พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,082 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิจารณาข้อหาเดิม แม้คู่ความมิได้อุทธรณ์ หากเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่สอดคล้องกับคำพิพากษา
คดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย แม้คู่ความจะไม่ได้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกปัญหาข้อนี้ขึ้นพิจารณาได้ในเมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความมานั้นฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากมิได้ระบุข้อเท็จจริง แม้แต่โดยย่อ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความ จึงรีบจัดทำฎีกามาชั้นหนึ่งก่อน รายละเอียดพิศดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรตามมาภายหลัง นอกจากนี้แล้วไม่ปรากฏว่าฎีกาของจำเลยระบุข้อเท็จจริงประการใด ดังนี้ ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากมิได้ระบุข้อเท็จจริง แม้แต่โดยย่อ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความจึงรีบจัดทำฎีกาย่อมาชั้นหนึ่งก่อน รายละเอียดพิศดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรตามมาภายหลัง นอกจากนี้แล้วไม่ปรากฏว่าฎีกาของจำเลยระบุข้อเท็จจริงประการใด ดังนี้ ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องยื่นคำร้องภายใน 10 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง
ในการตรวจอุทธรณ์ที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นนั้น ศาลชั้นต้นอาจตรวจในข้อที่คดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224, 230
ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์ของจำเลยแล้วเห็นว่าต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จึงสั่งไม่รับ และมีคำสั่งให้ส่งอุทธรณ์นั่นไปเท่าที่เป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย จึงเป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไปยังศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 หาใช่ต้องเป็นกรณีปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหมดไม่ จำเลยจึงต้องอุทธรณ์คำสั่งศาล่ชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตามมาตรา 234
ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์ของจำเลยแล้วเห็นว่าต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จึงสั่งไม่รับ และมีคำสั่งให้ส่งอุทธรณ์นั่นไปเท่าที่เป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย จึงเป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไปยังศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 หาใช่ต้องเป็นกรณีปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหมดไม่ จำเลยจึงต้องอุทธรณ์คำสั่งศาล่ชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตามมาตรา 234
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องยื่นภายใน 10 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง
แม้ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์บางข้อคู่ความผู้อุทธรณ์จะอุทธรณ์คำสั่งก็ต้องยื่นภายในกำหนด 10 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1305/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้เถียงดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานของศาลล่างไม่อาจฎีกาได้
การฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักคำพยานของศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: คำพิพากษาคดีแพ่งต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกและลักทรัพย์ (ขุดหินลูกรัง) ในที่พิพาท ขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและลักทรัพย์ และขอให้ห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องที่พิพาท ตลอดจนให้ชดใช้ค่าเสียหายทดแทนให้โจทก์นั้น เมื่อในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้ถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มิใช่เจ้าของที่พิพาท ดังนี้ ศาลฎีกาก็จำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาดังกล่าว ฉะนั้น ที่โจทก์ฎีกาขอให้พิพากษาคดีส่วนแพ่งว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง-อาญา: ศาลต้องถือตามข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุด หากคดีแพ่งมีประเด็นเดียวกัน
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยบุกรุกและลักทรัพย์ (ขุดหินลูกรัง) ในที่พิพาทขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและลักทรัพย์ และขอให้ห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องที่พิพาท ตลอดจนให้ชดใช้ค่าเสียหายทดแทนให้โจทก์นั้น เมื่อในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยไว้ถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มิใช่เจ้าของที่พิพาท ดังนี้ ศาลฎีกาก็จำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาดังกล่าวฉะนั้น ที่โจทก์ฎีกาขอให้พิพากษาคดีส่วนแพ่งว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์คดีอาญาในศาลแขวง: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงและการอุทธรณ์นอกประเด็น
ในกรณีที่ศาลแขวงพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษานั้นในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22
อุทธรณ์ว่าออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันการเบิกเงินล่วงหน้าตามสัญญา มิได้ออกให้เพื่อการอย่างอื่น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
อุทธรณ์คัดค้านในข้อที่ศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลอย่างไรแก่คดีนั้นเป็นอุทธรณ์คัดค้านที่นอกประเด็น ไม่ชอบจะรับไว้พิจารณา
อุทธรณ์ว่าออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันการเบิกเงินล่วงหน้าตามสัญญา มิได้ออกให้เพื่อการอย่างอื่น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
อุทธรณ์คัดค้านในข้อที่ศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลอย่างไรแก่คดีนั้นเป็นอุทธรณ์คัดค้านที่นอกประเด็น ไม่ชอบจะรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์คดีอาญาในศาลแขวง: ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริง และประเด็นนอกคำพิพากษา
ในกรณีที่ศาลแขวงพิพากษายกฟ้อง โจทก์ย่อมอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษานั้นในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงพ.ศ.2499 มาตรา 22
อุทธรณ์ว่าออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันการเบิกเงินล่วงหน้าตามสัญญา มิได้ออกให้เพื่อการอย่างอื่น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
อุทธรณ์คัดค้านในข้อที่ศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลอย่างไรแก่คดีนั้น เป็นอุทธรณ์คัดค้านที่นอกประเด็น ไม่ชอบจะรับไว้พิจารณา
อุทธรณ์ว่าออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ยึดถือไว้เป็นหลักประกันการเบิกเงินล่วงหน้าตามสัญญา มิได้ออกให้เพื่อการอย่างอื่น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
อุทธรณ์คัดค้านในข้อที่ศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นวินิจฉัยให้เป็นผลอย่างไรแก่คดีนั้น เป็นอุทธรณ์คัดค้านที่นอกประเด็น ไม่ชอบจะรับไว้พิจารณา