คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลวินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 228 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตรวจสภาพที่พิพาทและการวินิจฉัยของศาล: ต้องทำเป็นคำพิพากษา
การที่คู่ความขอให้ศาลไปตรวจดูสภาพที่พิพาทแล้ววินิจฉัยชี้ขาด โดยต่างไม่สืบพยานบุคคลต่อไปนั้น เป็นเรื่องสืบพยานธรรมดาโดยอ้างวัตถุพยานคือที่พิพาทเป็นพยานร่วม มิใช่เป็นคำท้าของคู่ความ ฉะนั้นเมื่อศาลชั้นต้นไปดูสภาพของที่พิพาทแล้วเห็นอย่างไร ก็วินิจฉัยชี้ขาดได้ตามที่คู่ความเสนอไว้ได้ แต่ต้องทำเป็นคำพิพากษาให้ถูกต้องครบถ้วนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 141 จะทำเป็นคำสั่งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครอง กรณีทำต่างดอกเบี้ย ศาลล่างวินิจฉัยประเด็นถูกต้องแล้ว
โจทก์ฟ้องอ้างว่า จำเลยที่ 1 เช่านาของโจทก์ทำภายหลังโจทก์ไมให้เช่า จำเลยที่ 1 กลับบุกรุกเข้าทำนาของโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและว่าจำเลยที่ 2 ขอประกาศขายนาพิพาทของโจทก์นี้แก่จำเลยที่ 1 ขอให้ห้ามมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นนาของจำเลยที่ 2 ๆ ให้จำเลยที่ 1 ทำต่างดอกเบี้ยกับต่อสู้ว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ ดังนี้ เมื่อศาลวินิจฉัยว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ไม่ใช่ของจำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ทำนาพิพาทต่างดอกเบี้ยจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหาย จึงพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองเข้าเกี่ยวข้องนั้น ถือว่า ได้วินิจฉัยไปตามประเด็นในฟ้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: การใช้ทางโดยอาศัยมีผลทำให้ไม่เกิดภารจำยอมหรือไม่ ศาลต้องวินิจฉัยประเด็นการอาศัยเดินก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเปิดทาง โดยอ้างว่า โจทก์ได้ใช้มาไม่น้อยกว่า10 ปี เกิดภาระจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ใช้ทางไม่ถึง 10 ปี และการที่โจทก์ใช้ทางก็โดยอาศัย ดังนี้ ศาลจำต้องวินิจฉัยประเด็นว่า โจทก์ขออาศัยเดินหรือไม่ เพราะโจทก์อาศัยเดินจริง ภาระจำยอมก็ไม่เกิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นการต่อสู้คดีจำกัดเฉพาะการฉ้อฉล ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่จำเลยต่อสู้เท่านั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฉ้อฉลหลอกลวงให้ถอนชื่อโจทก์และสามีออกจากโฉนดแล้วลงชื่อจำเลย จึงขอให้ศาลถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดคืนที่ดินแก่โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่มีกลฉ้อฉลเท่านั้น จึงไม่มีประเด็นเรื่องการบอกล้างโมฆียะกรรมหรือไม่ และการบอกล้างโมฆียะกรรมหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนดังมาตรา 142(5)ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งอนุญาตให้ศาลหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
กำหนดเวลาบอกล้างโมฆียะกรรม ไม่ใช่อายุความฟ้องร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปรานีประนอมยอมความและการฟ้องละเมิด/ผิดสัญญา: ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงก่อนวินิจฉัย
