พบผลลัพธ์ทั้งหมด 264 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินมรดกต่อเนื่องแม้หลังเจ้ามรดกเสียชีวิต ยืนยันสิทธิเจ้าของร่วมและสิทธิเรียกร้องแบ่งมรดก
ทายาทปลูกกระต๊อบอยู่ในที่ดินมรดกตลอดมาจนเจ้ามรดกตายไปประมาณ 1 ปี จึงย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังคงรักษาโฉนดที่ดินมรดกนั้นไว้ ถือได้ว่าทายาทนั้นได้ครอบครองที่มรดกจนเกิดสิทธิทางรับมรดกเป็นเจ้าของร่วมปกครองร่วมกับทายาทอื่นมีสิทธิฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกนั้นได้ ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสิทธิในที่ดินสินสมรสเฉพาะส่วน และการโอนสิทธิที่ดินโดยเจ้าของร่วม
สามีมีอำนาจจำหน่ายที่ดินสินสมรสซึ่งมีชื่อสามีในโฉนดแผนที่ได้
เจ้าของร่วมคนหนึ่งอาจจำหน่ายส่วนของตนในทรัพย์สินที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกันได้โดยลำพัง
เจ้าของร่วมคนหนึ่งอาจจำหน่ายส่วนของตนในทรัพย์สินที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกันได้โดยลำพัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิยึดหน่วงและการบังคับตามสัญญาซื้อขายหลังเจ้าของร่วมเสียชีวิต แม้เกินอายุความมรดก
สามีภริยาผู้เป็นเจ้าของร่วมในที่ดิน ทำสัญญาจะขายที่ดินนั้นแก่เขา โดยส่งมอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อครอบครองแล้ว และผู้ขายก็ได้รับชำระราคาครบถ้วนแล้ว ต่อมาสามีตายลงเสียก่อนโอนโฉนดให้ผู้ซื้อ ดังนี้แม้ผู้ซื้อจะฟ้องคดีขอบังคับให้โอนตามสัญญาภายหลังสามีตายเกิน 1 ปี ซึ่งขากอายุความมรดกแล้วก็ตาม ก็ถือได้ว่าผู้ซื้อได้ครอบครองที่ดินที่จะซื้อขายกัน มีสิทธิยึดหน่วงทรัพย์สินไว้จนกว่าจะโอนกรรมสิทธิได้ เหตุที่ผู้ขายคนหนึ่งตายเกิน 1 ปีแล้ว ย่อมไม่ห้ามผู้ซื้อผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงจะใช้สิทธิบังคับตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 189,241,
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมในทรัพย์สินที่ถูกยึด ไม่อำนาจร้องขอปล่อยทรัพย์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.288
เจ้าของร่วมคนหนึ่งในทรัพย์สินที่ถูกยึดจะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตาม ป.วิ.แพ่ง 288 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1667/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมทรัพย์สินถูกยึด ร้องขอปล่อยทรัพย์ตาม ม.288 ไม่ได้ จนกว่าจะแบ่งกรรมสิทธิ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งในทรัพย์สินที่ถูกยึดจะร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 288 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1424/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมแยกครอบครองเกิน 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์ในส่วนที่ครอบครอง
เจ้าของร่วมในโฉนดที่ดินซึ่งต่างได้แยกกันครอบครอง เพื่อคนโดยสุจริตด้วยความสงบและเปิดเผยเป็นเวลาเกิน 10 ปี ต่างย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามส่วนที่ได้ปกครองมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายที่ดินของเจ้าของร่วม การยินยอมของผู้ถือครองร่วม และการครอบครองแทน
โจทย์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิในที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 2 ร้องสอดขอเป็นจำเลยร่วมและต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว เมื่อทางพิจารณาฟังจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าร่วมกันดังนี้ ไม่เป็นคำวินิจฉัยนอกประเด็น
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วมโดยเจ้าของร่วมทุกคนไม่รู้เห็นยินยอมด้วยสัญญานั้นไม่เป็นโมฆะเป็นแต่เพียงผู้ซื้อจะบังคับผู้ขายให้โอนขายไม่ได้
