คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ภารจำยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 460 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5916/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: สิทธิการใช้ทางและขอบเขตการขัดขวางการใช้ทาง รวมถึงการฟ้องจำเลยที่ 2 ผู้ดูแลผลประโยชน์
บันทึกข้อตกลงเรื่องภารจำยอมมีข้อความระบุให้ที่ดินของจำเลยที่ 1 ตกอยู่ในบังคับภารจำยอมเรื่องทางเดิน ทางรถเต็มทั้งแปลงของโฉนดที่ดินของโจทก์ ต่อมาโจทก์ได้แบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อยหลายแปลง ที่ดินด้านหน้าที่ติดถนนก็ปลูกตึกแถวตลอดแนวเต็มเนื้อที่ และโจทก์จะดำเนินการก่อสร้างด้านในหลังตึกแถวดังกล่าวโดยทำถนนคอนกรีตไปจดแนวเขตที่ดินของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยทั้งสองไม่ยอมรื้อหลักหินและตัดต้นไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นตามแนวเขตออกและยังมีสิ่งกีดขวางอื่น ๆ อีก จึงเป็นการขัดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์ ที่จำเลยทั้งสองอ้างว่าการจดทะเบียนภารจำยอมนั้นเป็นการยอมให้ใช้เดินและใช้รถตามถนนในสภาพที่อยู่เดิมไม่ใช่ยอมให้โจทก์เชื่อมถนนของโจทก์ จำเลยเข้าด้วยกันขัดกับข้อตกลงภารจำยอมจึงฟังไม่ได้ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ที่ดินของจำเลยที่ 1ขัดขวางมิให้โจทก์ทำถนนมาเชื่อมกับถนนภารจำยอม เป็นการละเมิดโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยตรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการไม่ได้ ใช้ทางภารจำยอมและจากที่บุคคลภายนอกบอกเลิกสัญญาไม่ยอมซื้อที่ดินของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายไม่น้อยกว่า600,000 บาท เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาครบถ้วนแล้วฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิภารจำยอมโดยอายุความเกิดขึ้นได้แม้เจ้าของที่ดินอนุญาตโดยทั่วไป ไม่กระทบสิทธิแม้มีการโอนกรรมสิทธิ์
ธรรมเนียมปฏิบัติของชาวบ้านในท้องถิ่นที่เอื้อเฟื้อกันกรณีผู้ที่อยู่ในสวนที่ลึกจะต้องอาศัยเดินผ่านสวนของผู้อื่นออกไปสู่ภายนอกได้ การอนุญาตดังกล่าวเป็นการแสดงออกชัดโดยทางปฏิบัติของเจ้าของที่ดินเป็นการทั่วไปที่ไม่หวงห้ามหรือสงวนสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ของตน ยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตนเป็นภารจำยอมที่เกิดขึ้นโดยสมัครใจ จึงมิใช่การอนุญาตด้วยความคุ้นเคยหรือวิสาสะเป็นการเฉพาะตัว ดังนั้นการใช้ทางพิพาทของโจทก์ในลักษณะดังกล่าวจึงได้สิทธิภารจำยอมโดยอายุความ สิทธิภารจำยอมของโจทก์ได้มีขึ้นโดยผลแห่งกฎหมายรับรองและจะสิ้นสุดไปก็โดยเหตุต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด ส่วนของจำเลยทั้งหมดที่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินภารยทรัพย์นี้เป็นสิทธิคนละอันกับสิทธิภารจำยอมของโจทก์ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินภารยทรัพย์โดยทางทะเบียนไม่เป็นเหตุให้สิทธิภารจำยอมของโจทก์สิ้นสุดลงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5793/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์, ภารจำยอม, และผลกระทบของการซื้อที่ดินโดยสุจริตต่อสิทธิของผู้อื่น
เหตุผลที่ยกขึ้นฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ตรงกับที่ได้ให้การต่อสู้คดีไว้ จึงต้องถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบและไม่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์ทั้งสองครอบครองปรปักษ์ที่ดินใต้กันสาดจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว ท่อระบายน้ำทิ้งซึ่งอยู่ในที่ดินดังกล่าวย่อมตกเป็นสิทธิของโจทก์ทั้งสองโดยไม่ต้องชี้ขาดว่าเป็นภารจำยอมอีกหรือไม่ ภารจำยอมในที่ดินของจำเลยไม่สิ้นไปเพราะจำเลยซื้อที่ดินโดยสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสองเพราะตามบทบัญญัติดังกล่าวหมายถึงสองฝ่ายได้สิทธิอย่างเดียวกันโดยเหตุที่แตกต่างกัน แต่ในกรณีภารจำยอมนี้โจทก์ฝ่ายเดียวเป็นผู้ได้สิทธิภารจำยอม จำเลยมิใช่เป็นผู้ได้สิทธิ แต่กลับเป็นผู้ที่จะต้องรับรู้สิทธิของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1387 กรณีจึงไม่อาจบังคับตามมาตรา 1299 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5553/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดสรรที่ดินโดยปริยาย & ภารจำยอมทางสาธารณูปโภค แม้ไม่ได้รับอนุญาตจัดสรร
