คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คนต่างด้าว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 278 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การฟ้องเคลือบคลุม, และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การครอบครองปรปักษ์, และความชัดเจนของฟ้องคดี
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องมีติดตัว, ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขคำพิพากษา
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้น ไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม ม. 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงาน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกะทงโจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ + ศาลอุทธรณ์พิพากษา+ โจทก์และจำเลยฎีกาต่อมาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกะทงความผิดไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องมีติดตัว, ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขโทษที่ไม่ถูกต้องได้
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้นไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม มาตรา 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกระทง โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในกระทงไม่ต่ออายุศาลอุทธรณ์พิพากษายกโจทก์และจำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกระทงความผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวที่ใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องพกใบสำคัญนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงาน
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้นไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม มาตรา 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกระทง โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในกระทงไม่ต่ออายุศาลอุทธรณ์พิพากษายกโจทก์และจำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกระทงความผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดจากการสมรสกับชาวต่างชาติและการรับใบสำคัญคนต่างด้าว
เมื่อโจทก์อ้างว่าจำเลยเสียสัญชาติไทยโดยการสมรสกับคนต่างด้าว ดังนี้ปัญหาที่ว่าจำเลยยังเป็นคนไทยหรือต่างด้าวนั้นต้องพิจารณาตาม พ.ร.บ.สัญชาติซึ่งใช้อยู่ขณะจำเลยทำการสมรส กล่าวคือ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2456 ม.4เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบตาม พ.ร.บ.นี้ให้ปรากฎว่า ก.ม.แห่งสัญชาติสามีบัญญัติให้หญิงไทยถือเอาสัญชาติของสามีได้ ดังนี้ถือว่าจำเลยสละสัญชาติไทยแล้วไม่ได้
พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. 2479 ม.7 ซึ่งบัญญัติว่า "หญิงซึ่งมีสัญชาติไทย ถ้าต้องสละสัญชาติไทยเพราะสมรสกับคนต่างด้าวให้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว" นั้นหาได้หมายความว่าหญิงไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวและไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วถือว่าสละสัญชาติไทยไม่
เมื่อถือว่าจำเลยไม่ได้สละสัญชาติไทยคือยังเป็นคนไทยอยู่ก็ไม่จำต้องให้จำเลยร้องฟ้องขอให้ได้มาซึ่งสัญชาติหรือฟ้งอร้องผู้โต้แย้งตนว่าไม่ใช่คนไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยไม่สิ้นสุดจากการสมรสกับชาวต่างชาติและการรับใบสำคัญคนต่างด้าว
เมื่อโจทก์อ้างว่าจำเลยเสียสัญชาติไทยโดยการสมรสกับคนต่างด้าว ดังนี้ปัญหาที่ว่าจำเลยยังเป็นคนไทยหรือต่างด้าวนั้นต้องพิจารณาตามพระราชบัญญัติสัญชาติซึ่งใช้อยู่ขณะจำเลยทำการสมรส กล่าวคือ พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2456 มาตรา 4 เมื่อโจทก์ไม่ได้สืบตาม พระราชบัญญัตินี้ให้ปรากฏว่ากฎหมายแห่งสัญชาติสามีบัญญัติให้หญิงไทยถือเอาสัญชาติของสามีได้ ดังนี้ถือว่าจำเลยสละสัญชาติไทยแล้วไม่ได้
พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2479 มาตรา 7 ซึ่งบัญญัติว่า "หญิงซึ่งมีสัญชาติไทย ถ้าต้องสละสัญชาติไทยเพราะสมรสกับคนต่างด้าวให้ไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว"นั้นหาได้หมายความว่าหญิงไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวและไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วถือว่าสละสัญชาติไทยไม่
เมื่อถือว่าจำเลยไม่ได้สละสัญชาติไทยคือยังเป็นคนไทยอยู่ก็ไม่จำต้องให้จำเลยร้องฟ้องขอให้ได้มาซึ่งสัญชาติหรือฟ้องร้องผู้โต้แย้งตนว่าไม่ใช่คนไทย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576-1590/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะสัญชาติ: การรับใบสำคัญคนต่างด้าวโดยถูกบังคับ ไม่ทำให้เสียสัญชาติไทย
คนสัญชาติไทยซึ่งถูกทางราชการบังคับให้ไปรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยมิได้สมัครใจที่จะเข้าถือสัญชาติอื่นหรือสละสัญชาติไทย การรับใบสำคัญเช่นนี้ ไม่ถือว่าเป็นการรับใบสำคัญประจำตัวตาม กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าวดังที่บัญญัติไว้ตาม มาตรา 16 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1452/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยไม่ขาดกรณีรับใบสำคัญคนต่างด้าวตามคำแนะนำเจ้าพนักงานหลังสมรสกับคนต่างด้าว
หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรแต่บิดาเป็นคนต่างด้าว ได้สมรสกับคนต่างด้าวแต่ตามกฎหมายยังคงเป็นคนสัญชาติไทยอยู่ ต่อมาหญิงนั้นได้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตาม กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว แต่เป็นการรับเพราะเหตุที่ได้สมรสกับคนต่างด้าว และเป็นการปฏิบัติคำแนะนำของเจ้าพนักงานมิใช่โดยสมัครใจหญิงนั้นจึงยังหาขาดจากสัญชาติไทยไปตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ(ฉบับที่ 2) มาตรา 5 ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1400/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ใบแทนใบสำคัญคนต่างด้าวไม่ใช่หลักฐานผูกมัดสิทธิ การใช้เอกสารปลอมเข้าข่ายความผิดอาญา
ใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว เป็นแต่เพียงรายการต่ออายุใบสำคัญเป็นปีๆ เท่านั้น ไม่มีลักษณะเป็นหนังสือสำคัญแก่การตั้งกรรมสิทธิ์หรือหนี้สิน มิใช่เป็นหลักฐานแห่งการเปลี่ยนแก้หรือเลิกล้างโอนกรรมสิทธิหรือหนี้สิน
เมื่อจำเลยใช้ใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวซึ่งมีผู้ทำปลอมขึ้นโดยแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนต่างด้าวทั้งที่จำเลยรู้ว่าปลอม จำเลยจึงมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 227 ประกอบด้วย มาตรา 224 มิใช่ตาม มาตรา 227ประกอบด้วย มาตรา 225
of 28