พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีโทสะจริต ไม่ถือเป็นเหตุให้ไม่ต้องรับโทษตามมาตรา 65 วรรคแรก
หญิงยิงชายเพราะมีอารมณ์รุนแรง ถูกชายด่าเกิดโทสะจนขาดความยั้งคิด ใช้ปืนซึ่งศึกษาวิธีใช้ทดลองยิงในวันนั้น ยิงชาย ไม่เป็นเหตุตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2105/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการยิงใส่เรือหาปลา ผู้กระทำเล็งเห็นผลถึงแก่ความตาย
จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงไปยังเรือหาปลาของผู้ตายกับพวกเป็นชุด ๆ จำนวนหลายสิบนัด ซึ่งจำเลยทั้งสี่รู้ดีว่าในเรือหาปลาดังกล่าวมีคนอยู่ จำเลยทั้งสี่ย่อมเล็งเห็นผลว่า กระสุนปืนอาจถูกคนในเรือถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2087/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมกระทำผิดฆ่าผู้อื่น: เจตนาจากการสนับสนุนให้ยิงซ้ำ
การที่จำเลยมาพร้อมกับพวก จำเลยได้ทะเลาะกับผู้ตายทั้งยกเก้าฮี้ จะเข้าตีผู้ตายกับพวกก่อน เมื่อพวกของจำเลยได้ยิงผู้ตาย 1 นัด จำเลย ได้ร้องบอกพวกว่ายิงซ้ำมันเลย ยิงซ้ำมันเลย คำพูดของจำเลยส่อแสดงให้เห็น ชัดว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย เมื่อพวกของจำเลยยิงผู้ตายแล้ว จำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปด้วยกัน การกระทำของจำเลยดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการ่วมมือกับ พวกจำเลยฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงต้องมีความผิดเป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่มีเจตนาทารุณโหดร้าย
ผู้ตายกับจำเลยเป็นเพื่อกันมาแต่เด็ก จำเลยเมาสุราหยอกล้อชกต่อยกับผู้ตาย จำเลยถูกต่อล้มลง จึงใช้ปืนยิงผู้ตายถูกที่ขา แล้ววิ่งตามไปยิงซ้ำถูกที่คำในเวลาอันกระชั้นชิด แม้จะฟังว่าบิดาผู้ตายได้ขอร้องมิให้จำเลยยิงซ้ำ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมิใช่เป็นการกระทำโดยทรมารหรือทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1960/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่มีเจตนาทารุณโหดร้าย
ผู้ตายกับจำเลยเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก จำเลยเมาสุราหยอกล้อชกต่อยกับผู้ตาย จำเลยถูกต่อยล้มลง จึงใช้ปืนยิงผู้ตายถูกที่ขา แล้ววิ่งตามไปยิงซ้ำถูกที่คอในเวลาอันกระชั้นชิดแม้จะฟังว่าบิดาผู้ตายได้ขอร้องมิให้จำเลยยิงซ้ำ ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมิใช่เป็นการกระทำโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2461-2462/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ขณะเข้าปล้น จำเลยที่ 1 ถือปืนสั้น จำเลยที่ 2 ถือปืนยาว ต่อมาในขณะถูกจับพบปืนลูกซองสั้นข้างตัวจำเลยที่ 1 ค้นตัวพบกระสุนปืนลูกซอง 2 นัด ส่วนจำเลยที่ 2 มีปืนลูกซองยาวอยู่หว่างขา ค้นตัวพบกระสุนปืนลูกซอง 2 นัด แม้ปืนลูกซองยาวจะเป็นปืนของเจ้าทรัพย์และมีทะเบียน แต่จำเลยที่ 2 นำมาไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตเช่นนี้ก็เป็นความผิด จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
จำเลยทั้งสองร่วมทำการปล้นทรัพย์ แล้วบังคับเอาตัวเจ้าทรัพย์และบุตรไปเป็นตัวประกัน แม้ที่เกิดเหตุปล้นทรัพย์จะอยู่ในเขตหมู่ 4 แต่ตำรวจติดมาพบคนร้ายในคืนนั้นเอง ในเขตหมู่ 9 เกิดยิงต่อสู้กัน เป็นเหตุให้บุตรผู้เสียหายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย ก็ต้องถือว่าขณะนั้นการปล้นทรัพย์ยังไม่ขาดตอน เพราะยังอยู่ในระหว่างที่ถูกคนร้ายขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายและบุตร และเพื่อให้ความสะดวกแก่การพาทรัพย์ที่ถูกปล้นไป ทั้งเพื่อให้คนร้ายพ้นจากการจับกุม แม้ไม่ได้ความชัดว่าบุตรผู้เสียหายถึงแก่ความตายเพราะกระสุนปืนของฝ่ายจำเลยหรือฝ่ายตำรวจ ก็ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกระทำการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
การที่จำเลยยังไปโดยไม่เห็นตัวตำรวจ เที่ยวแต่รู้ว่าตำรวจยังมาเท่านั้นเป็นการยังสุ่มๆ ไปเพื่อขัดขวางมิให้ตำรวจเข้าจับกุม จึงมีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
