พบผลลัพธ์ทั้งหมด 358 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายยาอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มีใบอนุญาตขายยาประเภทอื่น การริบของกลางไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้รับใบอนุญาตให้ขายยาประเภทค.. ซึ่งตามกฎหมายจะขายยาอันตรายมิได้. การที่จำเลยฝ่าฝืนเท่ากับจำเลยขายยาอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต. ยาของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการกระทำผิด. จะริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การย้ายโรงงานต้องขออนุญาตใหม่ แม้มีใบอนุญาตเดิมแล้ว การย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน
บุคคลใดได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2482 แล้ว หากประสงค์จะย้ายโรงงานนั้นไปสถานที่อื่น ก็ต้องขออนุญาตตั้งใหม่ จะใช้ใบอนุญาตตั้งโรงงานสำหรับสถานที่เก่าไม่ได้ มิฉะนั้นย่อมมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การย้ายโรงงานต้องขออนุญาตใหม่ การใช้ใบอนุญาตเดิมสำหรับสถานที่ใหม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน
บุคคลใดได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงานพ.ศ.2482 แล้ว หากประสงค์จะย้ายโรงงานนั้นไปสถานที่อื่น ก็ต้องขออนุญาตตั้งใหม่ จะใช้ใบอนุญาตตั้งโรงงานสำหรับสถานที่เก่าไม่ได้ มิฉะนั้นย่อมมีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1723/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การย้ายโรงงานต้องขออนุญาตใหม่ การใช้ใบอนุญาตเดิมสำหรับสถานที่ใหม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน
บุคคลใดได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2482 แล้ว. หากประสงค์จะย้ายโรงงานนั้นไปสถานที่อื่น ก็ต้องขออนุญาตตั้งใหม่. จะใช้ใบอนุญาตตั้งโรงงานสำหรับสถานที่เก่าไม่ได้ มิฉะนั้นย่อมมีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1665-1670/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิด พ.ร.บ.ขนส่งฯ มาตรา 14: ผู้ขับรถที่ไม่ได้รับใบอนุญาตไม่มีความผิดตามมาตรานี้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะแต่ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ จำเลยเป็นแต่ลูกจ้างคนขับรถยนต์โดยสารสาธารณะของนายจ้างเท่านั้น แม้จำเลยจะขับรับผู้โดยสารล่วงล้ำเข้าไปในเส้นทางที่รถบริษัทอื่นได้รับใบอนุญาตการขนส่งประจำทางก็ตาม คนขับหรือจำเลยซึ่งมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ ย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 14
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามเฉพาะผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น จะขยายความไปถึงคนอื่นด้วยไม่ได้ เพราะเป็นความผิดอาญา
แม้การเก็บค่าโดยสารมีลักษณะเป็นการแข่งขันก็จริง แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ ก็ขาดองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14
กรณีบุคคลสองคนขึ้นไปร่วมกันทำความผิดนั้น โจทก์จะไม่ระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาด้วยก็ได้ แต่โจทก์ต้องบรรยายฟ้อง มิฉะนั้นก็ไม่มีข้อหาหรือประเด็นว่าจำเลยกระทำผิดร่วมกับพวกหรือไม่
ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง มาตรา 14 เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น ไม่อาจมีการร่วมกันกระทำผิดกับผู้ที่มิได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะด้วยได้
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามเฉพาะผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น จะขยายความไปถึงคนอื่นด้วยไม่ได้ เพราะเป็นความผิดอาญา
แม้การเก็บค่าโดยสารมีลักษณะเป็นการแข่งขันก็จริง แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ ก็ขาดองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14
กรณีบุคคลสองคนขึ้นไปร่วมกันทำความผิดนั้น โจทก์จะไม่ระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาด้วยก็ได้ แต่โจทก์ต้องบรรยายฟ้อง มิฉะนั้นก็ไม่มีข้อหาหรือประเด็นว่าจำเลยกระทำผิดร่วมกับพวกหรือไม่
ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง มาตรา 14 เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น ไม่อาจมีการร่วมกันกระทำผิดกับผู้ที่มิได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1665-1670/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิด พ.ร.บ.ขนส่ง: การกระทำความผิดต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตฯ การร่วมกระทำผิดกับผู้ไม่มีใบอนุญาตฯ ไม่สามารถทำได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ. แต่ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณ. จำเลยเป็นแต่ลูกจ้างคนขับรถยนต์โดยสารสาธารณะของนายจ้างเท่านั้น. แม้จำเลยจะขับรับผู้โดยสารล่วงล้ำเข้าไปในเส้นทางที่รถบริษัทอื่นได้รับใบอนุญาตการขนส่งประจำทางก็ตาม. คนขับหรือจำเลยซึ่งมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ ย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 14.
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามเฉพาะผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น จะขยายความไปถึงคนอื่นด้วยไม่ได้ เพราะเป็นความผิดอาญา.
