คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เอกสารปลอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 368 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2920-2921/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาทด้วยเจตนาทุจริตและการฟ้องคดีเกิน 1 ปี การกระทำด้วยเอกสารปลอมไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทไม่มีโฉนดและมอบให้ผู้อื่นเช่าทำนาอยู่ การที่จำเลยปลอมหนังสือมอบอำนาจของโจทก์และใช้หนังสือมอบอำนาจปลอมยื่นเรื่องราวขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์และโอนที่พิพาทให้จำเลย จนเจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และจดทะเบียนโอนที่พิพาทเป็นของจำเลยนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการแย่งการครอบครองที่พิพาท โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีแม้จะเกิน 1 ปี นับแต่วันที่ทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และจดทะเบียนโอนที่พิพาทให้จำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเอกสารปลอม จำเลยต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรงหรือไม่
ก่อนโจทก์จำเลยจะมีกรณีพิพาทในกรรมสิทธิ์ของบ้านพิพาทกันจำเลยได้นำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอเพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่ โดยต้องการเอาบ้านนั้นเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ แม้จำเลยจะได้เลขบ้านใหม่มาก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านเดิมไม่ ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนเท่านั้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีใช้เอกสารปลอม: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเอกสารปลอมนั้น
จำเลยนำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอเพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่ ถึงหากจะกระทำไปโดยต้องการเอาบ้านดังกล่าวเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่เป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ทั้งโจทก์เป็นเจ้าของเลขบ้านใด อยู่ แม้จำเลยจะไปขอเลขบ้านดังกล่าวและได้เลขบ้านนั้นมา ก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านนั้นไม่ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนอำเภอเท่านั้น โจทก์จึงไม่ใช่เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายอันจะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2361/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเสียหายจากการใช้เอกสารปลอมเกิดขึ้นต่อนายทะเบียน โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ก่อนโจทก์จำเลยจะมีกรณีพิพาทในกรรมสิทธิ์ของบ้านพิพาทกันจำเลยได้นำคำร้องซึ่งเป็นเอกสารราชการปลอมไปยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอเพื่อขอเลขบ้านพิพาทใหม่ โดยต้องการเอาบ้านนั้นเป็นของจำเลย แต่เลขบ้านมิใช่หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์แม้จำเลยจะได้เลขบ้านใหม่มาก็หาทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะใช้เลขบ้านเดิมไม่ ความเสียหายอันเกิดจากการใช้เอกสารปลอมจึงเกิดขึ้นแก่นายทะเบียนเท่านั้น โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายที่จะมีอำนาจฟ้องจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1970/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฉ้อโกงโดยใช้เอกสารปลอม: การแบ่งหน้าที่ชัดเจนบ่งชี้ตัวการ
น. กู้เงินผู้เสียหายโดย ส. ใช้หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของ ส. ซึ่งเป็นเอกสารปลอมไปค้ำประกันหนี้เงินกู้ แม้จำเลยจะมิได้ร่วมไปบ้านผู้เสียหายในวันทำสัญญากู้ แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับ น. และ ส. มาแต่ต้นในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยในวันเกิดเหตุจำเลยพา น. และ ส. ไปพบ ว.เพื่อให้พาบุคคลทั้งสองไปพบผู้เสียหาย ส่วนจำเลยรออยู่เพื่อคอยรับเงินส่วนแบ่งจาก น. พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยเป็นตัวการใช้เอกสารปลอมด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1970/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฉ้อโกงโดยใช้เอกสารปลอม: การแบ่งหน้าที่และความรับผิดของตัวการ
