คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3377/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับผู้อื่นไม่ผูกพันบุคคลที่สาม และไม่ถือเป็นการฉ้อฉลหากบุคคลที่สามซื้อขายสุจริต
โจทก์และจำเลยที่3ทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าโจทก์ยอมถอนอายัดที่ดินพร้อมบ้านตามฟ้องพร้อมทั้งมีหนังสือถึงกรมที่ดินแจ้งการถอนอายัดจนจำเลยที่3สามารถทำนิติกรรมในบ้านและที่ดินได้จำเลยที่3จะต้องนำเงินมาชำระแก่โจทก์จำนวน800,000บาทภายใน1เดือนนับแต่โจทก์มีหนังสือถึงกรมที่ดินแจ้งการถอนอายัดจำเลยที่3ผิดนัดโจทก์บังคับคดีได้ทันทีในยอดเงิน800,000บาทโดยยอมให้ยึดที่ดินพร้อมบ้านตามฟ้องออกขายทอดตลาดดังนี้การที่โจทก์และจำเลยที่3ทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวมิได้ทำให้จำเลยที่2เสียหายและมิใช่เป็นการฉ้อฉลจำเลยที่2เพราะจำเลยที่2ให้การว่าขายที่ดินพร้อมบ้านตามฟ้องแก่จำเลยที่3โดยสุจริตทั้งคำพิพากษาตามยอมของศาลชั้นต้นก็ไม่ผูกพันจำเลยที่2จำเลยที่2จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนคำพิพากษาตามยอมของศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3140/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการแบ่งสินสมรสและมรดก แม้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบุคคลอื่น
โจทก์ฟ้องและจำเลยแถลงยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้องข้อเท็จจริงย่อมรับฟังได้ตามฟ้อง แม้จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโอนขายที่ดินบางแปลงตามบัญชีทรัพย์มรดกท้ายฟ้องให้แก่บุคคลอื่นและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดไปแล้วก็ตามคำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่ผูกพันโจทก์ที่1ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินดังกล่าวและมิได้เป็นคู่ความในคดีนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ: ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งคืนค่าขึ้นศาลให้ถูกต้องตามกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 1(2) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ 200 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งคืนค่าขึ้นศาลเกินมาให้ถูกต้องตามอัตราขั้นต่ำ
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง1(2)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ200บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342-2343/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ในคดีประนีประนอมยอมความ ศาลฎีกาแก้ไขคำสั่งให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนเกินตามอัตราขั้นต่ำ
โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นเรื่องตีความข้อความในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเรียกเก็บค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ตามที่บัญญัติไว้ในตาราง1(2)ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งคือ200บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2127/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นผลระงับสิทธิเรียกร้องเดิม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืนการให้
ภายหลังจากโจทก์ยกที่ดินให้แก่จำเลยแล้ว ต่อมาโจทก์จำเลยได้ทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับที่ดินและทรัพย์สินที่โจทก์ยกให้แก่จำเลยดังกล่าวรวมทั้งที่ดินพิพาทต่อหน้า พ.ผู้ใหญ่บ้านมีใจความว่า ที่ดินและทรัพย์สินที่ยกให้แก่จำเลยและเป็นชื่อของจำเลยแล้วนั้น ที่ดินที่เป็นที่สำหรับเพาะปลูก 1 แปลง จำเลยยอมยกให้ศ.และค. ส่วนที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและสำหรับเพราะปลูกอีกอย่างละแปลงรวม2 แปลง จำเลยยอมโอนคืนให้แก่โจทก์ โดยโจทก์ยอมยกยุ้งข้าว1 หลังให้แก่จำเลย ซึ่งบันทึกดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาที่โจทก์และจำเลยตกลงระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นเกี่ยวกับที่ดินและทรัพย์สินที่โจทก์ยกให้แก่จำเลยดังกล่าวนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850,851 การเรียกร้องที่โจทก์จำเลยได้ ยอมสละนั้นจึงระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน ตามมาตรา 852 โจทก์จำเลยจึงไม่มีความผูกพันต่อกันตามสัญญาให้ที่โจทก์ยกที่ดินและทรัพย์สินรวมทั้งที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยอีกต่อไป เมื่อไม่มีการให้ที่จะเรียกถอนคืนการให้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดินพิพาทดังกล่าวจากจำเลย และเกี่ยวกับอำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5)ประกอบมาตรา 246,247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2127/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลระงับสิทธิเรียกร้องเดิม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกถอนคืนการให้