แม้การเก็บค่าโดยสารมีลักษณะเป็นการแข่งขันก็จริง. แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ. ก็ขาดองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14.
กรณีบุคคลสองคนขึ้นไปร่วมกันทำความผิดนั้น. โจทก์จะไม่ระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาด้วยก็ได้. แต่โจทก์ต้องบรรยายฟ้อง มิฉะนั้นก็ไม่มีข้อหาหรือประเด็นว่าจำเลยกระทำผิดร่วมกับพวกหรือไม่.
ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง มาตรา 14 เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น ไม่อาจมีการร่วมกันกระทำผิดกับผู้ที่มิได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะด้วยได้.
พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14 บัญญัติห้ามเฉพาะผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น จะขยายความไปถึงคนอื่นด้วยไม่ได้ เพราะเป็นความผิดอาญา.
แม้การเก็บค่าโดยสารมีลักษณะเป็นการแข่งขันก็จริง. แต่เมื่อจำเลยมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ. ก็ขาดองค์ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ.2497 มาตรา 14.
กรณีบุคคลสองคนขึ้นไปร่วมกันทำความผิดนั้น. โจทก์จะไม่ระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาด้วยก็ได้. แต่โจทก์ต้องบรรยายฟ้อง มิฉะนั้นก็ไม่มีข้อหาหรือประเด็นว่าจำเลยกระทำผิดร่วมกับพวกหรือไม่.
ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่ง มาตรา 14 เป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะเท่านั้น ไม่อาจมีการร่วมกันกระทำผิดกับผู้ที่มิได้รับใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะด้วยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรในโรงงานเดิม ไม่ถือเป็นการตั้งโรงงานใหม่ หากมีใบอนุญาตโรงงานเดิมอยู่แล้ว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ตั้งโรงงานสีข้าวก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยตั้งโรงงานโดยได้รับอนุญาตอยู่แล้ว เพียงแต่จำเลยเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่ใช้ในโรงงานเดิมเท่านั้น ไม่ถือว่าตั้งโรงงานขึ้นใหม่ ดังนี้ จำเลยจึงไม่ผิดฐานตั้งโรงงานโดยไม่รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงของเจ้าพนักงาน ไม่ใช่การข่มขู่หรือละเมิดสิทธิ แม้จะส่งผลให้ใบอนุญาตสิ้นสุด
ฟ้องว่าเจ้าพนักงานการพิมพ์มีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่า หนังสือพิมพ์ของโจทก์ไม่ได้พิมพ์ออกโฆษณาและจำหน่ายติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30 วัน ใบอนุญาตของโจทก์สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 จึงเรียนมาเพื่อทราบ เป็นการข่มขู่โจทก์มิให้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนหนังสือดังกล่าวของโจทก์ดังนี้ หนังสือที่จำเลยมีถึงโจทก์เพียงแต่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของจำเลยให้โจทก์ทราบ เพื่อจะได้ไม่ปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้น ไม่เป็นการข่มขู่หรือกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ศาลย่อมไม่รับฟัองของโจทก์ไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 903/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องระบุองค์ประกอบความผิดให้ชัดเจน หากศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยมีใบอนุญาตถูกต้อง โจทก์ไม่อาจฎีกาเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้
ความผิดฐานขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต กับความผิดฐานไม่นำใบอนุญาตกำกับไปกับสุราที่ขน องค์ความผิดต่างกันเป็นความผิดคนละฐานกัน โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยขนสุราของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยมีใบอนุญาตขนถูกต้องแล้ว จะลงโทษจำเลยฐานไม่นำใบอนุญาตกำกับการขนสุราของกลางอันเป็นความผิดอีกฐานหนึ่งซึ่งโจทก์มิได้กล่าวบรรยายมาในคำฟ้องขอให้ลงโทษด้วยนั้น ย่อมไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยมีใบอนุญาตขนสุราของกลางโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตขนสุรา หรือว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างนั้นไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลาง ความผิดฐานขนสุราของกลางโดยไม่มีใบอนุญาตจึงยุติ โจทก์จะมาฎีกาโต้เถียงว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลางหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2509)
เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าจำเลยมีใบอนุญาตขนสุราของกลางโดยชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่าจำเลยไม่มีใบอนุญาตขนสุรา หรือว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างนั้นไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลาง ความผิดฐานขนสุราของกลางโดยไม่มีใบอนุญาตจึงยุติ โจทก์จะมาฎีกาโต้เถียงว่าใบอนุญาตขนสุราที่จำเลยอ้างไม่ใช่ใบอนุญาตขนสุราของกลางหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่มีใบอนุญาต: ดุลพินิจศาลในการสั่งริบวัตถุแห่งการกระทำผิด
อาวุธปืนของกลาง เป็นปืนที่มีใบอนุญาตแล้วจึงมิใช่วัตถุที่ผิดกฎหมายอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชน ไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตกลางเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ แล้วแต่คดีเป็นเรื่อง ๆ ไป.