แม้ไม่ปรากฏว่า พ. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการจัดสรรที่ดินให้ทำการจัดสรรที่ดิน และที่ดินอันเป็นทางพิพาทเป็นที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาตตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ก็ตามก็ถือได้ว่าการกระทำของ พ.ที่แบ่งแยกที่ดินของตนออกเป็นแปลงย่อย 13 แปลง เพื่อขายนั้น เป็นการแสดงออกโดยปริยายแล้วว่า พ. จัดให้มีสาธารณูปโภคคือทางพิพาทอันถือได้ว่าเป็นการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวส่วนการที่ พ. จะขออนุญาตจัดสรรที่ดินหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากซึ่งหากจะเป็นการดำเนินการฝ่าฝืนประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวก็ไม่ทำให้การดำเนินการของ พ. ไม่เป็นการจัดสรรที่ดินตามกฎหมาย ทางพิพาทที่จำเลยปลูกโรงเรือนรุกล้ำจึงเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินที่โจทก์เช่าซื้อจาก พ. จำเลยจึงต้องรื้อถอนบ้านที่จำเลยปลูกรุกล้ำเข้ามาในทางพิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5310/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้สิทธิภารจำยอมโดยอายุความต้องเป็นการใช้ทางโดยปรปักษ์ การเสียค่าตอบแทนไม่ใช่การใช้โดยปรปักษ์
การได้สิทธิในทางภารจำยอมโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 ประกอบมาตรา 1382 จะต้องเป็นกรณีที่ได้ใช้ทางดังกล่าว โดยปรปักษ์ต่อเจ้าของที่ดินเพื่อให้ได้ทางภารจำยอม การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยเสียเงินค่าตอบแทนแก่เจ้าของที่ดินเดิม จึงมิใช่เป็นการใช้สิทธิในทางพิพาทในที่ดินโดยการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อเจ้าของที่ดินแม้จะเป็นเวลาเกินกว่า10 ปี ก็ไม่อาจอ้างว่าได้สิทธิภารจำยอมในทางพิพาทตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4951/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใช้ทางเดินส่วนบุคคลไม่เป็นภารจำยอม แม้จะมีการปฏิบัติตามตกลง แต่เป็นการใช้สิทธิเจ้าของที่ดินเดิม
จำเลยยอมรับที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงของเจ้าของเดิมของที่ดินโฉนดเลขที่ 7086 ให้เส้นทางพิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินดังกล่าวด้านทิศใต้กว้าง 1.5 เมตร ยาวตลอดแนวที่ดินดังกล่าวแก่เจ้าของที่ดินที่อยู่ด้านหลังใช้เป็นทางเดินและเมื่อแรกที่จำเลยเข้าอยู่อาศัยในที่ดินโฉนดเลขที่ 7086 ก็ได้ทำรั้วโดยเว้นทางพิพาทไว้อันเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ดังนั้นจำเลยจึงไม่มีสิทธิปิดกั้นทางพิพาทและต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในทางพิพาทออกไป โจทก์ใช้ทางพิพาทตามข้อตกลงเป็นการใช้โดยอาศัยสิทธิของเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 7086 จึงไม่อาจได้ภารจำยอมโดยอายุความและข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่เป็นทรัพยสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 4 จึงไม่เป็นภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3463/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมในที่ดินจัดสรร: การเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างบนที่ดินสาธารณูปโภคที่จัดสรร
จ. ได้นำที่ดินมาแบ่งแยกจัดสรรขายให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยได้กันเนื้อที่ดินบางส่วนทำเป็นถนนเพื่อให้บุคคลที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรใช้เป็นทางสัญจรจากหมู่บ้านไปสู่ถนนสาธารณะ ต่อมาที่ดินที่เป็นทางบางส่วน จ. ได้รังวัดแบ่งแยกแล้วจดทะเบียนยกให้เป็นทางสาธารณประโยชน์คงเหลือเฉพาะที่ดินที่เป็นทางพิพาทซึ่ง จ. ได้ให้โจทก์เช่าปลูกสร้างอาคารและโจทก์ได้รับอนุญาตให้ปลูกสร้างอาคารได้ ดังนี้ แม้ที่ดินที่โจทก์จะปลูกสร้างอาคารดังกล่าว จ. จะมิได้ยกให้เป็นสาธารณะ แต่เมื่อที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่มีสภาพเป็นสาธารณูปโภค ซึ่ง จ.ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นในที่ดินที่ได้รับอนุญาตจัดสรรจึงต้องด้วยบทบัญญัติของประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่286 ข้อ 30ที่บัญญัติ ให้ถือว่าตกอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินที่จัดสรรและให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินหรือผู้รับโอนกรรมสิทธิ์คนต่อไปที่จะบำรุงรักษากิจการดังกล่าวให้คงสภาพดังเช่นที่ได้จัดทำขึ้นโดยตลอดไปและจะกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกไม่ได้ ดังนั้น จ. จะนำไปให้ผู้หนึ่งผู้ใดเช่าเพื่อปลูกสร้างอาคารอันเป็นการกระทำที่เป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกไม่ได้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นก็ไม่มีอำนาจออกใบอนุญาตให้มีการสร้างอาคารในที่ดินนั้น จำเลยที่ 1 และที่ 2ย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างที่ออกให้แก่โจทก์ ทั้งจำเลยที่ 3 ถึงที่ 11 ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เมื่อได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วก็ย่อมมีอำนาจให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ได้เช่นกัน คำวินิจฉัยของจำเลยที่ 3 ถึงที่ 11จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้น ประเด็นแห่งคดีย่อมเกิดจากคำฟ้องและคำให้การ เมื่อจำเลยได้ให้การต่อสู้ถึงสภาพของที่ดินที่โจทก์ก่อสร้างอาคารว่าเป็นภารจำยอมที่ผู้จัดสรรที่ดินจัดให้มีขึ้น ประเด็นแห่งคดีจึงมีว่าที่ดินดังกล่าวตกอยู่ในภารจำยอมหรือไม่รวมอยู่ด้วย หาใช่ประเด็นมีเพียงเท่าที่จำเลยที่ 3 ถึง 11ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยเท่านั้นไม่ และข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวก็ไม่ผูกมัดให้ศาลต้องถือตามแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3282/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องทางเดินและการพิสูจน์ภารจำยอม: ที่ดินแบ่งแยกและทางจำเป็น
ที่ดินของโจทก์แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดตราจองที่ 3369ซึ่งมีทางออกสู่ถนนสาธารณะ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินออกสู่ทางสาธารณะได้เฉพาะในที่ดินโฉนดตราจองที่ 3369ซึ่งเป็นที่ดินแปลงที่โจทก์แบ่งแยกมาเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องเอาทางพิพาทในที่ดินจำเลยซึ่งเป็นที่ดินแปลงอื่นเป็นทางเดินผ่านไปสู่ทางสาธารณะหาได้ไม่ ทางพิพาทจึงไม่เป็นทางจำเป็นแก่โจทก์ โจทก์อ้างว่าใช้ทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยเป็นทางภารจำยอม มีผลเป็นการรอนสิทธิในทรัพย์สินของบุคคลอื่น จึงต้องมีหลักฐานชัดแจ้งมั่นคงว่า โจทก์ทั้งสองใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างเป็นปรปักษ์หรือโดยพลการต่อเจ้าของกรรมสิทธิ์เมื่อโจทก์ทั้งสองไม่ได้ใช้สิทธิในทางพิพาทอย่างเป็นปรปักษ์หรือโดยพลการหากแต่มีลักษณะว่าได้ใช้สิทธิในทางพิพาทโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ ดังนั้นไม่ว่าโจทก์จะใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินเข้าออกจากที่ดินของโจทก์มานานเพียงใดก็ตามทางพิพาทก็ไม่เป็นทางภารจำยอมโดยอายุความแก่ที่ดินของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: การก่อสร้างหลังคาและประตูปิดกั้นทางพิพาทโดยไม่จำเป็น ขัดสิทธิการใช้ภารจำยอม แม้มีการอนุญาตจากเจ้าของเดิมก็ยกเลิกได้
ทางพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ตกอยู่ในภารจำยอมแก่ที่ดินของจำเลยทั้งสองเพียงให้คนและยานพาหนะผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะเท่านั้น ฉะนั้นการก่อสร้างหลังคาคลุมทางพิพาทก็ดี การทำประตูปิดกั้นทางพิพาทก็ดี หาใช่การอันจำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภารจำยอมไม่จำเลยทั้งสองจึงไม่มีสิทธิที่จะปลูกสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาท และแม้เจ้าของที่ดินที่เป็นภารยทรัพย์คนเดิมจะอนุญาตให้จำเลยทั้งสองก่อสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาทได้ การอนุญาตดังกล่าวก็หาได้มีข้อผูกพันให้มีผลอยู่ตลอดไปไม่ดังนั้น เจ้าของที่ดินเดิมหรือโจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของที่ดินเดิมจะถอนการอนุญาตเสียในเวลาใดก็ย่อมได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3217/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: การก่อสร้างกีดขวางทางภารจำยอม แม้ได้รับอนุญาต ก็สามารถถอนได้หากไม่จำเป็นต่อการใช้ภารจำยอม
ทางพิพาทตกอยู่ในภารจำยอมเพียงให้คนและยานพาหนะผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะเท่านั้น จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะปลูกสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาทเพราะมิใช่การอันจำเป็นเพื่อรักษาและใช้ภารจำยอม การที่เจ้าของที่ดินเดิมอนุญาตให้จำเลยทั้งสองก่อสร้างหลังคาคลุมและทำประตูปิดกั้นทางพิพาท การอนุญาตหาได้มีข้อผูกพันให้มีผลอยู่ตลอดไปไม่ เจ้าของที่ดินเดิมหรือโจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของที่ดินเดิม จะถอนการอนุญาตเสียในเวลาใดก็ย่อมได้
of 46