คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เปลี่ยนแปลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 393 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง การอ้างเหตุผลจากคดีอื่นมาลบล้างมิได้
คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีหลังซึ่งยกฟ้องโจทก์โดยฟังข้อเท็จจริงว่า เจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้แก่จำเลยและผู้อื่น ย่อมผูกพันโจทก์จำเลยในคดีหลังกล่าวคือโจทก์หมดสิทธิที่จะได้รับมรดกเฉพาะเกี่ยวกับทรัพย์มรดกที่ว่ากล่าวกันในคดีหลังซึ่งเป็นทรัพย์คนละส่วนกับคดีนี้เท่านั้น จะถือเอาคำพิพากษาในคดีหลังไปลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีนี้ที่พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม เพื่อมิให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นข้อพิพาทเดิมในคดีก่อนย่อมเป็นฟ้องซ้ำ แม้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นรับฟ้องของโจทก์ไว้แล้วเห็นว่าเป็นฟ้องซ้ำ จึงเพิกถอนคำสั่งเดิมที่ให้รับฟ้องเป็นไม่รับฟ้องและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ เมื่อโจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ต้องห้ามตามกฎหมาย แต่ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดียังไม่เป็นการถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์ได้
ในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีก่อน โจทก์จำเลยได้ตกลงกันถึงเขตที่ดินราชพัสดุที่โจทก์จำเลยเช่าและเรื่องหลังคาเรือนจำเลยว่าไม่รุกล้ำเข้าไปในส่วนที่โจทก์เช่า คำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 โจทก์จะกล่าวอ้างในคดีนี้อีกว่าจำเลยทำหลังคารุกล้ำเข้าไปในที่ดินราชพัสดุที่โจทก์เช่า ซึ่งเป็นการกระทำก่อนมีการฟ้องคดีก่อนย่อมเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามมาตรา 148
เมื่อโจทก์ยื่นคำฟ้องแล้ว ไม่ว่าศาลจะสั่งคำฟ้องประการใดจำเลยย่อมเป็นคู่ความ และในกรณีที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง แม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ จำเลยก็มีสิทธิแก้อุทธรณ์ได้มิใช่เป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์เท่านั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจสั่งให้โจทก์ใช้ค่าทนายความแทนจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของบิวเตนจาก 'น้ำมันเชื้อเพลิง' ทำให้จำเลยพ้นจากความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเก็บก๊าซเชื้อเพลิงเหลวบิวเตน (ปกติ) ซึ่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องกำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2474 ลงวันที่ 5มกราคม 2504 ลำดับที่ 17 และทำการจำหน่ายบิวเตน (ปกติ) ในสถานที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องกำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2474 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2524 ให้ยกเลิกความในลำดับที่ 17 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องกำหนดชนิดของเหลวต่าง ๆ ที่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเก็บรักษาน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2474 ลงวันที่ 5 มกราคม 2504 ดังนี้ บิวเตน (ปกติ) จึงไม่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอีกต่อไป การกระทำของจำเลยแม้จะเป็นความผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงฐานการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
จำเลยให้การว่า จำเลยกับสามีเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 1 ปี คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374 และ มาตรา 1375 แต่จำเลยอุทธรณ์ว่า ก. บุตรโจทก์เบิกความว่า ขณะจำเลยปลูกบ้านเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โจทก์ไปทวงค่าที่ดิน จำเลยไม่ยอมให้และท้าให้โจทก์ไปฟ้อง เห็นชัดว่าจำเลยโต้เถียงสิทธิครอบครองว่าที่พิพาทเป็นของตนตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวร โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี คดีขาดอายุความ ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยต่อสู้คดีว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทมาแต่ต้นจนเกิน 1 ปี แล้ว แต่จำเลยอุทธรณ์เป็นทำนองว่าจำเลยเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือที่พิพาทตั้งแต่จำเลยปลูกบ้านถาวรในที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่จำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยให้นั้นชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงเจตนายึดถือครอบครองที่ดินจากแทนผู้อื่นเป็นของตนเอง และผลกระทบต่อสิทธิในที่ดิน
