คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ดำเนินคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 254 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีของโจทก์และการใช้ดุลยพินิจของศาลในการจำหน่ายคดี
การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมกันนั้น จะเรียกว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาไม่ได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลงดกาพิจารณาไว้รอฟังผลของอีกคดีหนึ่ง เมื่อคดีนั้นได้ผลอย่างใดจะมาแถลงให้ศาลทราบ ครั้นเมื่อคดีนั้นพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โจทก์ก็หาได้กระทำประการใดไม่ จนเวลาล่วงเลยไปร่วมปี และซ้ำเมื่อจำเลยยื่นคำแถลงให้ศาลทราบ ศาลนัดโจทก์จำเลยมาพร้อมกัน โจทก์ได้รับหมายแล้ว ก้ยังหามาศาลไม่ การละเลยของโจทก์ เช่นนี้ เรียกได้ว่า โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีได้แล้ว และถือว่าเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามความใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 174(2) ด้วย ซึ่งศาลมีอำนาจสั้งจำหน่ายคดีโจทก์เสีสยได้แล้ว
อำนาจสั่งจำหน่ายคดีนั้นกฎหมายให้ศาลไว้เพื่อใช้ตามควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับว่าจะต้องจำหน่ายเสมอไป ศาลย่อมพิจารณาตามสมควรแก่พฤติการณ์(อ้างคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 57/2493) ฉะนั้นอำนาจที่จะสั้งนั้นอย่างหนึ่งสมควรสั่งหรือไม่นั้นอีกอย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกเฉยไม่ดำเนินคดี: ศาลมีอำนาจจำหน่ายคดีได้เมื่อโจทก์ละเลย
การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมกันนั้น จะเรียกว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาไม่ได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลงดการพิจารณาไว้รอฟังผลของอีกคดีหนึ่ง เมื่อคดีนั้นได้ผลอย่างใดจะมาแถลงให้ศาลทราบ ครั้นเมื่อคดีนั้นพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โจทก์ก็หาได้กระทำประการใดไม่ จนเวลาล่วงเลยไปร่วมปี และซ้ำเมื่อจำเลยยื่นคำแถลงให้ศาลทราบ ศาลนัดโจทก์จำเลยมาพร้อมกันโจทก์ได้รับหมายแล้ว ก็ยังหามาศาลไม่การละเลยของโจทก์ เช่นนี้ เรียกได้ว่า โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีได้แล้วและถือว่าเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 174(2) ด้วยซึ่งศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสียได้แล้ว
อำนาจสั่งจำหน่ายคดีนั้นกฎหมายให้ศาลไว้เพื่อใช้ตามควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับว่าจะต้องจำหน่ายเสมอไป ศาลย่อมพิจารณาตามสมควรแก่พฤติการณ์(อ้างคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 57/2493) ฉะนั้นอำนาจที่จะสั่งนั้นอย่างหนึ่งสมควรสั่งหรือไม่นั้นอีกอย่างหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีพยานนอกกำหนดและผลกระทบต่อการดำเนินคดี
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ทนายจำเลยยื่นคำแถลงว่าจำเลยยังไม่ได้ระบุพยาน เพราะทนายได้ฝากหนังสือไปหาจำเลยให้มาระบุพยานก่อนกำหนด 3 วัน แต่ผู้ถือจดหมายได้ทำหนังสือหายเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงขอยื่นบัญชีระบุพยานในวันนั้น ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำขอเช่นนี้ ต้องทำเป็นคำร้องตามมาตรา 88 วรรคสาม เมื่อทำเป็นคำแถลงจึงไม่รับพิจารณาให้ยกเสีย แต่จำเลยก็หาได้ทำคำร้องขอยื่นบัญชีพยานให้ถูกต้องเสียก่อนสืบพยานโจทก์ไม่ จนศาลสืบพยานโจทก์ไปเสร็จสิ้นแล้ว ทนายจำเลยจึงมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานในภายหลัง เช่นนี้โจทก์ย่อมไม่ทราบถึงพยานหลักฐานของจำเลยว่ามีอย่างไร ก่อนแต่สืบพยานฝ่ายตน เป็นการเสียเปรียบในทางคดี ดังนี้ พฤติการณ์และเหตุผล กรณีไม่มีเหตุสมควรจะให้รับการยื่นบัญชีพยาน และรับฟังพยานหลักฐานจำเลย อันฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิวาทสมัครใจ: คู่กรณีไม่เป็นผู้เสียหาย ฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ได้
