คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำสั่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อนในคดีภาษี: การฟ้องซ้ำเรื่องเดิม แม้คำสั่งต่างกัน ถือฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้อนหรือไม่เป็นปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
เงินภาษีและเงินเพิ่มที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้มีคำวินิจฉัยไว้ในอุทธรณ์ฉบับแรก แม้เจ้าพนักงานประเมินจะได้มีคำสั่งแจ้งการประเมินเพิ่มเติมอีก ก็หาใช่เป็นผลจากการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินต่างหาก แต่เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่มีคำสั่งไปตามคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฉบับแรกนั้นเอง เมื่อโจทก์ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ฉบับแรกในคดีก่อนและคดีอยู่ระหว่างพิจารณา การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ฉบับหลังซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน แม้คำสั่งของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์จะเป็นคนละคำสั่ง ฟ้องโจทก์ก็เป็นฟ้องซ้อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะของแต่ละศาล โจทก์ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ได้
การสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 เป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลแต่ละชั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับต่อศาลอุทธรณ์ ย่อมเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะสั่ง โจทก์จะฎีกาคำสั่งดังกล่าวต่อศาลฎีกาไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งให้ลูกจ้างทำงานนอกหน้าที่และประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ถือเป็นคดีพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน
ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้โจทก์มาปฏิบัติหน้าที่ในวันหยุดประจำสัปดาห์ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างจะสั่งได้ จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของจำเลยเสียหาย โจทก์ต้องรับผิดต่อจำเลยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8 (1) โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งให้ลูกจ้างปฏิบัติงานแม้ในวันหยุดชอบด้วยกฎหมาย หากประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ลูกจ้างต้องรับผิด
ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้โจทก์มาปฏิบัติหน้าที่ในวันหยุดประจำสัปดาห์ เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างจะสั่งได้ จึงเป็นเรื่องการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของจำเลยเสียหาย โจทก์ต้องรับผิดต่อจำเลยเป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1) โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยต่อศาลแรงงานกลางได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการอนุญาต/ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรต้องเป็นไปตามกฎหมาย และโจทก์ต้องระบุเหตุที่คำสั่งนั้นขัดต่อกฎหมาย
อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของกรมตำรวจจำเลยที่ 2 ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 35 โจทก์ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่อนุญาตให้โจทก์อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ในคำฟ้องไม่ได้ความว่าฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด ดังนี้ถือไม่ได้ว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร และการพิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของกรมตำรวจตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 35 โจทก์อ้างว่าคำสั่งของกรมตำรวจจำเลยที่ 2 ที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลเพิกถอน แต่คำฟ้องโจทก์ไม่ได้ความว่าคำสั่งดังกล่าวฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งให้วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและการแก้ไขจำนวนเงินประกันโดยศาลฎีกา
คำสั่งศาลให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 253 เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณาตามป.วิ.พ. มาตรา 228(2) ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้โดยไม่จำต้องโต้แย้งคำสั่งไว้ก่อน
คดีมีทุนทรัพย์ 18,739,895.67 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย 30,000 บาท ตามป.วิ.พ.มาตรา 253 ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคำนึงถึงทุนทรัพย์ในคดีนี้แล้วเป็นจำนวนต่ำไป จึงให้โจทก์วางเงินประกันจำนวน 50,000บาท.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4688/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างย่อมมีผลเมื่อออกคำสั่ง แม้ปิดกิจการก็ต้องออกคำสั่งเลิกจ้างชัดเจน ศาลไม่อาจกำหนดผลย้อนหลัง
ผู้ร้องปิดกิจการและเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดเมื่อวันที่19 พฤษภาคม 2529 ผู้ร้องมายื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 29พฤษภาคม 2529 ขออนุญาตเลิกจ้าง ผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง โดยให้มีผลเลิกจ้างผู้คัดค้านย้อนหลังไปถึง วันที่19 พฤษภาคม 2529 กรณีเช่นนี้ผู้ร้องมีเหตุที่จะเลิกจ้างผู้คัดค้านได้ แต่การที่ผู้ร้องจะเลิกจ้างผู้คัดค้านตั้งแต่ เมื่อใดเป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะต้องไปดำเนินการออกคำสั่งอีกชั้นหนึ่ง ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้เลิกจ้างผู้คัดค้านมีผลย้อนหลังไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4248/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาต้องรอคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีที่ยังไม่สิ้นสุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนหมายบังคับคดี ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง คงมีคำสั่งเฉพาะคำร้องขอทุเลาการบังคับของผู้ร้องเท่านั้น คดียังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิฎีกาทั้งนี้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4248/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฎีกาในคดีบังคับคดี: การพิจารณาคำสั่งอุทธรณ์ยังไม่สิ้นสุด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนหมายบังคับคดีผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้องคงมีคำสั่งเฉพาะคำร้องขอทุเลาการบังคับของผู้ร้องเท่านั้นคดียังอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ผู้ร้องจึงยังไม่มีสิทธิฎีกาทั้งนี้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา247.
of 38