พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 193/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีกับกองมรดกก่อนแบ่งมรดก: เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์ในกองมรดก แม้จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ทายาทแล้ว
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินกู้ตามฟ้องให้โจทก์ในฐานะที่จำเลยเป็นภริยาผู้รับมรดก บ. โดยทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาต้องรับผิดร่วมด้วย แต่ขณะโจทก์ฟ้องจำเลยนั้นยังไม่ได้แบ่งมรดกกันระหว่างทายาท โฉนดยังเป็นชื่อของ บ. เจ้ามรดกเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ผู้ร้องเพิ่งโอนรับมรดกในขณะคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ฉะนั้น ถึงแม้ที่ดินพิพาทโอนใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนนายแบนเจ้ามรดกก็ตามที่พิพาทก็ยังเป็นทรัพยในกองมรดกของ บ. ซึ่งยังมิได้แบ่งอยู่นั่นเอง โจทก์จึงชอบที่จะยึดที่ดินพิพาทมาบังคับคดีได้โดยไม่ต้องฟ้องทายาทผู้รับมรดกคนอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้จากการบังคับคดี: วันที่ชำระหนี้เสร็จคือวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีรับเงิน ไม่ใช่จ่ายเงินให้เจ้าหนี้
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งดำเนินการตามหมายบังคับคดี ได้ทำการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลย รวมทั้งรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดไว้เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำไปในฐานเป็นผู้แทนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278 จึงต้องถือว่าเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รับจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลยซึ่งครบจำนวนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด เป็นเงินที่โจทก์ได้รับชำระหนี้จากทรัพย์ของจำเลยเสร็จในวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาด และรับเงินไว้แทนโจทก์แล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้โจทก์หลังจากวันนั้นอีกต่อไป ส่วนการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์ในภายหลัง เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้แทนโจทก์เพิ่งส่งเงินที่รับไว้แทนโจทก์ให้แก่โจทก์ จึงถือเอาวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์เป็นวันที่จำเลยชำระหนี้เสร็จตามคำพิพากษาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1435/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้โดยการบังคับคดี: วันที่ชำระหนี้เสร็จคือวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รับเงินจากการขายทอดตลาด
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งดำเนินการตามหมายบังคับคดีได้ทำการยึดและขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลย รวมทั้งรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดไว้เพื่อชำระหนี้ให้โจทก์พร้อม ด้วยดอกเบี้ย เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำไปในฐานเป็นผู้แทนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278 จึงต้องถือว่าเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รับจากการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองของจำเลยซึ่งครบจำนวนหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด เป็นเงินที่โจทก์ได้รับชำระหนี้จากทรัพย์ของจำเลยเสร็จในวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดและรับเงินไว้แทนโจทก์แล้ว จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้โจทก์หลังจากวันนั้นอีกต่อไป ส่วนการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์ในภายหลัง เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้แทนโจทก์เพิ่งส่งเงินที่รับไว้แทนโจทก์ให้แก่โจทก์ จึงถือเอาวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์เป็นวันที่จำเลยชำระหนี้เสร็จตามคำพิพากษาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการขายทอดตลาด: การไม่แจ้งการยึดทรัพย์เนื่องจากจำเลยไม่อยู่ มิอาจยกเลิกการขายได้
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ของจำเลย และได้ประกาศการยึดและวันขายทอดตลาดให้จำเลยทราบตามกฎหมายแล้ว จำเลยจะอ้างเหตุแต่เพียงว่าไปอยู่ต่างจังหวัดไม่ทราบการยึดทรัพย์และขายทอดตลาดนั้น ไม่ชอบ
การขายทอดตลาดได้กระทำโดยทีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาพอสมควรจึงได้ตกลงขายไป การขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่าเป็นไปโดยไม่สุจริตแต่ประการใด จำเลยจะมารื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ขายไปแล้วมาขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปนั้น หาได้ไม่
เมื่อมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
การขายทอดตลาดได้กระทำโดยทีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาพอสมควรจึงได้ตกลงขายไป การขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่าเป็นไปโดยไม่สุจริตแต่ประการใด จำเลยจะมารื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ขายไปแล้วมาขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปนั้น หาได้ไม่
เมื่อมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การยึดทรัพย์และการขายทอดตลาดชอบด้วยกฎหมาย แม้จำเลยอ้างไม่ทราบการยึดทรัพย์
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์ของจำเลย และได้ประกาศการยึดและวันขายทอดตลาดให้จำเลยทราบตามกฎหมายแล้ว จำเลยจะอ้างเหตุแต่เพียงว่าไปอยู่ต่างจังหวัดไม่ทราบการยึดทรัพย์และขายทอดตลาดนั้นไม่ชอบ