น. กู้เงินผู้เสียหายโดย ส. ใช้หนังสือรับรองการทำประโยชน์ของส.ซึ่งเป็นเอกสารปลอมไปค้ำประกันหนี้เงินกู้แม้จำเลยจะมิได้ร่วมไปบ้านผู้เสียหายในวันทำสัญญากู้ แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยร่วมกับ น. และ ส. มาแต่ต้นในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ โดยในวันเกิดเหตุจำเลยพา น. และ ส.ไปพบว.เพื่อให้พาบุคคลทั้งสองไปพบผู้เสียหาย ส่วนจำเลยรออยู่เพื่อคอยรับเงินส่วนแบ่งจาก น. พฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยเป็นตัวการใช้เอกสารปลอมด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จเกี่ยวกับสัญชาติเพื่อขอมีบัตรประจำตัวประชาชน, ใช้เอกสารราชการที่ไม่ถูกต้อง, และความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
คำฟ้องในข้อหาฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานเมื่อโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตลอดทั้งข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้นๆอีกทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่แผนกบัตรประจำตัวประชาชนที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วแม้จะไม่ได้ระบุชื่อของเจ้าพนักงานผู้รับแจ้งมาในฟ้องด้วยก็ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม จำเลยเป็นคนญวนยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนต่อเจ้าหน้าที่แผนกบัตรประจำตัวโดยอ้างว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทยแม้ผู้รับแจ้งจากจำเลยเป็นลูกจ้างชั่วคราวแต่ก็ได้นำเรื่องเสนอต่อช. และว. ซึ่งเป็นปลัดอำเภอทำหน้าที่ฝ่ายบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อตรวจหลักฐานแล้วดำเนินการส่งต่อไปยังกองบัตรประจำตัวประชาชนถือว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานอันเป็นความผิดตามป.อ.มาตรา137แต่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามป.อ.มาตรา267เพราะผู้ที่รับแจ้งจากจำเลยและเป็นผู้จดข้อความตามที่จำเลยแจ้งเป็นลูกจ้างชั่วคราวมิใช่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง แม้ไม่มีหลักฐานการปลอมเช็คโดยตรง แต่พฤติการณ์บ่งชี้ถึงความรู้เท่าทัน
จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วมไม่มีหน้าที่การเงินจำเลยนำเช็คปลอมจำนวน3ฉบับไปยื่นต่อส.และอ.ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมต่างวันกันโดยแต่ละครั้งจำเลยนำใบฝากโอนเงินเข้าธนาคารต่างสาขาในบัญชีของบ.ซึ่งจำเลยแต่ผู้เดียวมีอำนาจถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวแม้ไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหรือมีส่วนในการปลอมเช็ค3ฉบับดังกล่าว.แต่ตามพฤติการณ์แสดงได้ว่าจำเลยรู้ว่าเช็คนั้นเป็นเอกสารปลอมดังนั้นการที่จำเลยนำเช็คปลอมไปแสดงต่อพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมโดยปกปิดความจริงจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อยอมสั่งจ่ายเงินตามเช็คปลอมจึงเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง. พนักงานอัยการโจทก์ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่จำเลยฉ้อโกงไปคืนแก่ผู้เสียหายมาท้ายฟ้องและโจทก์ร่วมได้เสียค่าธรรมเนียมมาถูกต้องแล้วจำเลยจึงต้องคืนหรือใช้เงินตามฟ้องให้โจทก์ร่วม.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมสมัครรับเลือกตั้งเป็นละเมิดต่อสิทธิของหน่วยงานจัดการเลือกตั้ง และต้องรับผิดในความเสียหาย
จำเลยใช้ใบสุทธิปลอมสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อเจ้าหน้าที่ของโจทก์และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยสิ้นสุดลงและโจทก์ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตมาแต่ต้น จงใจกระทำผิดกฎหมายละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 และจำเลยต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เอกสารปลอมสมัครรับเลือกตั้งเป็นละเมิดต่อสิทธิของหน่วยงานจัดการเลือกตั้งและทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยใช้ใบสุทธิปลอมสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อเจ้าหน้าที่ของโจทก์และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นเหตุให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญต้องมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจำเลยสิ้นสุดลงและโจทก์ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตมาแต่ต้น จงใจกระทำผิดกฎหมายละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 และจำเลยต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
of 37