พบผลลัพธ์ทั้งหมด 242 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแบ่งทรัพย์สินรวมและการประมูลเมื่อตกลงแบ่งกันเองไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินตามคำขอท้ายฟ้องก็มีเพียงขอให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินให้โจทก์อย่างเดียว ศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินให้แล้ว ยังได้เลยพิพากษาต่อไปว่า ถ้าคู่ความตกลงแบ่งกันเองไม่ได้ ให้ประมูลระหว่างคู่ความหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน ดังนี้ ย่ามมีอำนาจทำให้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ เพราะเป็นวิธีการที่ศาลจะแบ่งที่ดินให้แก่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ โดยใช้สัดส่วนตามกฎหมายลักษณะผัวเมียเดิม
เป็นสามีภรรยากันก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ ระหว่างอยู่กินด้วยกันได้ที่ดินเป็นสินสมรสขึ้น แม้ในโฉนดจะมีชื่อทั้ง 2 คนร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงว่าเป็นส่วนของใครเท่าใดตาม ก.ม.ลักษณะผัวเมียฉะบับเก่า คือ ชายได้ 2 สวน หญิงได้ 1 ส่วน เพราะความในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งป.ม.แพ่งฯบัญญัติว่า การสมรสซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ ป.ม.กฎหมายบรรพนี้ แลัทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวเกิดแต่การสสรสานั้น ๆ บทบัญญัติแห่งบรรพนี้ ไม่กระทบกระเทือนถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 252/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: สามีได้ 2 ส่วน หญิงได้ 1 ส่วน
เป็นสามีภริยากันก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระหว่างอยู่กินด้วยกันได้ที่ดินเป็นสินสมรสขึ้น แม้ในโฉนดจะมีชื่อทั้ง 2 คนร่วมกันถือกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงว่าเป็นส่วนของใครเท่าใดตาม กฎหมายก็ต้องแบ่งตามส่วนสมรสของกฎหมายลักษณะผัวเมียฉบับเก่า คือชายได้ 2 ส่วนหญิงได้1 ส่วน เพราะความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า การสมรสซึ่งได้มีอยู่ก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายบรรพนี้และทั้งสัมพันธ์ในครอบครัวอันเกิดแต่การสมรสนั้นๆบทบัญญัติแห่งบรรพนี้ไม่กระทบกระเทือนถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างเจ้าของร่วมกับหุ้นส่วน และผลกระทบต่อการฟ้องแบ่งทรัพย์สิน
"เจ้าของร่วม" กับ "หุ้นส่วน" ต่างกันในข้อสำคัญที่ว่าการเข้าร่วมกันเพื่อกระทำกิจการด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ประสงค์เช่นนั้นก็ไม่ใช้หุ้นส่วน เป็นแต่เจ้าของร่วมแต่ถ้าประสงค์จะแบ่งปันกำไรเช่นว่านั้น ก็เป็นหุ้นส่วนและเป็นเจ้าของร่วมด้วยในตัว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ "แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต" โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วน ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ "แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต" โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วน ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วม vs. หุ้นส่วน: ความแตกต่างและการฟ้องแบ่งทรัพย์สิน
'เจ้าของร่วม' กับ 'หุ้นส่วน'ต่างกันในข้อสำคัญที่ว่าการเข้าร่วมกันเพื่อกระทำกิจการด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้นหรือไม่ถ้าไม่ประสงค์เช่นนั้นก็ไม่ใช่หุ้นส่วน เป็นแต่เจ้าของร่วมแต่ถ้าประสงค์จะแบ่งปันกำไรเช่นว่านั้น ก็เป็นหุ้นส่วนและเป็นเจ้าของร่วมด้วยในตัว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ'แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต'โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วนซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินและกิจการของ'แม่น้ำมอเตอร์โบ๊ต'โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของร่วมกันกับจำเลย แต่บรรยายฟ้องมาในรูปว่า โจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนร่วมกัน จึงเท่ากับเป็นการฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินในหุ้นส่วนซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อเลิกหุ้นส่วนเสียก่อนโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เลิกหุ้นส่วนศาลจึงต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็แบ่งทรัพย์สินที่หามาด้วยกันได้ ตามหลักเจ้าของร่วมกัน
หญิงฟ้องหย่าขาดจากชายผู้เป็นสามีและขอแบ่งสินสมรสด้วย แม้จะได้ความว่าการสมรสไม่ได้จดทะเบียนจึงไม่เป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ศาลไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องหย่า ก็ตามแต่ในเรื่องทรัพย์สินที่ขอแบ่งนั้น ศาลจำต้องวินิจฉัยให้ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1179/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งสินสมรสแม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ศาลยังคงมีอำนาจวินิจฉัยได้
หญิงฟ้องหย่าขาดจากชายผู้เป็นสามีและขอแบ่งสินสมรสด้วย แม้จะได้ความว่าการสมรสไม่ได้จดทะเบียนจึงไม่เป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย ศาลไม่จำต้องวินิจฉัยในเรื่องหย่าก็ตาม แต่ในเรื่องทรัพย์สินที่ขอแบ่งนั้น ศาลจำต้องวินิจฉัยให้ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่1179/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฟ้องร้องมรดก แม้มีสัญญาประนีประนอมก่อนหน้า และการแบ่งทรัพย์สินตามส่วน
ผู้ร้องสอดซึ่งมิได้เป็นโจทก์หรือผู้แทนโจทก์ โจทก์ย่อมไม่ต้องถูกผูกมัดตามคำพิพากษาในคดีนั้นและมาฟ้องคดีอีกได้. ไม่ถือว่าฟ้องซ้ำ
ทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของตนทั้งหมด ถ้าศาลเห็นว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ให้ศาลแบ่งให้ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการนอกฟ้องนอกคำขอ
ทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของตนทั้งหมด ถ้าศาลเห็นว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง ให้ศาลแบ่งให้ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการนอกฟ้องนอกคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาประนีประนอมเรื่องแบ่งทรัพย์สินเมื่อระบุแบ่งทรัพย์บางส่วนเป็นกึ่ง และอีกส่วนไม่ได้ระบุวิธีการแบ่ง
ในสัญญาประนีประนอม ซึ่งตกลงแบ่งทรัพย์กันรวม 3 สิ่งอีก 2 สิ่งได้ระบุไว้ชัดว่าให้แบ่งคนละครึ่ง ส่วนอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ดิน เพียงแต่กล่างว่าให้ทั้ง 2 ฝ่ายจัดการแบ่งกันเอง ดังนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าให้แบ่งส่วนต่างออกไป ต้องตีความว่าให้แบ่งที่ดินนั้นคนละครึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการฟ้องแบ่งทรัพย์สินจากการเป็นเจ้าของร่วม และข้อพิพาทเรื่องสัญญาผลประโยชน์
โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน มีข้อตกลงเป็นสัญญาต่อกันว่า จำเลยจะแบ่งผลประโยชน์คือค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาอย่างใดเลย ดังนี้ ข้อที่ว่า โจทก์จำเลยมีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นฉะนั้นการที่โจทก์ฎีกาขอแบ่งผลประโยชน์เนื่องจากการเป็นเจ้าของร่วมจึงเป็นนอกฟ้องนอกประเด็น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วน ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่องขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิ์ร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วน ดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่องขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้