การขายทอดตลาดได้กระทำโดยมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาพอสมควรจึงได้ตกลงขายไป การขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่าเป็นไปโดยไม่สุจริตแต่ประการใด จำเลยจะมารื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ขายไปแล้วมาขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปนั้นหาได้ไม่
เมื่อมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
การขายทอดตลาดได้กระทำโดยมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาเป็นการชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่าราคาพอสมควรจึงได้ตกลงขายไป การขายทอดตลาดได้เสร็จสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่าเป็นไปโดยไม่สุจริตแต่ประการใด จำเลยจะมารื้อฟื้นขอให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ขายไปแล้วมาขายทอดตลาดใหม่ โดยอ้างว่าขายได้ราคาต่ำไปนั้นหาได้ไม่
เมื่อมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่หลังถูกบังคับคดี: พฤติการณ์นอกเหนือควบคุมและระยะเวลาการยื่นคำร้อง
ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงขั้นออกคำบังคับคดี โจทก์ได้ใช้วิธีขอให้ศาลประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ให้จำเลยแก้คดี กำหนดวันสืบพยานและประกาศให้จำเลยทราบคำบังคับตลอดมา เมือจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์ได้ขอให้บังคับคดียึดสวนยางของจำเลยอันอยู่ในหมู่เดียวกับภูมิลำเนาที่จำเลยอยู่ตามฟ้องโจทก์ จำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่ได้ไปจากบ้านตามภูมิลำเนาที่ปรากฏอยู่ตามฟ้อง คงอยู่ที่ภูมิลำเนาของจำเลยตลอดมาจำเลยยังไม่ทราบคำบังคับของศาล เมื่อจำเลยถูกยึดทรัพย์ จำเลยไม่ทราบว่าถูกยึดและถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร บ้านจำเลยอยู่ไกลตัวเมืองห่างความเจริญ ไม่มีหนังสือพิมพ์จะอ่านหากตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวนดังกล่าว ประกอบกับข้อที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริงย่อมถือได้ว่าจำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับโดยพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ และพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้นี้ เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อจำเลยได้ไปยื่นคำขอตรวจและคัดสำเนาต่อศาลที่ได้ออกคำบังคับ ทราบแน่ว่าจำเลยถูกฟ้องด้วยเรื่องอะไร และศาลได้มีคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ซึ่งต่อจากนั้นอีก 7 วันจำเลยได้ไปยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ จึงยื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเช่าบ้าน: สิทธิผู้เช่าหลังครบกำหนดสัญญา และการบังคับคดีซ้ำ
การที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า แล้วโจทก์จำเลยตกลงประนีประนอมกันให้จำเลยเช่าอยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แม้จะไม่มีข้อความว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยยอมออกจากห้องเช่าที่ฟ้องขับไล่นั้นก็ตามแต่ก็ย่อมเห็นความประสงค์ของคู่กรณีว่าเป็นการยอมให้อยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาที่ระบุไว้เท่านั้น หมายความว่าเมื่อครบกำหนดนั้นแล้ว ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่าไป
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามทีโจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามทีโจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดีเช่า: เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่า
การที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า แล้วโจทก์จำเลย ตกลงประนีประนอมกันให้จำเลยเช่าอยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแม้จะไม่มีข้อความว่า เมื่อครบกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จำเลยยอมออกจากห้องเช่าที่ฟ้องขับไล่นั้นก็ตามแต่ก็ย่อมเห็นความประสงค์ของคู่กรณีว่า เป็นการยอมให้อยู่ต่อไปได้ชั่วระยะเวลาที่ระบุไว้เท่านั้น หมายความว่าเมื่อครบกำหนดนั้นแล้ว ผู้เช่าต้องออกจากห้องเช่าไป
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏว่าไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามที่โจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำสั่งศาลในการบังคับคดี หากปรากฏว่าไม่ถูกต้อง ย่อมแก้ไขใหม่ได้จึงไม่เป็นการต้องห้ามที่โจทก์จะมีคำร้องขึ้นใหม่ โดยที่โจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีหนี้ค่าเล่าเรียนรายปี: เริ่มนับหนึ่งเมื่อถึงปีที่ต้องชำระ และบังคับเรียงตามลำดับ
หนี้ตามคำพิพากษา ถ้าหากเกิดขึ้นเป็นรายปีเรียงกันไป ก็ต้องบังคับเรียงกันไปตามลำดับ ส่วนใดเกิน 10 ปี การขอบังคับคดีก็ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อมีหนี้หลายราย เงินที่ได้รับมาต้องชำระหนี้รายแรกก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 328
เมื่อมีหนี้หลายราย เงินที่ได้รับมาต้องชำระหนี้รายแรกก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 328
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีหนี้ค่าเล่าเรียนรายปี: นับหนึ่งใหม่เมื่อถึงกำหนดชำระแต่ละปี
หนี้ตามคำพิพากษา ถ้าหากเกิดขึ้นเป็นรายปีเรียงกันไป ก็ต้องบังคับเรียงกันไปตามลำดับ ส่วนใดเกิน 10 ปี การขอบังคับคดีก็ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อมีหนี้หลายราย เงินที่ได้รับมาต้องชำระหนี้รายแรกก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 328
เมื่อมีหนี้หลายราย เงินที่ได้รับมาต้องชำระหนี้รายแรกก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 328