คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลฎีกา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2278/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาโดยมีข้อผิดพลาดเรื่องวันเกิดเหตุ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ถือเป็นการฟ้องล่วงหน้า
โจทก์ฟ้องด้วยวาจาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2524 ว่าจำเลยกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัสและกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก ปรากฏในบันทึกคำฟ้องของศาลว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 31 มิถุนายน 2524 อันเป็นวันภายหลังที่โจทก์ฟ้อง แต่ปรากฏตามบันทึกการตกลงชดใช้ค่าเสียหายและคำร้องขอผัดฟ้องและฝากขังว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2524 และต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2524 จำเลยมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ในวันที่โจทก์ฟ้องจำเลยก็ยังได้ยื่นคำร้องยอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง แสดงว่าจำเลยทราบดีถึงการกระทำความผิดของจำเลยทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ การที่ศาลบันทึกวันกระทำผิดของจำเลยผิดพลาดไปเป็นเรื่องของความพลั้งเผลอจึงหาใช่เป็นการฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้องไม่ ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2256/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างเหตุเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องระบุเหตุผลและข้อกฎหมายที่ชัดเจน มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าเอกสารหมาย ล.5 และ ล.6 เป็นเอกสารที่จำเลยที่ 2 ส่งในขณะจำเลยที่ 1 เบิกความเป็นพยานโดยไม่ทราบมาก่อน จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา มิควรรับฟังในทางที่เป็นโทษแก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มิได้กล่าวให้ปรากฏว่าการยื่นส่งเอกสารดังกล่าวไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาเพราะเหตุใด อย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้ง ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมโมฆะจากพยานไม่ตรงตามกฎหมาย ศาลฎีกายกประเด็นวินิจฉัยเองได้
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ไม่ได้ทำต่อหน้าพยาน 2 คน เป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1658 และย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1705 ปัญหาที่ว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้น เมื่อปรากฏต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2213/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โมฆะภาพพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ไม่ทำตามรูปแบบกฎหมาย และอำนาจศาลฎีกาในการวินิจฉัยปัญหาความสงบเรียบร้อย
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองที่ไม่ได้ทำต่อหน้าพยาน 2 คนเป็นพินัยกรรมที่ทำขึ้นโดยขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1658 และย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1705 ปัญหาที่ว่าพินัยกรรมเป็นโมฆะหรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความจะมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้น เมื่อปรากฏต่อศาลฎีกาศาลฎีกาย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรม การครอบครองอาวุธปืนและพยายามลักลอบออกนอกราชอาณาจักร ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ใช่ต่างกรรมกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงคือกระทำความผิด ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่กรรมหนึ่ง และกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติศุลกากรโดยพยายามลักลอบนำโลหะรูปกวางและอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนออกนอกราชอาณาจักรอีกกรรมหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1737/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้าข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลฎีกาพิจารณาเหตุรอการลงโทษและริบของกลาง
คดีที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำนวน 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษและไม่มีโทษปรับ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ถ้าศาลฎีกาเห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกก็อาจลงโทษปรับจำเลยด้วยได้
ข้าวสารของกลางเป็นสิ่งที่จำเลยใช้ทำการค้าโดยมิได้รับหนังสืออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน จึงเกี่ยวเนื่องกับความผิด ต้องริบตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 มาตรา 21 ทวิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: โจทก์มิได้อุทธรณ์ข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ในชั้นขอคืนของกลาง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าอุปกรณ์โต๊ะบิลเลียดเป็นของผู้ร้อง โจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์ดังนั้นฎีกาของโจทก์ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ใช่ของผู้ร้องจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาประเด็นประมาทเลินเล่อในคดีเลิกจ้าง ศาลฎีกาให้ย้อนสำนวนพิจารณาจากพยานเดิมโดยไม่ต้องสืบเพิ่มเติม
โจทก์จำเลยสืบพยานของตนในประเด็นที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนมาจนแถลงหมดพยานแล้วการที่ศาลฎีกาพิพากษาว่าให้ศาลแรงงานกลางทำการพิจารณาในประเด็นดังกล่าวและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีจึงหมายถึงให้พิจารณาพยานหลักฐานโจทก์จำเลยที่นำสืบกันมาแล้วในสำนวนแล้วพิพากษาใหม่เท่านั้น ที่ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยเสียเองเพราะเป็นกรณีต้องฟังข้อเท็จจริงอยู่ด้วยซึ่งศาลฎีกาจะวินิจฉัยเสียเองมิได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 56 วรรคสอง หาได้แสดงว่าศาลฎีกาประสงค์ให้สืบพยานเพิ่มเติมอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีแรงงานเมื่อศาลฎีกาย้อนสำนวน การพิจารณาพยานหลักฐานเดิมและขอบเขตการสืบพยานเพิ่มเติม
โจทก์จำเลยสืบพยานของตนในประเด็นที่ศาลฎีกาย้อนสำนวนมาจนแถลงหมดพยานแล้วการที่ศาลฎีกาพิพากษาว่าให้ศาลแรงงานกลางทำการพิจารณาในประเด็นดังกล่าวและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีจึงหมายถึงให้พิจารณาพยานหลักฐานโจทก์จำเลยที่นำสืบกันมาแล้วในสำนวนแล้วพิพากษาใหม่เท่านั้น ที่ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยเสียเองเพราะเป็นกรณีต้องฟังข้อเท็จจริงอยู่ด้วยซึ่งศาลฎีกาจะวินิจฉัยเสียเองมิได้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 56 วรรคสอง หาได้แสดงว่าศาลฎีกาประสงค์ให้สืบพยานเพิ่มเติมอีกไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1669/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทที่จำเลยสละ และการไม่นำสืบพยานหลักฐานในชั้นศาล ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
แม้จำเลยที่ 3 จะให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ที่กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นชี้สองสถานมิได้กำหนดปัญหาข้อนี้เป็นประเด็นข้อพิพาท และจำเลยที่ 3 ก็มิได้โต้แย้งคัดค้านไว้ถือว่าจำเลยที่ 3 ได้สละประเด็นข้อพิพาทนี้แล้วจึงเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้นศาลฎีกา ไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 2 ฎีกามีใจความทำนองเดียวกับอุทธรณ์ มิได้โต้แย้งหรือคัดค้านว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องด้วยประการใดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ที่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า แม้จำเลยที่ 1 จะประมาท แต่ ผู้ขับรถยนต์โดยสารก็มีส่วนร่วมประมาทด้วย การกำหนดค่าเสียหายก็ควรให้ผู้ร่วมทำละเมิดร่วมรับผิดชอบด้วยนั้นปัญหานี้จำเลยที่ 3 มิได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้นศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
of 344