โจทก์ฟ้องในฐานะผู้อนุญาตนายชัยยะว่า เดิมนายชัยยะให้จำเลยเช่าที่พิพาทแล้วผิดสัญญา นายชัยยะฟ้องขับไล่แล้ว นายชัยยะกับจำเลยได้ทำสัญญาปราณีประนอมยอมความกันต่อศาลว่า จำเลยยอมรับซื้อที่ดินและสิ่งของจำเลยหาได้ปฏิบัติตามสัญญานั้นไม่ กลับเพิกเฉยจนล่วงพ้นกำหนดในสัญญา และโดยเหตุที่ที่ดินเป็นของโจทก์ ๆ จึงถือว่าจำเลยอยู่ต่อมาเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ ส่วนจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาปราณีประนอมยอมความเอง ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างโจทก์ว่า ฝ่ายจำเลยก็เป็นผู้ผิดสัญญาปราณีประนอมยอมความ การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเช่นนี้ อาจไม่เป็นฟ้องซ้ำก็ได้ ถ้าหากข้อเท็จจริงเป็นอย่างจำเลยว่า คือฝ่ายโจทก์เป็นผู้ผิดสัญญาปราณีประนอมยอมความนั้นเองแล้ว ก็อาจเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีก่อน ซึ่งนายชัยยะทำยอมกับจำเลยไปแล้วก็ได้ ฉะนั้นการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว จึงต้องฟังข้อเท็จจริงที่คู่ความโต้เถียงกันต่อไปก่อน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมที่ทำผิดแบบแต่เป็นไปตามแบบอื่นได้ใช้บังคับได้ และข้อจำกัดการวินิจฉัยข้อกฎหมายโดยศาลตามมาตรา 142(5)
แม้พินัยกรรมจะทำผิดแบบพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองตามความประสงค์เดิมของผู้ทำพินัยกรรมก็ดี แต่ก็ทำขึ้นถูกต้องตามแบบพินัยกรรมธรรมดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1656 ทุกประการ ดังนี้ ศาลย่อมยกความสมบูรณ์ตามแบบพินัยกรรมอย่างหลังนี้ ขึ้นใช้บังคับได้โดยอาศัยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 136
ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลยกขึ้นวินิจฉัยตัดสินคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) นั้นจะต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นจากพยานนอกเรื่องนอกประเด็นนั้น ศาลจะรับฟังมาวินิจฉัยเป็นข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 735/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนกระทำการนอกอำนาจและไม่สมประโยชน์: ปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยถูกต้องแล้ว
ตัวแทนกระทำการนอกอำนาจและสมประโยชน์ตัวการหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการซื้อขายที่ดิน: ศาลวินิจฉัยสิทธิในที่ดินเมื่อจำเลยอ้างการซื้อขายกับผู้โอนก่อน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย อ้างว่าอาศัย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยได้กรมมสิทธิทางปรปักษ์ ให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายระหว่างโจทก์กับผู้โอนตามฟ้องแย้งของจำเลย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้รับโอนโดนสุจริต ให้ขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยถึงประเด็นข้อที่ว่า จำเลยอยู่โดยปรปักษ์หรือโดยอาศัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์: การเปลี่ยนแปลงฐานข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ตัดสิทธิศาลในการวินิจฉัยข้อครอบครองเกิน 10 ปี
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจาที่สวนของโจทก์ที่บิดาโจทก์ยกให้ จำเลยให้การว่า บิดาโจทก์ได้ขายแก่จำเลยกับสามีด้วยวาจา จำเลยกับสามีได้ครอบครองถือสิทธิเป็นเจ้าของเกิน 10 ปีแล้ว ในชั้นพิจารณาจำเลยกลับนำสืบว่า จำเลยได้มาซึ่งที่วิวาทโดยทางมรดก และครอบครองมา 10 ปีแล้ว ดังนี้ ตามคำให้การของจำเลย ๆ ถือเอาการครอบครองปรปักษ์เกินกว่า 10 ปีเป็นหลัก แม้จำเลยจะนำสืบถึงการได้มาซึ่งที่รายวิวาทผิดประเด็น ก็หาเป็นการตัดที่จะไม่รับวินิจฉัยข้อครอบครองเกิน 10 ปีของจำเลยเสียได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับเปิดทาง ต้องแสดงการกระทำที่ทำให้ทางเสียหายหรือถูกปิดกั้น หากไม่มีประเด็นนี้ ศาลไม่ต้องวินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ ในคำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใด ๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ติดใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลต้อววินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้
of 23