โจทก์จำเลยทะเลาะโต้เถียงกันและเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเป็นการสมัครใจเข้าวิวาท ดังนี้ ถือว่าโจทก์จำเลยไม่ใช่ผู้เสียหาย ฝ่ายใดจะมาเป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2072/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: อัยยการจังหวัดอื่นดำเนินคดีแทน ต้องระบุฐานะเป็นอัยยการจังหวัดที่รับผิดชอบคดี
พนักงานอัยยการจังหวัดหนึ่งไปดำเนินคดีที่อีกจังหวัดหนึ่งได้โดยคำสั่งอธิบดีกรมอัยยการ แต่ต้องไปกระทำในฐานะเสมือนเป็นพนักงานอัยยการจังหวัดที่สั่งให้ไปดำเนินคดี
พนักงานอัยยการจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งได้รับคำสั่งอธิบดีกรมอัยยการให้ไปดำเนินคดีที่จังหวัดกระบี่ ได้ระบุในฎีกาว่าเป็นฎีกาของพนักงานอัยยการจังหวัดกาญจนบุรี ในคดีที่พนักงานอัยยการจังหวัดกระบี่เป็นโจทก์ ดังนี้ศาลฎีกาไม่รับฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดพลาดในการระบุปีเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ส่งผลต่อการดำเนินคดี หากข้อเท็จจริงอื่นยังคงชัดเจน
โจทก์กล่าวในฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 4 มกราคม 3491 นั้น เป็นการพิมพ์ตัวเลขจำนวนพันผิดพลาด คือแทนจะเป็นเลข 2 กลับเป็นเลข 3 ไป ตามทางพิจารณาที่โจทก์ จำเลย นำสืบก็ดี คำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ดี ตลอดจนฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยก็ดี ปรากฏว่าปีเกิดเหตุเป็นพุทธศักราช 2491 ทั้งนั้น ฟ้องของโจทก์จึงเป็นที่เห็นได้ประจักษ์ว่า โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2491 ศาลจะยกฟ้องเพราะการผิดพลาดเล็กน้อยเช่นนี้หาชอบไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615-616/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและการขยายเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาล ศาลมีอำนาจสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมบางส่วนได้
ศาลมีอำนาจสั่งให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนตาม ม.149 ได้
คู่ความมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาที่ศาลสั่งยกใหม่ได้ แม้ภายหลังกำหนดอายุความอุทธรณ์ 1 เดือนตาม ม.156 วรรคท้าย
การที่ศาลสั่งยกเว้นไม่ต้องวางเงินที่ต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่าย และสั่งรับอุทธรณ์นั้นถือว่าเป็นการที่ศาลสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ดังนั้นการที่ผู้อุทธรณ์นำเงินค่าธรรมเนียมที่ศาลไม่อนุญาตให้อนาถามาชำระต่อศาลตามคำสั่งเมื่อพ้นกำหนด 1 เดือนก็ไม่ทำให้คดีนั้นขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินระหว่างดำเนินคดี ศาลต้องใช้กฎหมายที่เบากว่า
ลักทรัพย์ในขณะมีสัญญาณภัยทางอากาศในขณะที่ใช้ พ.ร.ก.คุ้มครองทรัพย์สินของประชาชนฯ 2487 แต่เมื่อคดีสู่ศาลสูงเป็นเวลาใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองทรัพย์สินของประชาชน 2488 ศาลสูงต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายฉบับหลังซึ่งมีโทษเบากว่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำแจ้งความที่ปราศจากเจตนาให้ดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
+ความของผู้เสียหายที่แจ้งต่อเจ้า+ว่าไม่ประสงค์ให้สอบสวน+และแจ้งเพื่อไห้รัฐบ+++เท่านั้น นั้น ไม่เปน+ตามกดหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมฐานปลอมแปลงเอกสาร ทำให้การดำเนินคดีไม่ชัดเจน
ฟ้องว่านางเซ่งอู้มอบเงินให้นายไล้ซื้อผ้า แล้วจำเลยปลอมหนังสือใจความว่าให้นายไล้มอบผ้าหรือเงินให้แก่จำเลย โดยมิได้ระบุว่าปลอมหนังสือของผู้ใดดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 26