โจทก์จำเลยทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับที่ดินพิพาทและทรัพย์สินที่โจทก์ยกให้แก่จำเลยโดยจำเลยยอมยกทรัพย์สินดังกล่าวส่วนหนึ่งให้บุคคลภายนอกและอีกส่วนหนึ่งจำเลยยอมโอนคืนให้แก่โจทก์โดยโจทก์ยอมยกยุ้งข้าว1หลังให้แก่จำเลยบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้การเรียกร้องที่โจทก์จำเลยได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามสัญญาว่าเป็นของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา850-852โจทก์จำเลยจึงไม่มีความผูกพันต่อกันตามสัญญาให้เดิมโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกถอนคืนการให้ที่ดินพิพาทจากจำเลยและเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5)ประกอบมาตรา246,247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละมรดกทำได้โดยหนังสือมอบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือสัญญาประนีประนอมยอมความ
การ สละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612ต้องทำ เป็นหนังสือมอบไว้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่คือ นายอำเภอตาม กฎกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2481และ พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ หรือทำเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา850ดังนั้นแม้ เจ้าพนักงานที่ดินมิใช่ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจดังกล่าวแต่เมื่อข้อความในเอกสารเป็นการ ประนีประนอมยอมความโดยโจทก์ผู้รับผิดในฐานะ ผู้สละมรดกและจำเลยในฐานะ ผู้รับมรดกได้ลงชื่อไว้จึงเป็นการ สละมรดกโดยชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละมรดกต้องทำตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด หรือทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612การสละมรดกต้องแสดงเจตนาชัดแจ้งเป็นหนังสือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งหมายถึงนายอำเภอการมอบให้แก่เจ้าพนักงานที่ดินจึงมิใช่การทำหนังสือสละมรดกที่มอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรานี้ บันทึกการสละมรดกโดยโจทก์ลงชื่อในช่องผู้ไม่รับมรดกและจำเลยลงชื่อในช่องผู้ขอรับมรดกเป็นการประนีประนอมยอมความในการสละมรดกถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1612ประกอบมาตรา850แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญารับใช้หนี้และการระงับหนี้เดิมด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความ
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ให้โจทก์จากมูลหนี้ตามสัญญากู้เงินและสัญญากู้เงินโดยวิธีขายลดเช็คต่อมา ว.ซึ่งเป็นจำเลยที่4ในคดีนั้นได้ทำหนังสือรับใช้หนี้ในหนี้ทุกประเภทของจำเลยที่1ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยโดย ว.ยอมรับภาระเป็นลูกหนี้ชำระหนี้รายนี้แทนจำเลยที่1นอกเหนือจากความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันและโจทก์ยินยอมให้ ว. ชำระหนี้ในวันทำสัญญาเท่ากับหนี้ที่ ว. เป็นผู้ค้ำประกันส่วนที่เหลือยอมให้ ว.ออกเช็คล่วงหน้าผ่อนชำระหนี้6งวดโดยโจทก์ให้ความเชื่อถือ ว.และยอมคืนโฉนดที่ดินที่ ว. จำนองเป็นประกันหนี้จำเลยที่1ให้ไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองด้วยโจทก์จะเรียกดอกเบี้ยต่อเมื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ในอัตราร้อยละ20ต่อปีตามสัญญารับใช้หนี้ข้อ3เท่านั้นเป็นการที่โจทก์และ ว. ทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทที่มีขึ้นตามมูลหนี้เดิมให้เสร็จสิ้นไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา850เป็นผลทำให้มูลหนี้เดิมซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852โจทก์จะมาฟ้องจำเลยทั้งสามในมูลหนี้เดิมที่ระงับสิ้นไปแล้วหาได้ไม่
of 60