พบผลลัพธ์ทั้งหมด 334 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ยกขึ้น ศาลก็วินิจฉัยได้
อำนาจฟ้องแม้จำเลยไม่ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ก็เป็นปัญหากฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสมยอมประมูลงานรัฐขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรม หนี้ตามเช็คจึงเป็นโมฆะ
จำเลยออกเช็คให้โจทก์ตามข้อตกลงไม่แข่งขันกันในการที่ โจทก์จำเลยประมูลรับจ้างทำไม้จากบริษัทของรัฐ ลวงให้เชื่อว่าประมูลกันจริงข้อตกลงขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเป็นโมฆะโจทก์เรียกเงินตามเช็คไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2552/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนภายหลังการกระทำผิด ศาลฎีกามีอำนาจปรับคดี แม้ไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นประเด็น
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้โดยไม่ได้รับอนุญาติ นำไปขอรับอนุญาตได้ภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้จึงไม่ถูกต้อง และในปัญหาดังกล่าวนี้แม้จะไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาตัวแทน, อำนาจฟ้อง, ความรับผิดหนี้, และการขัดต่อความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาในประเด็นข้อใด คู่ความไม่อุทธรณ์ในประเด็นข้อนั้นศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่ในประเด็นที่ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัย ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ในประเด็นที่ยุติไปไม่มีอุทธรณ์แล้วไม่ได้ แต่ถ้าเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของ ประชาชนเรื่องอำนาจฟ้อง คู่ความยกขึ้นฎีกาในการพิจารณาพิพากษาใหม่ได้
ข้อสัญญาเรื่องตั้งอนุญาโตตุลาการตามสัญญาตัวแทน ไม่ตัดสิทธิคู่กรณีไม่ให้ฟ้องศาลเมื่อผิดสัญญา
ธนาคารพาณิชย์เปิดสาขาโดยให้จำเลยเป็นตัวแทน ได้รับส่วนแบ่งเป็นบำเหน็จร้อยละ 50 ของกำไร ไม่ใช่เงินจ่ายแก่กรรมการพนักงานหรือลูกจ้างของธนาคาร ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2488 มาตรา11 ไม่มีกฎหมายห้ามตั้งตัวแทนเป็นสาขาธนาคารพาณิชย์ในขณะนั้น
ข้อสัญญาตัวแทนว่า ถ้าตัวแทนเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้ใน 6 เดือนตั้งแต่เลิกสัญญาตัวแทน ตัวแทนต้องรับผิดใช้หนี้แทน ตัวแทนจะอ้างเหตุเสียเปรียบไม่ได้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยฯ
ข้อสัญญาเรื่องตั้งอนุญาโตตุลาการตามสัญญาตัวแทน ไม่ตัดสิทธิคู่กรณีไม่ให้ฟ้องศาลเมื่อผิดสัญญา
ธนาคารพาณิชย์เปิดสาขาโดยให้จำเลยเป็นตัวแทน ได้รับส่วนแบ่งเป็นบำเหน็จร้อยละ 50 ของกำไร ไม่ใช่เงินจ่ายแก่กรรมการพนักงานหรือลูกจ้างของธนาคาร ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2488 มาตรา11 ไม่มีกฎหมายห้ามตั้งตัวแทนเป็นสาขาธนาคารพาณิชย์ในขณะนั้น
ข้อสัญญาตัวแทนว่า ถ้าตัวแทนเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้ใน 6 เดือนตั้งแต่เลิกสัญญาตัวแทน ตัวแทนต้องรับผิดใช้หนี้แทน ตัวแทนจะอ้างเหตุเสียเปรียบไม่ได้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ เพราะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72 นั้น แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลก็หยิบยกขึ้นอ้างเองได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่ลงวันที่มิใช่ประเด็นความสงบเรียบร้อย หากมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การ ศาลไม่รับวินิจฉัย
เช็คไม่ลงวันที่ออกเช็คไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 (6) นั้น ไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ถ้าไม่ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ในคำให้การ ศาลไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่ลงวันที่มิใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลไม่ต้องวินิจฉัยหากมิได้ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้
เช็คไม่ลงวันที่ออกเช็คไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988(6) นั้น ไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 มาตรา 4 ถ้าไม่ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ในคำให้การ ศาลไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้เอง แม้ไม่ได้ยกขึ้นเป็นประเด็น
ในเรื่องอำนาจฟ้อง อันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น แม้ไม่เป็นประเด็นที่คู่ความอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปได้เอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5)
เมื่อตามคำฟ้องปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ โดยหาจำต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 17, 18 ไม่
เมื่อตามคำฟ้องปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ โดยหาจำต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 17, 18 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้เองตามมาตรา 142(5) แม้ไม่ได้ยกขึ้นเอง
ในเรื่องอำนาจฟ้อง อันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนนั้น แม้ไม่เป็นประเด็นที่คู่ความอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปได้เอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)
เมื่อตามคำฟ้องปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ โดยหาจำต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 17,18 ไม่
เมื่อตามคำฟ้องปรากฏว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ โดยหาจำต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 17,18 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางคดีป่าไม้: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้แม้ไม่มีประเด็นในชั้นอุทธรณ์ หากเป็นประโยชน์แก่จำเลยและเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
แม้จะมีประเด็นในชั้นอุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่าจะริบถ่านไม้ของกลางได้หรือไม่ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจวินิจฉัยในทางที่เป็นประโยชน์แก่จำเลยว่า จำเลยไม่มีความผิดในข้อหานำของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางของพนักงานเจ้าหน้าที่กำกับได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
จำเลยได้ถ่านไม้ของกลางมาโดยมิชอบ การที่จำเลยนำถ่านไม้ของกลางเคลื่อนที่ จึงมิใช่เป็นกรณีตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 18 อันจะพึงขอใบเบิกทางได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีถ่านไม้อันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง จำเลยจะฎีกาอ้างข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏในสำนวนว่าถ่านไม้ของกลาง จำเลยได้รับอนุญาตให้ตัดฟันและเผาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วหาได้ไม่
จำเลยได้ถ่านไม้ของกลางมาโดยมิชอบ การที่จำเลยนำถ่านไม้ของกลางเคลื่อนที่ จึงมิใช่เป็นกรณีตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 18 อันจะพึงขอใบเบิกทางได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีถ่านไม้อันเป็นของป่าหวงห้ามไว้ในความครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดไว้ โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยให้การรับสารภาพ ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงตามฟ้อง จำเลยจะฎีกาอ้างข้อเท็จจริงซึ่งไม่ปรากฏในสำนวนว่าถ่านไม้ของกลาง จำเลยได้รับอนุญาตให้ตัดฟันและเผาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วหาได้ไม่