พบผลลัพธ์ทั้งหมด 443 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3493/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ชำระค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งทำให้ศาลมีอำนาจไม่รับฟ้องแย้ง แม้มีการอุทธรณ์คำสั่งเรื่องค่าขึ้นศาล
จำเลยชำระค่าขึ้นศาลตามฟ้องแย้งไม่ครบถ้วนศาลชั้นต้นสั่งให้ชำระเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา18เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งไม่รับคำฟ้องแย้งของจำเลยได้จำเลยจะอ้างการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นในเรื่องค่าขึ้นศาลมาเป็นเหตุไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3454/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลฎีกาไม่ครบถ้วน การทิ้งฟ้องตามกฎหมาย
จำเลยที่ 4 ยื่นฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา247 ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ข้อ (2)(ก) เป็นเงิน 200 บาท แต่จำเลยที่ 4 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพียง 40 บาท เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้จำเลยที่ 4 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นดำเนินการดังกล่าวแล้วแต่จำเลยที่ 4 เพิกเฉยไม่ดำเนินการภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามมาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 และ 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3454/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา ทำให้ฎีกาเป็นอันทิ้งฟ้อง
จำเลยที่ 4 ยื่นฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาล ตามตามตาราง 1 ข้อ (2)(ก) เป็นเงิน 200 บาท แต่จำเลยที่ 4 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพียง 40 บาท เป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้จำเลยที่ 4 เสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นดำเนินการดังกล่าวแล้วแต่จำเลยที่ 4เพิกเฉยไม่ดำเนินการภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาตามมาตรา 174(2) ประกอบด้วยมาตรา 246 และ 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3230-3231/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเรื่องค่าขึ้นศาลคดีพิพาทที่ดิน เพราะฎีกาแรกไม่เป็นสาระหลังมีการยื่นฎีกาใหม่ร่วมกับจำเลยอื่น
จำเลยที่2อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาว่าการอ่านคำพิพากษาไม่ใช่การพิจารณาเมื่อคดีนี้มีคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้วศาลชั้นต้นเพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบเพื่อให้ศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่2ฉบับแรกซึ่งศาลชั้นต้นสั่งไม่รับเพราะถือว่ายังไม่ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เนื่องจากได้เพิกถอนการอ่านแล้วแต่ต่อมาจำเลยที่2ได้ยื่นฎีการ่วมกับจำเลยที่1ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาแล้วฎีกาจำเลยที่2ที่ว่าควรรับฎีกาของจำเลยที่2ฉบับแรกหรือไม่จึงไม่เป็นสาระแก่คดี โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยทั้งสองเป็นการโต้เถียงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทเป็นคดีมีทุนทรัพย์ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามราคาที่ดินพิพาทแม้จะมีการดำเนินคดีเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ในศาลชั้นต้นก็ไม่ทำให้กลายเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3224/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลอนาถา: ศาลจำกัดเฉพาะทุนทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต หากไม่ชำระส่วนที่เหลือ ถือไม่ติดใจอุทธรณ์
โจทก์ขอดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมให้เฉพาะค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ 100,000 บาทหากโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีในทุนทรัพย์ที่มากกว่านี้ก็ให้โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลภายใน 10 วัน โจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่เกินกว่าที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถามาชำระ แต่ได้มีการขอให้พิจารณาใหม่เพื่อให้โจทก์นำพยานหลักฐานมาสืบว่า โจทก์เป็นคนยากจนในจำนวนทุนทรัพย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาอีก จำนวน 300,000 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องและให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาชำระตามที่ศาลมีคำสั่งภายใน 15 วัน หากเพิกเฉยถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ต่อไป เมื่อครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวโจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลตามที่ศาลสั่งมาชำระ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่ชำระค่าขึ้นศาลตามที่ศาลได้ไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์จึงไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นจึงหมายถึงค่าขึ้นศาลในทุนทรัพย์ที่โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2918/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินรวม แม้จำเลยไม่ประสงค์แบ่ง ศาลบังคับแบ่งได้ เหตุผลค่าขึ้นศาลต้องยกขึ้นในชั้นต้น
ปัญหาที่ว่าโจทก์เสียค่าขึ้นศาลไม่ถูกต้องนั้น จำเลยที่ 1 มิได้ยกขึ้นโต้แย้งในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เพิ่งยกขึ้นโต้แย้งในชั้นฎีกา จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยทั้งสอง โจทก์ย่อมขอให้แบ่งทรัพย์สินนั้นได้โดยไม่จำต้องระบุว่าจะทำการแบ่งอย่างไรหรือตกลงกันไม่ได้จะทำอย่างไร เพราะหากแบ่งแยกไม่ได้ก็มีวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงมิได้เป็นประเด็นข้อพิพาทที่ศาลจะต้องกำหนดไว้
การเป็นเจ้าของรวมระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองมิได้มีหลักฐานหรือพฤติการณ์ว่าเป็นเจ้าของรวมกันอย่างถาวรหรือมีนิติกรรมขัดอยู่ เมื่อโจทก์ขอให้แบ่งทรัพย์ จำเลยทั้งสองต้องแบ่งให้โจทก์ แม้จำเลยที่ 1 ไม่ประสงค์ขอแบ่งและต้องการให้มีกรรมสิทธิ์รวมกันตลอดไปก็ไม่มีกฎหมายรับรองให้มีผลตามความประสงค์
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยทั้งสอง โจทก์ย่อมขอให้แบ่งทรัพย์สินนั้นได้โดยไม่จำต้องระบุว่าจะทำการแบ่งอย่างไรหรือตกลงกันไม่ได้จะทำอย่างไร เพราะหากแบ่งแยกไม่ได้ก็มีวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงมิได้เป็นประเด็นข้อพิพาทที่ศาลจะต้องกำหนดไว้
การเป็นเจ้าของรวมระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสองมิได้มีหลักฐานหรือพฤติการณ์ว่าเป็นเจ้าของรวมกันอย่างถาวรหรือมีนิติกรรมขัดอยู่ เมื่อโจทก์ขอให้แบ่งทรัพย์ จำเลยทั้งสองต้องแบ่งให้โจทก์ แม้จำเลยที่ 1 ไม่ประสงค์ขอแบ่งและต้องการให้มีกรรมสิทธิ์รวมกันตลอดไปก็ไม่มีกฎหมายรับรองให้มีผลตามความประสงค์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาในคดีที่มีโจทก์หลายคน: ศาลฎีกาพิจารณาค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้อง
โจทก์ทั้งสองฟ้องให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ทั้งสองคนละจำนวนแยกจากกันโดยเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องมาในอัตราสูงสุดเป็นเงินคนละ200,000บาทเมื่อจำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ที่โจทก์แต่ละคนเรียกร้องในอัตราสูงสุดคนละ200,000บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ: ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งคืนค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องตามกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 1(2) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ 200 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งคืนค่าขึ้นศาลเกินมาให้ถูกต้องตามอัตราขั้นต่ำ
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง1(2)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ200บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนเกินตามอัตราขั้นต่ำ
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง1(2)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ200บาท