พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,589 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเพิกถอนสัญญาซื้อขายที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะใบเหยียบย่ำ
โจทก์ฟ้องว่า ผู้มีชื่อได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำทับที่ของโจทก์และผู้นับได้ขายที่ให้แก่จำเลย จึงขอให้เพิกถอนสัญญา ซื้อขายและแสดงว่าที่เป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลจะวินิจฉัยแต่เพียงว่าโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เจ้าหน้าที่ออกใบเหยียบย่ำ หาชอบไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การครอบครองที่ดิน: ศาลต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะใบเหยียบย่ำ
โจทก์ฟ้องว่า ผู้มีชื่อได้ขอให้อำเภอออกใบเหยียบย่ำทับที่ของโจทก์ และผู้นั้นได้ขายที่ให้แก่จำเลย จึงขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายและแสดงว่าที่เป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลจะวินิจฉัยแต่เพียงว่าโจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีนับแต่เจ้าหน้าที่ออกใบเหยียบย่ำ หาชอบไม่ ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานต่างๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการรับฟังพยานหลักฐาน: คำเบิกความในศาลมีน้ำหนักกว่าคำให้การชั้นสอบสวน
คำพะยานที่เบิกความชั้นศาลมิได้ผูกมัดศาลให้รับฟังทั้งหมด ศาลมีอำนาจชั่งน้ำหนักแล้วชี้ขาดว่าควรฟังแค่ไหนเพียงใดหรือไม่ และคำพะยานชั้นสอบสวนนั้นก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างใดเลย ฉะนั้นศาลจะฟังหรือไม่เพียงใดก็สุดแต่เหตุผลของแต่ละเรื่องไป
พะยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลยพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพะยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
พะยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลยพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพะยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการพิจารณาพยานหลักฐาน: คำเบิกความในศาลมีน้ำหนักกว่าคำให้การชั้นสอบสวน
คำพยานที่เบิกความชั้นศาลมิได้ผูกมัดศาลให้รับฟังทั้งหมดศาลมีอำนาจชั่งน้ำหนักแล้วชี้ขาดว่าควรฟังแค่ไหนเพียงใดหรือไม่ และคำพยานชั้นสอบสวนนั้นก็ไม่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างใดเลย ฉะนั้นศาลจะฟังหรือไม่เพียงใดก็สุดแต่เหตุผลของแต่ละเรื่องไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
พยานที่ให้การชั้นสอบสวนไว้อย่างหนึ่งภายหลังให้การชั้นศาลไปอีกอย่างหนึ่งนั้น ศาลจะฟังหรือไม่อย่างใดก็สุดแต่ดุลพินิจของศาล ใช่ว่าในกรณีเช่นนี้ผูกมัดจะให้ศาลต้องรับฟังถ้อยคำของพยานที่ให้การในชั้นศาลเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จกรณีถูกปล้น: พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเท็จได้
โจทก์กล่าวฟ้องจำเลยในข้อหา 2 ข้อ คือเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบและเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าถูกปล้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเพทุบายว่าถูกปล้น เพื่อไม่ต้องใช้เงินแก่ลูกค้านั้น จะอาศัยพะยานโจทก์ที่ให้ความเห็นและข้อสันนิษฐานว่าจำเลยไม่ถูกปล้นมาวินิจฉัยฟังเอาว่าความที่จำเลยนำมาแจ้งนั้นเป็นความเท็จยังไม่ได้ และจะอนุมาณเอาจากการที่ว่าจำเลยไม่ต้องการจ่ายเงินให้ลูกค้าก็ยังไม่ได้ในเมื่อข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นเจ้ามือนั้นฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จเรื่องถูกปล้นเพื่อหลีกเลี่ยงหนี้พนัน: พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ความเท็จ
โจทก์กล่าวฟ้องจำเลยในข้อหา 2 ข้อ คือเป็นเจ้ามือเล่นการพนันสลากกินรวบและเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าถูกปล้น ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเพทุบายว่าถูกปล้น เพื่อไม่ต้องใช้เงินแก่ลูกค้านั้น จะอาศัยพยานโจทก์ที่ให้ความเห็นและข้อสันนิษฐานว่าจำเลยไม่ถูกปล้นมาวินิจฉัยฟังเอาว่าความที่จำเลยนำมาแจ้งนั้นเป็นความเท็จยังไม่ได้และจะอนุมาณเอาจากการที่ว่าจำเลยไม่ต้องการจ่ายเงินให้ลูกค้าก็ยังไม่ได้ ในเมื่อข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยเป็นเจ้ามือนั้นฟังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานทางอ้อมเพียงพอพิสูจน์ความผิดอาญา แม้ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีโดยรวมพยานหลักฐานจากสำนวนอื่นเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดิน
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาจะเรียกสำนวนคดีอื่นมาประกอบการวินิจฉัยก่อนมีคำพิพากษาก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการรับฟังความผิด ชี้ให้เห็นถึงเหตุยกฟ้องจำเลยทั้งสอง
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคำพยานบุคคลของโจทก์เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ และตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีทั้งหมดพยาน หลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ถือว่าเป็นเหตุในลักษณะ คดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นไปด้วยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 872/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้องจำเลยทั้งสอง แม้มีการฎีกาเฉพาะบางคน
ในกรณีที่ศาลเห็นว่าคำพยานบุคคลของโจทก์เชื่อเป็นความจริงไม่ได้ และตามรูปเรื่องแห่งลักษณะคดีทั้งหมดพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ทำให้มีขึ้นซึ่งการกระทำผิดดังฟ้อง ถือว่าเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องสำหรับจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นไปด้วยได้