พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้สืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยในคดีอาญา: การอุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ในคดีอาญา เมื่อโจทก์สืบพยานหมดแล้ว อยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขอพิสูจน์พยานจำเลยที่เบิกความไปแล้วโดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 120 และ 88 วรรคท้าย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นสั่งชี้ขาดในปัญหาที่โจทก์จะพิสูจน์พยานจำเลยว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ห่างไกลต่อประเด็นแห่งคดีจึงไม่อนุญาต การที่ศาลชั้นต้นสั่งเช่นนี้ ก็โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงมิใช่เป็นการพิจารณาในข้อกฎหมาย เมื่อเป็นคดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ถึงหากโจทก์จะขอสืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยได้ โจทก์ก็อุทธรณ์ฎีกา เพื่อขอสืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยไม่ได้อยู่นั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1973/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้สืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยในคดีอาญา: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกา
ในคดีอาญา เมื่อโจทก์สืบพยานหมดแล้วอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขอพิสูจน์พยานจำเลยที่เบิกความไปแล้วโดยอ้างประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 120 และ 88 วรรคท้าย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นสั่งชี้ขาดในปัญหาที่โจทก์จะพิสูจน์พยานจำเลยว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ห่างไกลต่อประเด็นแห่งคดีจึงไม่อนุญาต การที่ศาลชั้นต้นสั่งเช่นนี้ ก็โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงมิใช่เป็นการพิจารณาในข้อกฎหมาย เมื่อเป็นคดีที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ถึงหากโจทก์จะขอสืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยได้ โจทก์ก็อุทธรณ์ฎีกาเพื่อขอสืบพยานพิสูจน์พยานจำเลยไม่ได้อยู่นั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1683/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: นายสนามม้าองค์การทหารผ่านศึกมีฐานะเป็นผู้เสียหายได้
นายสนามม้าขององค์การทหารผ่านศึกมีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชาคนทำงานและรับผิดชอบในกิจการแข่งม้า เมื่อเกิดมีการทุจริตยักยอกเงินของสนามม้าขึ้น นายสนามม้านั้นย่อมเป็นผู้เสียหายด้วย และมีอำนาจร้องทุกข์ให้เจาพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1354/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดเรือของกลางโดยพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นการละเมิด
พนักงานสอบสวนยึดเรือของกลางไว้เกี่ยวกับคดีอาญาเพื่อดำเนินการสอบสวย โดยสมควรภายในกรอบอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 132 ย่อมไม่เป็นละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญา (เอกสารปลอม) ต้องมีผู้เสียหายจากการกระทำนั้นจริง จึงจะมีอำนาจฟ้อง
จำเลยมีเครื่องเพ็ชรโจทก์ไปจำนำไว้ต่อผู้มีชื่อคนหนึ่ง โดยโจทก์ตกลงจะเป็นผู้ไถ่เอง ต่อมาโจทก์ได้รับจดหมายซึ่งจำเลยทำปลอมว่าเป็นของผู้มีชื่อคนนั้นมาถึงจำเลย โดยจำเลยเป็นผู้ส่งให้โจทก์ มีใจความว่าให้จำเลยช่วยเก็บดอกเบี้ยจากโจทก์และให้เร่งรัดโ7ทก์ให้รีบไถ่ของคืน ทั้งนี้ เพื่อให้โจทก์หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารอันแท้จริง จะได้ทำตามอุบายหลอกลวงที่จำเลยมีต่อโจทก์นั้น แต่โจทก์ยังไม่ได้ทำตามเอกสารนั้นเลย ดังนี้ โ7ทก์ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเอกสารนั้น จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ที่ไม่ชัดเจนจำนวนที่ยักยอกและอายุความ
ฟ้องว่า ยักยอกเงิน 2 ประเภท กล่าวบรรยายแต่ยอดเงินรวมมาว่า รวมเป็นเงินเท่าใด โดยมิได้แยกออกเป็นรายประเภทไว้ เพราะไม่ปรากฏแน่ชัดว่ายักยอกประเภทละเท่าใด เมื่อฟังว่าจำเลยยักยอกจริง แต่เงินประเภทหนึ่งได้ขาดอายุความฟ้องร้องเสียแล้ว และทางพิจารณาก็ไม่ได้ความว่าประเภทที่ยังไม่ขาดอายุความเป็นเงินเท่าใด ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ศาลกล่าวว่า ในชั้นนี้จำเลยยังไม่ต้องคืนหรือใช้ทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวของผู้เสียหายทำให้สิทธิในการดำเนินคดีระงับ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมฟ้องคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา เมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์โดยจำเลยไม่คัดค้านแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาโดยโจทก์ร่วมสิทธิการฟ้องระงับ
อัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาเมื่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์ โดยจำเลยไม่คัดค้านแล้วสิทธินำคดีมาฟ้องร้องย่อมระงับไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดอุทธรณ์คดีแพ่งปนคดีอาญา: ใช้มาตรา 229 ป.วิ.พ.
ฟ้องคดีอาญาปนคดีแพ่ง ศาลยกฟ้องคดีส่วนอาญา แต่ให้โจทก์ชนะในส่วนแพ่ง ดังนี้ จำเลยยื่นอุทธรณ์ คดีส่วนแพ่งได้ในกำหนดหนึ่งเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 มิใช่กำหนด 15 วัน ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 732/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลทหารในการพิจารณาประกันตัวและการแก้ไขค่าปรับ คดีอาญาที่ขึ้นศาลทหารไม่อุทธรณ์ต่อศาลพลเรือนได้
คดีที่ขึ้นศาลทหารและพวกทหารได้สั่งเรื่องประกันไปอย่างไรแล้ว จะอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลอุทธรณ์อันเป็นศาลพลเรือนไม่ได้