จำเลยทั้งสองร่วมทำการปล้นทรัพย์ แล้วบังคับเอาตัวเจ้าทรัพย์และบุตรไปเป็นตัวประกัน แม้ที่เกิดเหตุปล้นทรัพย์จะอยู่ในเขตหมู่ 4 แต่ตำรวจติดมาพบคนร้ายในคืนนั้นเอง ในเขตหมู่ 9 เกิดยิงต่อสู้กัน เป็นเหตุให้บุตรผู้เสียหายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย ก็ต้องถือว่าขณะนั้นการปล้นทรัพย์ยังไม่ขาดตอน เพราะยังอยู่ในระหว่างที่ถูกคนร้ายขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายและบุตร และเพื่อให้ความสะดวกแก่การพาทรัพย์ที่ถูกปล้นไป ทั้งเพื่อให้คนร้ายพ้นจากการจับกุม แม้ไม่ได้ความชัดว่าบุตรผู้เสียหายถึงแก่ความตายเพราะกระสุนปืนของฝ่ายจำเลยหรือฝ่ายตำรวจ ก็ต้องถือว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกระทำการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
การที่จำเลยยังไปโดยไม่เห็นตัวตำรวจ เที่ยวแต่รู้ว่าตำรวจยังมาเท่านั้นเป็นการยังสุ่มๆ ไปเพื่อขัดขวางมิให้ตำรวจเข้าจับกุม จึงมีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2019/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาเข้าร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้เป็นผู้ลงมือ และการพิพากษาจำเลยที่ 2 ที่ไม่มีส่วนร่วม
จำเลยที่ 1 ได้ร่วมไปกับ ค.และพวกบังคับขอเงินจากส. และสุ จนเกิดเหตุ ค.ใช้ขวานฟันส.แล้วหนีไปกับค. และพวก ต่อมาจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนมาด้วยกับ ค.และพวก เพื่อจะทำร้ายส. และ สุ อีกเมื่อผู้ตายซึ่งเป็นพวกของส.และสุขัดขวาง ค. กับพวกใช้ปืนยิงผู้ตาย แม้จะไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนยิงผู้ตาย ก็ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เจตนาร่วมกับ ค. และพวกกระทำผิด ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ได้อยู่ในการวิวาทครั้งแรก ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ไม่มีอาวุธปืน การที่จำเลยที่ 2 เพียงแต่มาด้วยกับ ค. และพวกในครั้งหลังเท่านั้น ไม่มีข้อเท็จจริงให้เห็นว่าก่อนหน้านั้นได้มีการสมคบจะมาทำร้ายหรือฆ่าผู้ตายอย่างใด ขณะเกิดเหตุคงยืนอยู่ด้วยเฉย ๆ ไม่ได้พูดจาหรือแสดงอาการใดที่เป็นการร่วมกระทำกับจำเลยที่ 1 และคนอื่น ๆ จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 2 ได้ตั้งใจร่วมกับจำเลยที่ 1 และ ค. ที่จะยิงผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1977/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์: การรวมกระทงความผิด
จำเลยและพวกร่วมกันมีปืนเป็นอาวุธ พยายามปล้นโคของส.และผ.ผู้ตาย เมื่อผ.ขัดขวางจำเลยใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผ. จนถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลลงโทษตามมาตรา 289 อันเป็นบทหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1687/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การเปลี่ยนเป้าหมายจากการแก้แค้นเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
จำเลยกับพวกเตรียมการมีอาวุธมาเพื่อจะฆ่าทหารกลุ่มที่ทำร้ายพวกของตนเท่านั้น บังเอิญมาพบทหารกลุ่มอื่นเข้า จำเลยกับพวกเกิดความคิดที่จะฆ่าทหารกลุ่มที่พบในปัจจุบันทันที ดังนั้น การที่จำเลยฆ่าและพยายามฆ่าทหารในกลุ่มที่พบนี้ จึงเป็นเรื่องที่จำเลยมิได้เตรียมการมาก่อน จำเลยกับพวกหาได้มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
แม้จำเลยที่ 1 จะแทงผู้ตายเพียงทีเดียว และไม่ปรากฏความยาวของมีดพกที่ใช้แทง แต่ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่างจำเลยที่ 1 แทงหน้าอกซ้ายซึ่งเป็นที่สำคัญโดยมีโอกาสเลือกแทง และตามรายงานชันสูตรพลิกศพไม่ได้บันทึกความลึกของบาดแผล แต่ว่าระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดล้มเหลวแสดงว่าแทงอย่างแรงจนเส้นเลือดขาด ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 มีมีดพกปลายแหลมกับพวกอีกคนหนึ่งซึ่งมีมีดดาบเป็นอาวุธเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุแล้วชี้หน้าผู้ตายเป็นลักษณะบอกพวกให้เข้าทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 แทงจนถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 มีมีดพกปลายแหลมกับพวกอีกคนหนึ่งซึ่งมีมีดดาบเป็นอาวุธเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุแล้วชี้หน้าผู้ตายเป็นลักษณะบอกพวกให้เข้าทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 แทงจนถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา