พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1645/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่ขึ้นอยู่กับการนำสืบเรื่องการบอกกล่าวให้จำเลยออกจากห้องเช่า การฟังข้อเท็จจริงนอกพยานหลักฐานเป็นเหตุให้ศาลต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าห้องพิพาทโจทก์ซื้อมาจากเจ้าของเดิม โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยแล้ว ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ยังไม่ได้บอกกล่าว จำเลยได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
ก่อนพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่าโจทก์เป็นเจ้าของห้องพิพาทจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จำเลยขายข้าวสารน้ำปลาและของเบ็ดเตล็ดและอาศัยอยู่ในห้องพิพาท ได้จดทะเบียนการค้าตามโจทก์อ้างจริง แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ดังนี้แม้ในฟ้องของโจทก์ได้กล่าวว่าได้บอกกล่าวจำเลยแล้วจำเลยก็มิได้รับตามฟ้อง จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความในเรื่องบอกกล่าวจึงจะมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย เมื่อไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง แต่ศาลชั้นต้นกลับฟังว่าโจทก์ได้บอกกล่าวแล้วจึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงเรื่องบอกกล่าวนอกพยานหลักฐานในสำนวน และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ใช่ข้อเท็จจริงไม่ต้องห้ามฎีกา
อนึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้านในชั้นอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้(เรื่องบอกกล่าว) จึงให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย
ก่อนพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่าโจทก์เป็นเจ้าของห้องพิพาทจำเลยไม่ได้ทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จำเลยขายข้าวสารน้ำปลาและของเบ็ดเตล็ดและอาศัยอยู่ในห้องพิพาท ได้จดทะเบียนการค้าตามโจทก์อ้างจริง แล้วโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ดังนี้แม้ในฟ้องของโจทก์ได้กล่าวว่าได้บอกกล่าวจำเลยแล้วจำเลยก็มิได้รับตามฟ้อง จึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความในเรื่องบอกกล่าวจึงจะมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย เมื่อไม่สืบก็ต้องยกฟ้อง แต่ศาลชั้นต้นกลับฟังว่าโจทก์ได้บอกกล่าวแล้วจึงเป็นการฟังข้อเท็จจริงเรื่องบอกกล่าวนอกพยานหลักฐานในสำนวน และปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ใช่ข้อเท็จจริงไม่ต้องห้ามฎีกา
อนึ่งโจทก์ก็มิได้คัดค้านในชั้นอุทธรณ์ว่าจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไว้(เรื่องบอกกล่าว) จึงให้ยกฎีกาของโจทก์เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพและการครอบครองยาเสพติด พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับฝิ่นของกลาง
ในคดีหาว่ามีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าฝิ่นของกลางเป็นของใคร แต่โจทก์มีพยานสืบว่าฝิ่นของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในตู้เก็บอาหารแห้งในเรือสินค้าต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อค้นฝิ่นแล้ว ผู้ค้น ตำรวจและผู้สอบสวนสอบถามจำเลยถึง 3 ครั้ง 3 หนแต่จำเลยก็รับว่าเป็นฝิ่นของตนต่อหน้ามูลนายของจำเลยทั้งยังเขียนคำรับเป็นภาษาจีนและแสดงวิธีเอาฝิ่นไปซุกซ่อนไว้ให้ดูโดยถอดกระดานฝาตู้ชั้นในออกเอาฝิ่นซุกไว้แล้วปิดฝาอย่างเก่า สมกับเป็นผู้เอาฝิ่นไว้เองทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองตู้ๆ นั้น มีกุญแจ จำเลยเป็นผู้รักษากุญแจเอง พฤติการณ์เหล่านี้ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนคดีฟังได้ว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: ปืนแก๊ปทำเอง, ระยะยิงไกล, กระสุนไม่ถูกตัว, พยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ได้ความแต่เพียงว่าจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย แต่ไม่ได้ปืนมาเป็นของกลาง และได้ความจากพยานแต่เพียงว่าเป็นปืนแก๊บทำเอง ลำกล้องยาวราว 1 คืบปากกระบอกขนาดนิ้วก้อยรอดได้ ปืนนั้นจะร้ายแรงพอทำให้ผู้ถูกยิงตายหรือไม่ไม่ปรากฏชัด คงปรากฏแต่ว่ากระสุนไปถูกพื้นถนนเลยตัวผู้เสียหายที่วิ่งหนีไปราว 1 ศอก ดินถนนกระจายขึ้น ประกอบจำเลยยิงเมื่อผู้เสียหายไปห่างถึง 15 วาแล้วดังนี้ ยังไม่พอฟังว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย.
