พบผลลัพธ์ทั้งหมด 473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3608/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, บุกรุก, ข่มขืนใจ, ชิงทรัพย์ และการแก้ไขโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่มีโทษสถานเดียวคือประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 เมื่อจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษดังกล่าวตามมาตรา 80 เท่ากับลดโทษลงมาหนึ่งในสามนั่นเอง ซึ่งคงเหลือเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามมาตรา 52(1) หลังจากจำเลยใช้อาวุธปืนยิง ท.แล้ว จำเลยได้ใช้อาวุธปืนจี้เอารถจักรยานยนต์ของ ร.ขับหลบหนีไป แล้วนำรถจักรยานยนต์นั้นไปทิ้งไว้ข้างทางห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ไม่ได้นำรถจักรยานยนต์ไปเป็นประโยชน์ของตนหรือผู้อื่น แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาประสงค์จะเอาทรัพย์คือรถจักรยานยนต์นั้น คงมีเจตนาเพียงต้องการใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะเพื่อหลบหนีเท่านั้นจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์ตามฟ้อง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการใช้อาวุธปืนข่มขืนใจ ร. ให้มอบรถจักรยานยนต์โดย ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย อันเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง ซึ่งศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามทางพิจารณาที่ได้ความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกานับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่น ปรากฏว่าโจทก์ไม่ได้มีคำขอมาท้ายฟ้องหรือขอแก้เพิ่มเติมฟ้องในเรื่องขอให้นับโทษต่อเสียก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพิ่งจะขอมาหลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาและจำเลยฎีกาต่อมา จึงไม่อาจนับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2900/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษจำคุกที่ศาลล่างคำนวณผิดพลาด แม้จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขได้เพื่อความเป็นธรรม
ศาลล่างทั้งสองลดโทษให้จำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 53 หนึ่งในสาม จากจำคุกตลอดชีวิตเหลือจำคุก 34 ปี 8 เดือนคลาดเคลื่อนไป ที่ถูกต้องเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน การลดโทษคลาดเคลื่อนเป็นเหตุให้จำเลยที่ 2 ต้องรับโทษมากขึ้น เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็พิพากษาแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 และการแก้ไขโทษให้ถูกต้อง
การนำโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดี ก่อน 2 คดีซึ่งพิพากษาให้จำคุก 3 เดือนและ 9 เดือนที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษจำคุก 10 ปีของจำเลยที่ 1 ในคดีนี้รวมเป็นจำคุก 11 ปี เป็นผลร้ายแก่จำเลยที่ 1 เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 วรรคสองบัญญัติว่า ถ้าระยะเวลาที่คำนวณนั้นกำหนดเป็นเดือนให้นับ 30 วันเป็น 1 เดือน ถ้ากำหนดเป็นปีให้คำนวณตามปีปฏิทินในราชการดังนั้นการนับจำนวนวันใน 1 เดือนเท่ากับ 30 วัน กำหนดโทษจำคุก12 เดือนคิดเป็นจำนวนวันเท่ากับ 360 วัน แต่การนับจำนวนวันใน 1 ปีเท่ากับ 365 วันหรือ 366 วันจึงมากกว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษจำคุกเป็นปีหรือเดือนตาม ป.อ. มาตรา 21 วรรคสอง และการแก้ไขโทษที่ไม่ถูกต้อง
การที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม 8 กระทง เป็นโทษจำคุก 37 ปี 4 เดือน นั้นไม่ถูกต้องเพราะการวางโทษจำคุกเป็นปีทำให้จำเลยเสียเปรียบ ต้องรับโทษมากกว่าการวางโทษจำคุกเป็นเดือน ตาม ป.อ. มาตรา 21 วรรคสอง ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องโดยพิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม8 กระทงเป็นจำคุก 32 ปี 64 เดือน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาชญากรรมโดยอ้างบทกฎหมายที่ถูกยกเลิก ศาลฎีกาแก้ไขโทษตามกฎหมายใหม่ได้
ปรากฏตามคำขอท้ายฟ้องว่า โจทก์ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 78 พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2522 มาตรา 8 แต่ขณะที่จำเลยกระทำผิดมาตราดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้วโดย พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530มาตรา 3 และแก้ไขมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490โดยให้ใช้ข้อความใหม่แทน ซึ่งการกระทำของจำเลยต้องฟ้องก็ยังคงถือเป็นความผิดตามบทบัญญัติที่แก้ไขใหม่ ทั้งผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกขั้นต่ำตามกฎหมายใหม่ตั้งแต่ 2 ปี เช่นเดียวกับกฎหมายเดิมที่ถูกยกเลิกไปโจทก์ยังคงขอให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 55 และ 78 เพียงแต่อ้างบทกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 78 ดังกล่าวผิดพลาดไปหาใช่กรณีโจทก์ไม่ประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตราดังกล่าวไม่เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามบทบัญญัติที่ถูกยกเลิกไปแล้วตามคำขอท้ายฟ้องซึ่งไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ทำให้โจทก์ไม่อาจฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343,86 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 341,86 จำคุก 1 ปี 4 เดือน แม้เป็นการแก้ไขมากแต่จำคุกไม่เกิน 2 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากฎีกาไม่เป็นไปตามรูปแบบ และแก้ไขโทษปรับฐานฝ่าฝืนคำสั่งระงับการก่อสร้าง
ฎีกาทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงเป็นลำดับจำเลยจะขอถือเอาคำแถลงการณ์ปิดคดีในศาลชั้นต้นเป็น ส่วนหนึ่งของฎีกาจำเลยไม่ได้ จำเลยไม่ได้ฎีกาคัดค้านว่า คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 2ที่วินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: การขอรอการลงโทษหลังศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 8 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุก 4 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี เป็นการพิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จำเลยจึงฎีกาขอให้รอการลงโทษ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5795/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าและการแก้ไขโทษฐานมีอาวุธปืน ศาลฎีกาไม่รับฎีกาในข้อเท็จจริงและแก้โทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 371และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ แต่ให้ลงโทษตามพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นบทหนักให้จำคุกคนละ 1 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตาม ป.อ. มาตรา 371 ให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ 100 บาท ซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5493/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาแก้ไขโทษที่สูงเกินไป และมีผลถึงจำเลยร่วม
เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าโทษที่ศาลล่างกำหนดมานั้นสูงเกินไป ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดโทษให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี และให้มีผลไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้