คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 292 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 706/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้ขาดคดีตามประเด็นที่ท้ากัน หากผลการตรวจสอบไม่ชัดเจน ศาลต้องพิจารณาตามรูปคดี
เมื่อคู่ความตกลงท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะในข้อที่ว่าเมื่อตรวจสอบเขตที่ดินแล้ว ถ้าที่ดินพิพาทตกอยู่ในเขตโฉนดของฝ่ายใด อีกฝ่ายหนึ่งยอมยกให้แก่ฝ่ายนั้น เช่นนี้ศาลต้องวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ท้ากันเท่านั้น แต่ถ้าการตรวจสอบเขตที่ดินยังไม่พอจะให้ชี้ขาดไปตามที่คู่ความท้ากันแล้วศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาไปตาม ประเด็นในคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 441/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายระหว่างเมาสุรา ศาลพิจารณาเจตนาผู้กระทำ
เหตุเกิดเพราะเมาสุราแล้วโต้เถียงกัน จำเลยและผู้ตายอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จำเลยใช้มือเปล่าทำร้ายผู้ตายจนลูกอัณทะแตกตาย จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าหรือไม่? การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดพก ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และอาวุธที่ใช้
จำเลยกับผู้เสียหายไม่มีสาเหตุต่อกันจำเลยเมาใช้มีดพกเล็กๆกว้าง 2 ซม.ยาว111/2ซม. แทงผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยได้มีเจตนาจะฆ่าให้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส รับสารภาพ ศาลพิจารณาให้รอการลงโทษ
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม มาตรา 256 โดยกล่าวว่าจำเลยที่ 1 ใช้ขวานทำร้ายจำเลยที่ 2 เป็นบาดแผลสาหัสประกอบด้วยทุกขเวทนากล้าเกินกว่า 20 วันและส่งรายงานชันสูตรบาดแผลมาด้วย จำเลยรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ ดังนี้ ศาลย่อมต้องฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นสาหัสตาม มาตรา 256(8) และพิพากษาคดีไปได้เลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 2 ปี หากได้พิเคราะห์ถึงสภาพความผิดและเหตุผลต่างๆ แล้วเห็นเป็นการสมควร ศาลจะให้รอการลงโทษจำเลยไว้ไม่เกิน 5 ปีก็ได้ตาม มาตรา 41(ที่แก้ไข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1446/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะ แม้มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ หากพิจารณาได้จากพฤติการณ์
การที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลยก่อน จำเลยจึงวิ่งไปเอาหอกในเรือนห่างเพียง 1 วาเข้าทำร้ายผู้ตาย ในทันใดนั้น ย่อมเรียกได้ว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงบันดาลโทสะขึ้นในขณะนั้นนั่นเอง
เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยถูกกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมก่อนเช่นนั้น ศาลย่อมมีอำนาจที่จะลดโทษจำเลยฐานบันดาลโทสะได้ แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำให้การเกินกำหนด: ศาลพิจารณาพฤติการณ์และเหตุผลความจำเป็นของผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญากู้ตามที่จำเลยขอดูพ้นกำหนดที่ศาลสั่งและพ้นกำหนดวันยื่นคำให้การของจำเลย และจำเลยได้ยื่นคำให้การหลังจากโจทก์ส่งเอกสารต่อศาล 2 วัน ดังนี้เป็นพฤตติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ และจำเลยได้แจ้งถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 199

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ศาลพิจารณาเจตนาและเหตุป้องกันตัว
เหตุเกิดเวลาพลบค่ำมืดแล้วจำเลยเมาสุราใช้มีดขนาดย่อมไม่ใหญ่โตน่ากลัวแทงซุ่ยๆ ไปถูกผู้ตายที่ใต้ราวนมซ้าย โดยไม่ปรากฎสาเหตุ ยังไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า คงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น
เมาสุราอาละวาด มีผู้เข้าห้าม กลับทำร้าย จะอ้างว่าป้องกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการสืบพยานและการพิจารณาคำร้องแก้ไขฟ้อง: ศาลต้องพิจารณาก่อนพิพากษา
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคนไทย ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์โต้แย้งแถลงว่า ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยนำพยานเข้าสืบก่อน โจทก์ไม่ยอมนำพยานเข้าสืบ และจะสืบต่อเมื่อจำเลยนำสืบพยานเรียบร้อยแล้ว และก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องศาลชั้นต้นสั่งเพียงว่า "รวม" ดังนี้หาควรที่จะพิพากษาคดีเสียก่อนไม่ศาลควรสั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียก่อน แล้วสั่งเรื่องหน้าที่นำสืบต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการเช่าค้างและละเมิดสิทธิของผู้ให้เช่า ศาลพิจารณาจากสัญญาและเหตุผลประกอบ
ค่าเสียหายที่ผู้ให้เช่าฟ้องเรียกจากผู้เช่าเนื่องจากผู้เช่าละเมิดไม่ยอมออกเมื่อครบกำหนดเช่าสำหรับค่าเสียหายนั้นเมื่อผู้ให้เช่าสืบว่าถ้าผู้ให้เช่าได้ฉายภาพยนต์ในตึกพิพาทแล้ว กะว่าจะได้ประโยชน์วันละ 2,000 บาท เมื่อปรากฎว่าตึกพิพาทเป็นโรงงิ้วจะต้องทำการดัดแปลงสถานที่และร้องขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ แต่จำเลยก็ยังมิได้ขออนุญาตนั้นเป็นค่าเสียหายที่ห่างไกลกว่าเหตุจึงให้ยกเสีย
แต่การที่ผู้เช่าไม่ยอมออกตามกำหนดนั้นได้ชื่อว่าละเมิดสิทธิของผู้ให้เช่า และผู้ให้เช่าก็ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้ไว้แล้ว (ฟ้องเรียกค่าเสียหายหมื่นบาทกับค่าเสียหายอีกวันละ 2,000 บาท) ศาลก็มีอำนาจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายจากการเช่าช่วงเกินกำหนด ศาลพิจารณาจากค่าเช่าจริง ไม่ใช่ประโยชน์ที่คาดหวัง
ค่าเสียหายที่ผู้ให้เช่าฟ้องเรียกจากผู้เช่าเนื่องจากผู้เช่าละเมิดไม่ยอมออกเมื่อครบกำหนดเช่า สำหรับค่าเสียหายนั้นเมื่อผู้ให้เช่าสืบว่าถ้าผู้ให้เช่าได้ฉายภาพยนต์ในตึกพิพาทแล้ว กะว่าจะได้ประโยชน์วันละ 2,000 บาท เมื่อปรากฏว่าตึกพิพาทเป็นโรงงิ้วจะต้องทำการดัดแปลงสถานที่และร้องขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ แต่จำเลยก็ยังมิได้ขออนุญาตนั้นเป็นค่าเสียหายที่ห่างไกลกว่าเหตุจึงให้ยกเสีย
แต่การที่ผู้เช่าไม่ยอมออกตามกำหนดนั้นได้ชื่อว่าละเมิดสิทธิของผู้ให้เช่า และผู้ให้เช่าก็ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้ไว้แล้ว(ฟ้องเรียกค่าเสียหายหมื่นบาทกับค่าเสียหายอีกวันละ 2,000 บาท)ศาลก็มีอำนาจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควร
of 30