++
++
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันการมีพวก แต่ศาลยังเชื่อพยานหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับพวกอีกคนหนึ่งชิงทรัพย์ ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยมีพวกด้วยเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นเหตุที่ศาลจะต้องยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงพยายามฆ่า: การพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ไม่ชัดเจนและการขาดแรงจูงใจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหายแต่โจทก์ไม่มีพยานเห็นในขณะจำเลยยิงจึงไม่รู้ว่าจำเลยประทับปืนยิงเล็งตรงไปที่ผู้เสียหายหรือไม่ แต่ตัวจำเลยยิงเล็งไปยังผู้เสียหายแล้ว ในระยะห่างกันเพียง 7 ว่า ปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าต้องถูกเป้าหมาย ฉนั้นเมื่อผู้เสียหายมิได้ถูกกระสุนที่จำเลยยิง และกระสุนไปถูกชายคาเรือนห่างจากผู้เสียหาย 3 ศอก จึงอาจเป็นเพราะจำเลยไม่ได้ยิงเล็งผู้เสียหายและเล็งยิงไปยังที่หมายที่ถูกลูกกระสุนนั้นก็ได้ประกอบกับเหตุที่จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหาย ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงคุ้มแค้นจะฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงพยายามฆ่า: การพิจารณาจากพยานหลักฐานและเหตุจูงใจ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าผู้เสียหาย แต่โจทก์ไม่มีพยานเห็นในขณะจำเลยยิง จึงไม่รู้ว่าจำเลยประทับปืนยิงเล็งตรงไปที่ผู้เสียหายหรือไม่ แต่ตัวจำเลยยิงเล็งไปยังผู้เสียหายแล้วในระยะห่างกันเพียง 7 วาปลัดอำเภอผู้สอบสวนว่าต้องถูกเป้าหมาย ฉะนั้นเมื่อผู้เสียหายมิได้ถูกกระสุนที่จำเลยยิง และกระสุนไปถูกชายคาเรือนห่างจากผู้เสียหาย 3 ศอก จึงอาจเป็นเพราะจำเลยไม่ได้ยิงเล็งผู้เสียหายและเล็งยิงไปยังที่หมายที่ถูกลูกกระสุนนั้นก็ได้ ประกอบกับเหตุที่จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหายก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงคุมแค้นจะฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จและการพิจารณาพยานหลักฐาน: ฟ้องยังไม่ถึงที่สุด พยานจากสำนวนอื่นใช้ไม่ได้
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือเป็นฟ้องตาม ก.ม.และจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้น ฉนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม ก.ม.อาญา ม.158,159 ได้คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ป.วิ.อาญา. ม.172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จและการรับรองพยานหลักฐานจากสำนวนอื่น ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158 และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือว่าเป็นฟ้องตามกฎหมายและจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้นฉะนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 158,159 ได้ คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และพยานหลักฐานไม่พอฟัง ศาลยกฟ้อง
คำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนนั้นเมื่อปรากฎว่าพนักงานสอบสวนมิได้ตัดเตือนจำเลยเสียก่อนตาม ป.วิ.อาญา ม. 134จึงรับฟังเป็นคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยันจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการลงโทษ
คำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนนั้นเมื่อปรากฏว่าพนักงานสอบสวนมิได้ตักเตือนจำเลยเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 จึงรับฟังเป็นคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยันจำเลยไม่ได้