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า โจทก์ครอบครองนาพิพาทแทน ซ. มาโดยตลอดแต่การที่โจทก์โต้แย้งว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนที่ ซ. จะขายนาพิพาทให้แก่จำเลยและเมื่อ ซ. ขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว โจทก์ได้มาคัดค้านการขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อีก ย่อมถือได้ว่าโจทก์โจทก์เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือนาพิพาทจากเจตนายึดถือแทน ซ. มาเป็นยึดถือเพื่อตน โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองนาพิพาทนั้น
เมื่อ ซ. และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจาก ซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 ก ของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงเจตนาในการครอบครองที่ดิน การครอบครองแทนกับสิทธิครอบครอง
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า โจทก์ครอบครองนาพิพาทแทนซ. มาโดยตลอดแต่การที่โจทก์โต้แย้งว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนที่ ซ. จะขายนาพิพาทให้แก่จำเลยและเมื่อ ซ. ขายนาพิพาทให้จำเลยแล้ว โจทก์ได้มาคัดค้านการขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อีก ย่อมถือได้ว่าโจทก์โจทก์เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือนาพิพาทจากเจตนายึดถือแทน ซ. มาเป็นยึดถือเพื่อตน โจทก์จึงได้สิทธิครอบครองนาพิพาทนั้น
เมื่อ ซ.และจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิจากซ. ไม่ได้ฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปีนับแต่ถูกแย่งการครอบครองจึงหมดสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนมาซึ่งการครอบครองในนาพิพาทนั้น
คำขอท้ายฟ้องที่ขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 กของนาพิพาทแล้วใส่ชื่อโจทก์แทน นั้น ศาลพิพากษาให้ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่ในทางนิติกรรมแต่อย่างใดที่จะต้องไปใส่ชื่อโจทก์หรือยินยอมให้ใส่ชื่อโจทก์ลงใน น.ส.3 ก ดังกล่าว เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องไปดำเนินการออก น.ส.3 ก ของโจทก์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงสถานะทางธุรกิจจากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล ไม่กระทบสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเดิม
เดิมร้าน ล. มี น. เป็นเจ้าของ ได้ซื้อสินค้าจากโจทก์ และ น. ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกับโจทก์ และจ้างเหมาโจทก์ติดตั้งสายไฟ ต่อมาร้าน ล. จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใช้ชื่อบริษัทจำเลย โดยใช้ชื่อร้าน ล. บ้างใช้ชื่อจำเลยบ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของจำเลยลงชื่อรับสินค้าไว้จากโจทก์ ต่อมาจำเลยยังได้ชำระค่าซื้อสินค้าบางส่วนให้โจทก์ ดังนี้ แสดงว่าเป็นกิจการเดียวกัน โดยขณะทำสัญญายังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จำเลยจึงเป็นคู่สัญญากับโจทก์ เมื่อจำเลยผิดสัญญา โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำประกันภัยของผู้เช่าซื้อ และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าซื้อทำสัญญาประกันภัย และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามข้อตกลงของคู่ความ: สิทธิในการเลือกวิธีการบังคับคดีและการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง
ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า โจทก์ทั้งสองมีสิทธิใน ที่นาพิพาท 2 ใน 3 ส่วน ให้จำเลยไปยื่นขอแบ่งแยกที่นาให้แก่โจทก์ทั้งสอง หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย แต่โจทก์จำเลย ไม่อาจตกลงแบ่งแยกที่นาพิพาทได้ จึงไปตกลงต่อหน้า ศาลชั้นต้นซึ่งทำหน้าที่บังคับคดี โดยแถลงขอให้ดำเนินการ ยึดที่นาพิพาทมาขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงินกันตามส่วน ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการกำหนดการบังคับคดีด้วยวิธีใหม่ ซึ่งชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 จนศาลชั้นต้นรับรู้และรับบังคับให้แล้ว ก็ต้องเป็นไป ตามข้อตกลงนั้นเพราะการบังคับคดีเป็นเรื่องที่แล้วแต่ใจสมัคร ของโจทก์จำเลย การที่โจทก์ทั้งสองแถลงศาลใหม่ยอม แบ่งที่นาพิพาท โดยให้สิทธิจำเลยเลือกเอาส่วนใดก็ได้ แต่จำเลยมิได้ตกลงด้วยนั้น ไม่เป็นเหตุให้ข้อตกลงที่โจทก์ จำเลยให้ดำเนินการยึดที่นาพิพาทขายทอดตลาดแล้วแบ่ง เงินกันตามส่วนต้องเปลี่ยนแปลงไป
of 40