ผู้จะขายมอบที่ให้ผู้จะซื้อเข้าครอบครองสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิในภายหลัง นั้นถือว่าผู้จะซื้อครอบครองแทนผู้จะขายเท่านั้น ( อ้างฎีกาที่ 1232/2491 )
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วมโดยเจ้าของร่วมทุกคนไม่รู้เห็นยินยอมด้วยสัญญานั้นไม่เป็นโมฆะเป็นแต่เพียงผู้ซื้อจะบังคับผู้ขายให้โอนขายไม่ได้
ผู้จะขายมอบที่ให้ผู้จะซื้อเข้าครอบครองสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิในภายหลัง นั้นถือว่าผู้จะซื้อครอบครองแทนผู้จะขายเท่านั้น ( อ้างฎีกาที่ 1232/2491 )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1072/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วม สัญญาไม่เป็นโมฆะแต่บังคับโอนทั้งหมดไม่ได้ การครอบครองเป็นแทนเจ้าของ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขาย จำเลยที่ 2 ร้องสอดขอเป็นจำเลยร่วมและต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว เมื่อทางพิจารณาฟังว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าของร่วมกัน ดังนี้ ไม่เป็นคำวินิจฉัยนอกประเด็น
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วมโดยเจ้าของร่วมทุกคนไม่รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะเป็นแต่เพียงผู้ซื้อจะบังคับผู้ขายให้โอนขายไม่ได้
ผู้จะขายจะมอบที่ให้ผู้จะซื้อเข้าครอบครองสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลังนั้น ถือว่าผู้จะซื้อครอบครองแทนผู้จะขายเท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 1232/2491)
สัญญาจะขายที่ดินที่มีเจ้าของร่วมโดยเจ้าของร่วมทุกคนไม่รู้เห็นยินยอมด้วย สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะเป็นแต่เพียงผู้ซื้อจะบังคับผู้ขายให้โอนขายไม่ได้
ผู้จะขายจะมอบที่ให้ผู้จะซื้อเข้าครอบครองสัญญาจะไปโอนกรรมสิทธิ์ในภายหลังนั้น ถือว่าผู้จะซื้อครอบครองแทนผู้จะขายเท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 1232/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเจ้าของร่วม: การแบ่งแยกที่ดินและผลผูกพันทางกฎหมาย
เจ้าของร่วมในที่ดินแปลงหนึ่งนั้น ตามกฎหมายในเบื้องต้นก็ต้องถือว่า ต่างคนต่างมีส่วนเป็นเจ้าของพัวพันกันอยู่
ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วม ได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหน ดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้
เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักญานเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะฟ้องร้อง
บังคับคดี ไม่ได้.
ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วม ได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหน ดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้
เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักญานเป็นหนังสือ ก็ย่อมจะฟ้องร้อง
บังคับคดี ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 318/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งที่ดินของเจ้าของร่วม: สัญญาประนีประนอมยอมความที่ไม่ต้องทำเป็นหนังสือก็ได้
เจ้าของร่วมในที่ดินแปลงหนึ่งนั้น ตามกฎหมายในเบื้องต้นก็ต้องถือว่า ต่างคนต่างมีส่วนเป็นเจ้าของพัวพันกันอยู่ฉะนั้นเมื่อเจ้าของร่วมได้ตกลงกันกำหนดลงไปว่า ใครได้ตรงไหนดังนี้ก็ย่อมเป็นการระงับข้อพิพาทอันจะมีขึ้นให้เสร็จไป เพราะเป็นการตกลงเพื่อเป็นที่แน่นอนไม่โต้เถียงแย่งกันเอาส่วนนั้นส่วนนี้ฉะนั้นข้อตกลงดังกล่าว จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ย่อมจะฟ้องร้องบังคับคดี ไม่ได้