พบผลลัพธ์ทั้งหมด 275 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1742/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องร้องยังคงมีอยู่ แม้ถูกอัยการฟ้องและศาลยกฟ้องคดีเดียวกัน
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกและทำร้ายร่างกายโจทก์ ต่อมาอัยการฟ้องโจทก์กับจำเลยหาว่าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันในที่สาธารณะสถาน เนื่องจากกรณีเดียวกันนี้ โจทก์จึงร้องขอต่อศาลให้งดการพิจารณาคดีของโจทก์ไว้รอผลคดีที่อัยการ เป็นโจทก์ จนศาลพิพากษายกฟ้องคดีที่อัยการเป็นโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์จึงขอให้ศาลดำเนินคดีของโจทก์ที่รอไว้ต่อไป ดังนี้คดีไม่ต้องด้วย ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4) สิทธิฟ้องร้องของโจทก์ที่ฟ้องไว้แล้ว ยังคงมีอยู่ หาได้หมดไปไม่
(อ้างฎีกาที่ 149/2483)
(อ้างฎีกาที่ 149/2483)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซื้อขายที่ดินเกิน 10 ปี และฟ้องไม่ชัดเจน ศาลยกฟ้องตามอายุความและลักษณะฟ้อง
ฟ้องว่า จำเลยใช้กลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ให้เข้าทำสัญญาขายที่ดินของโจทก์ให้จำเลยโดยที่โจทก์ไม่ได้ตกลงขายนั้น เป็นเรื่องโมฆียะกรรมตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 121 ต้องฟ้องเสียภายใน 10 ปี นับแต่วันทำนิติกรรม
ฟ้องที่ถือว่าเคลือบคลุมไม่ควรรับไว้พิจารณา
ฟ้องที่ถือว่าเคลือบคลุมไม่ควรรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1076/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้เช่า: กรณีแม่ของผู้เช่า ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีละเมิดสิทธิ
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านเช่าของโจทก์โดยอ้างว่า จำเลยอยู่โดยไม่มีสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเป็นการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ดังนี้ เมื่อโจทก์แถลงรับว่าความจริงจำเลยเป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ร่วมกับผู้เช่าในบ้านนี้ตั้งแต่เดิมมาภายหลังผู้เช่า ไม่มีตัวอยู่ในบ้านนี้โจทก์จึงบอกเลิกการเช่าแต่ไม่มีผู้ใดรับหนังสือบอกเลิกการเช่าไว้ดังนี้ คดีย่อมฟังได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิโจทก์แต่อย่างใด ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
จำเลยต่อสู้ว่า เป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ดังนี้ เมื่อโจทก์แถลงรับว่าความจริงจำเลยเป็นมารดาของผู้เช่าบ้านรายนี้และได้อยู่ร่วมกับผู้เช่าในบ้านนี้ตั้งแต่เดิมมาภายหลังผู้เช่า ไม่มีตัวอยู่ในบ้านนี้โจทก์จึงบอกเลิกการเช่าแต่ไม่มีผู้ใดรับหนังสือบอกเลิกการเช่าไว้ดังนี้ คดีย่อมฟังได้ว่าไม่มีการละเมิดสิทธิโจทก์แต่อย่างใด ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำโดยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน ศาลยกฟ้องตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.148
ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะดจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานนั้น ถือว่าพยานหลักฐานของโจทก์ต้องห้ามมิให้รับฟังตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 87(2) อันเป็นเหตุให้ศาลวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีว่า คำฟ้องโจทก์ไ่ม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน
โจทก์จะมารื้อฟ้องขึ้นใหม่อีกไม่ได้ คดีต้องห้ามตาม ป.ม.ว.แพ่งมาตรา 148
โจทก์จะมารื้อฟ้องขึ้นใหม่อีกไม่ได้ คดีต้องห้ามตาม ป.ม.ว.แพ่งมาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำโดยไม่เสนอพยานหลักฐานใหม่: ศาลยกฟ้องตามมาตรา 148 ว.พ.พ.
ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะโจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานนั้นถือว่าพยานหลักฐานของโจทก์ต้องห้ามมิให้รับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) อันเป็นเหตุให้ศาลวินิจฉัยประเด็นแห่งคดีว่า คำฟ้องโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนโจทก์จะมารื้อฟ้องขึ้นใหม่อีกไม่ได้ คดีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดเดียวกัน แม้ทางพิจารณาต่างจากฟ้องเดิม ศาลยกฟ้อง
โจทก์จำเลยถูกอัยการฟ้องหาว่า ต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันบนถนนหลวง ศาลฟังว่าเป็นการทำร้ายฝ่ายเดียว ได้ชื่อว่าทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ดังนี้ โจทก์จะมาฟ้องจำเลยในการกระทำคราวนั้นอีกว่าจำเลยทำร้ายโจทก์ฝ่ายเดียวถึงบาดเจ็บไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 35(4) (อ้างฎีกาที่ 2019/2492 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกใบอนุญาตเล่นบิลเลียดผิดกฎหมาย แม้การกระทำไม่ผิดตามเวลาที่กฎหมายอนุญาต ศาลยกฟ้อง
กำหนดเวลาอนุญาตให้เล่นการพนันประเภทบิลเลียดที่บัญญัติไว้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 10)2488 ได้ถูกยกเลิกแก้ไขใหม่แล้วตามกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 13)2490 โดยอนุญาตให้เล่นได้ระหว่าง 7 น. ถึง 24 น.
เจ้าพนักงานออกใบอนุญาตให้จำเลยเล่นการพนันประเภทบิลเลียดตามแบบ พ.น. 28 ท้ายกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 10) ซึ่งอนุญาตให้เล่นได้ตั้งแต่เวลา 12 น. ถึง 23 น. ซึ่งในขณะนั้นได้มีกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 13) ยกเลิกแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย(ฉบับที่ 10) แล้วโดยอนุญาตให้เล่นได้ตั้งแต่เวลา 7 น. ถึง 24 น.เมื่อจำเลยเล่นพนันบิลเลียดเวลา 9.25 น. จำเลยย่อมไม่มีความผิด
เจ้าพนักงานออกใบอนุญาตให้จำเลยเล่นการพนันประเภทบิลเลียดตามแบบ พ.น. 28 ท้ายกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 10) ซึ่งอนุญาตให้เล่นได้ตั้งแต่เวลา 12 น. ถึง 23 น. ซึ่งในขณะนั้นได้มีกฎกระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 13) ยกเลิกแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทย(ฉบับที่ 10) แล้วโดยอนุญาตให้เล่นได้ตั้งแต่เวลา 7 น. ถึง 24 น.เมื่อจำเลยเล่นพนันบิลเลียดเวลา 9.25 น. จำเลยย่อมไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีอาญาต้องระบุเหตุแห่งความผิดให้ชัดเจน หากฟ้องไม่ครบองค์ความผิด ศาลต้องยกฟ้อง แม้มีบทลงโทษอื่น
ฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 319(3) นั้นต้องบรรยายว่าเข้ามาตรา 319(3) เพราะเหตุใดมิฉะนั้นถือว่า ฟ้องบรรยายไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรานี้
ฎีกาของโจทก์ที่ขอฉะเพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้น เมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้ว จะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง
ฎีกาของโจทก์ที่ขอฉะเพาะให้ลงโทษจำเลยตามมาตราใดมาตราหนึ่งนั้น เมื่อลงโทษตามบทมาตราที่โจทก์ขอไม่ได้แล้ว จะลงโทษตามมาตราอื่นที่ไม่ได้ขอมาได้หรือไม่ ไม่เป็นประเด็นที่จะวินิจฉัย ศาลต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาที่ไม่ระบุวันเวลาการกระทำความผิด ทำให้ฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องที่ระบุวันเดือนปีแต่ในตอนที่อ้างว่าจำเลยได้รับมอบทรัพย์ไว้ แต่ไม่ได้ระบุวันเวลาว่าจำเลยบยักยอกทรัพย์ไปเมื่อใดดังนี้ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ศาลจะรับไว้พิจารณาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายทางราชการต้องพิสูจน์ได้ชัดเจน การกระทำที่ยังไม่ชัดเจนถึงความเสียหาย ศาลยกฟ้อง
คดีที่โจทก์หาว่า จำเลยปลอมหนังสือสำคัญในราชการนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าทางราชการไม่เสียหายแล้ว ส่วนข้อที่ว่าอาจจะเกิดการเสียหายหรือไม่นั้น หากกรณีเป็นที่สงสัย โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความชัด มิฉะนั้นไม่ถือว่าอาจจะเกิดการเสียหายและศาลพิพากษายกฟ้อง(อ้างฎีกา866-870/2484)