาตรา 340ตรี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์: ความผิดและโทษของตัวการร่วมที่ใช้อาวุธ และผู้ร่วมกระทำที่ไม่ใช้อาวุธ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การปล้นได้กระทำไปโดยจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ 2 ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วยแม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไปก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ 1 ผู้เดียวที่กระทำการปล้นโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงต้องด้วยมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ 2 หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปล้นทรัพย์: การจำแนกโทษระหว่างผู้มีอาวุธและไม่มีอาวุธ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การปล้นได้กระทำไปโดยจำเลยที่ 1 กับพวกอีก 2 คน มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยที่ 2 ผู้ร่วมกระทำการปล้นด้วยแม้จะไม่ปรากฏว่ามีอาวุธใดติดตัวไป ก็ต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง แต่เฉพาะจำเลยที่ 1ผู้เดียวที่กระทำการปล้นโดยมีและใช้อาวุธปืนจี้เจ้าทรัพย์ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงต้องด้วยมาตรา 340 ตรี ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษตามมาตรา 340 วรรคสองอีกกึ่งหนึ่งส่วนจำเลยที่ 2 หาต้องระวางโทษตามนี้ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 337/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขู่ด้วยอาวุธปืน (ของเล่น) ทำให้ผู้อื่นกลัว ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392
จำเลยถือปืนพลาสติกมาขู่เข็ญทำท่าจะยิงผู้เสียหายผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นปืนจริงเกิดความกลัวหรือตกใจ จำเลยต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย: ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตราย
จำเลยกับผู้เสียหายต่างเมาสุราเดินมาด้วยกัน และพูดผิดใจกันด้วยเรื่องเล็กน้อย จำเลยได้ใช้สันขวานหนา 1.85 เซนติเมตร กว้าง 4 เซนติเมตร ตีหน้าผากผู้เสียหายจนสลบไปชั่วครู่ กะโหลกศีรษะเพียงแต่ยุบนิด ๆ รักษาประมาณ 15 วันหาย แสดงว่าจำเลยตีไม่แรงนัก ตีแล้วก็หนีไปมิได้ตีซ้ำเติมอีก ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหาร: คดีอาญาเกี่ยวกับอาวุธของนายทหารประทวนอยู่ในอำนาจศาลทหาร
จำเลยรับราชการเป็นนายทหารประทวนประจำการ เป็นบุคคลที่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 16(3) ศาลจังหวัดไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และการริบอาวุธที่ใช้ในการกระทำผิด
โจทก์ฟ้องว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรได้ออกประกาศห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 2 บางชนิด.ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคมทุกปีโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ทราบทั่วกัน. จำเลยได้ทราบประกาศแล้วบังอาจใช้ปืนมีทะเบียนของ บ. ยิงวัวแดง 1 ตัว โดยมิได้รับอนุญาต จำเลยให้การปฏิเสธ แม้โจทก์จะไม่ได้นำสืบว่าจำเลยได้ทราบประกาศกระทรวงเกษตรดังกล่าว ก็ไม่ถือว่าเป็นการสืบไม่สมฟ้อง เพราะประกาศนั้นได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ย่อมถือได้ว่าเป็นอันรู้แก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งจำเลยด้วย โจทก์จึงมิต้องนำสืบอีก
ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบปืนที่จำเลยใช้ล่าวัวแดง อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 9 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ได้ตามมาตรา 47 ที่จำเลยอ้างว่าเป็นปืนมีทะเบียน และเจ้าของปืนยังไม่ได้ร่วมในการกระทำผิดนั้น เรื่องเจ้าของปืนร่วมกระทำผิดหรือไม่ มิได้มีประเด็นที่จะนำสืบกันในคดีนี้
ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบปืนที่จำเลยใช้ล่าวัวแดง อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 9 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ได้ตามมาตรา 47 ที่จำเลยอ้างว่าเป็นปืนมีทะเบียน และเจ้าของปืนยังไม่ได้ร่วมในการกระทำผิดนั้น เรื่องเจ้าของปืนร่วมกระทำผิดหรือไม่ มิได้มีประเด็นที่จะนำสืบกันในคดีนี้