คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จากพยานหลักฐานที่ชัดเจน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กระทงกระทงหนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกระทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1 ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปีส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กระทงเป็นจำคุกคนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์: พยานหลักฐานแน่นหนา ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิด 2 กระทงกระทงหนึ่งฐานข่มขืนกระทำชำเรา และอีกกระทงหนึ่งฐานชิงทรัพย์ตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243,299,63,71 โดยจำคุกฐานข่มขืนคนละ 1 ปี ฐานชิงทรัพย์คนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษฐานข่มขืนกระทำชำเราโดยลงโทษจำคุกจำเลยฐานนี้คนละ 4 ปีส่วนโทษฐานชิงทรัพย์คงวางโทษอย่างเดิมรวมโทษ 2 กระทงเป็นจำคุกคนละ 8 ปี เช่นนี้ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงฐานข่มขืนกระทำชำเราได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1728/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานทางอ้อมพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์ และการขาดการร้องทุกข์ในความผิดฐานฉ้อโกง
ที่จะมีความผิดฐานลักทรัพย์นั้นแม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายเข้าไปลักกระบือแต่ได้ความว่ากระบือหายเวลาค่อนแจ้ง กำนันจับจำเลยได้ขณะขี่กระบือในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย จำเลยก็รับว่าไม่รู้จักเจ้าทรัพย์แม้บ้านก็ไม่รู้จัก ครั้นจำเลยได้ประกันตัวไปจากอำเภอเพื่อนำหลักฐานมาแสดง จำเลยก็ตรงไปหาเจ้าทรัพย์ถูก ซ้ำยังหลอกลวงว่าจะไปไถ่กระบือคืนให้ ๆ เจ้าทรัพย์มอบตั๋วพิมพ์รูปพรรณไปพฤติการณ์ดังนี้เป็นเหตุแวดล้อมให้เห็นว่าจำเลยนั่นเองเป็นผู้เข้าไปลักกระบือรายนี้
อันความผิดฐานฉ้อโกงนั้นแม้ในฟ้องจะกล่าวว่า เจ้าทุกข์ได้ร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานสอบสวนจัดการดำเนินคดีแก่จำเลยก็ดีแต่เวลาโจทก์นำสืบไม่ปรากฎว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ดำเนินคดีในความผิดฐานี้เลย ทั้งหลักฐานการร้องทุกข์ก็ไม่ปรากฎฉนั้นจะฟังว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานขอให้ดำเนินคดีแก่จำเลยหาได้ไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยฐานฉ้อโกงยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีพนัน: ข้อจำกัดด้านเวลาฟ้อง, ตัวการร่วม, และการลงโทษตามพยานหลักฐาน
เกี่ยวกับการกระทำผิดในคดีอาญาเล่นการพนันสลากกินรวบโจทก์บรรยายฟ้องว่าตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2496 ตลอดจนถึงวันที่30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนแม้จะกล่าวเป็นเวลานานถึง 9 เดือนก็ตาม จำเลยก็พอเข้าใจข้อกล่าวหาได้ดีแล้ว นอกจากนั้นโจทก์ยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ดังนี้ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
และในฟ้องของโจทก์ก็แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดในคดีนี้ เมื่อข้อเท็จจริงโจทก์สืบได้สม แม้โจทก์มิได้อ้าง กฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งหมดฐานเป็นตัวการได้ ไม่เป็นการพิจารณาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684-1685/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานเพื่อหักล้างข้อความในเอกสารสัญญายืมเงินที่เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเฉพาะบางส่วน
เมื่อจำเลยกล่าวอ้างว่าหนังสือสัญญายืมเงินที่โจทก์ฟ้องเป็นเอกสารปลอมบางส่วนคือส่วนที่ระบุจำนวนเงินที่กู้ยืมนั้นจำเลยย่อมมีสิทธินำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างของตนได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 วรรคท้าย รูปคดีหาใช่เป็นเรื่องสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารอันต้องห้ามตามมาตรา 94 วรร(ข)ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานพยานโจทก์ไม่เพียงพอต่อการลงโทษจำเลยในคดีลักทรัพย์
คดีที่โจทก์หาว่าจำเลยลักทรัพย์ในที่จอดรถไฟ โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมกรณีมาสืบ คงส่งแต่คำให้การเจ้าทรัพย์ในชั้นสอบสวนมาประกอบการพิจารณา กับอ้างตำรวจผู้ทำการจับกุมจำเลยตามคำบอกเล่าของเจ้าทรัพย์โดยมิได้รู้เห็นขณะเกิดเหตุ ทั้งธนบัตรที่ค้นได้จากจำเลยก็มากกว่าที่เจ้าทรัพย์ว่าถูกล้วงไป ดังนี้ น้ำหนักหลักฐานพยานโจทก์หาพอที่จะฟังลงโทษจำเลยได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1635/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานพยานโจทก์ไม่เพียงพอต่อการลงโทษจำเลยในคดีลักทรัพย์
คดีที่โจทก์หาว่าจำเลยลักทรัพย์ในที่จอดรถไฟ โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมกรณีมาสืบ คงส่งแต่คำให้การเจ้าทรัพย์ในชั้นสอบสวนมาประกอบการพิจารณา กับอ้างตำรวจผู้ทำการจับกุมจำเลยตามคำบอกเล่าของเจ้าทรัพย์โดยมิได้รู้เห็นขณะเกิดเหตุ ทั้งธนบัตรที่ค้นได้จากจำเลยก็มากกว่าที่เจ้าทรัพย์ว่าถูกล้วงไป ดังนี้ น้ำหนักหลักฐานพยานโจทก์หาพอที่จะฟังลงโทษจำเลยได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: การพิสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงโดยตรง ไม่ใช่เพียงคำให้การที่ไม่น่าเชื่อถือ
ในอดีตฆาตกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะกระทำผิดเสมอไป พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีอันมั่นคงก็เพียงพอรับฟังมาลงโทษจำเลยได้
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: พยานพฤติการณ์แวดล้อม, การควบคุมตัว, และการปั้นเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนความผิด
ในคดีฆาตกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะกระทำผิดเสมอไป พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีอันมั่นคงก็เพียงพอรับฟังมาลงโทษจำเลยได้
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานพยานโจทก์ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความผิดของจำเลยที่ 1-3 ในคดีร่วมกันฆ่า ต้องอาศัยคำให้การที่ไม่เป็นความจริงของจำเลย
ในคดีฆาตกรรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีประจักษ์พยานรู้เห็นในขณะกระทำผิดเสมอไป พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีอันมั่นคงก็เพียงพอรับฟังมาลงโทษจำเลยได้
ข้อเท็จจริงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 รายงานแจ้งเหตุวิสามัญฆาตกรรมโดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 5 ยิงต่อสู้กับผู้ร้าย 5-6 คนในตอนกลางคืนซึ่งไม่ใช่ความจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนการฆ่าผู้ตาย เพียงเท่านี้เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นใดยืนยันว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ตายในตอนใดเสียเลยแล้วเช่นนี้ ศาลจะฟังแต่เพียงถ้อยคำอันไม่ใช่ความจริงของจำเลยเองมาลงโทษจำเลยในคดีเรื่องฆ่าคนตายอันมีโทษอุกฤษฎ์โดยไม่มีพยานโจทก์ยืนยันความผิดของจำเลยไม่ได้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยเหล่านี้ทำผิด
of 259