พบผลลัพธ์ทั้งหมด 207 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้เช่าที่ยึดครองทรัพย์สินหลังสัญญาหมดอายุ ไม่ได้รับการคุ้มครอง
พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน คุ้มครองแต่ฉะเพาะผู้เช่าในวันใช้ พ.ร.บ. นั้น เป็นต้นมา.
สัญญาเช่าระงับลงแล้วก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 แต่ผู้เช่าไม่ยอมส่งทรัพย์ที่เช่าคืน คงอยู่ต่อมาจนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 แล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ฉะบับใหม่ เพราะยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้โดยมิชอบ เป็นการละเมิดสิทธิ จึงไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป.
สัญญาเช่าระงับลงแล้วก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 แต่ผู้เช่าไม่ยอมส่งทรัพย์ที่เช่าคืน คงอยู่ต่อมาจนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน 2489 แล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ฉะบับใหม่ เพราะยึดถือทรัพย์สินนั้นไว้โดยมิชอบ เป็นการละเมิดสิทธิ จึงไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสิทธิการครอบครองและการทำสัญญาเช่าใหม่โดยจำเลย ย่อมตัดสิทธิโจทก์ในการเรียกร้องห้องคืน
โจทก์ขายสินค้าต่างๆ ของตนที่มีอยู่ในห้องเช่าให้จำเลย และยอมให้จำเลยใช้สิทธิในห้องนั้นได้ ถ้าโจทก์ต้องการเมื่อใด จำเลยก็จะยอมคืนห้องโดยดี จำเลยจึงได้เข้าอยู่ในห้องนั้นต่อมาดังนี้ ถือว่าจำเลยไม่ใช่ตัวแทนของโจทก์ หากจะว่าเป็นผู้ครอบครองแทนในระหว่างสัญญาเช่า เมื่อสิ้นสัญญาเช่าแล้ว โจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยไปทำสัญญาเช่าแทนตนแต่ประการใด จนเจ้าของห้องได้ให้จำเลยเป็นผู้เช่าโดยตรงแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิให้จำเลยคืนห้องแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ผู้เช่าอยู่ต่อไม่มีอำนาจตามสัญญา ไม่ได้รับความคุ้มครอง
สัญญาเช่าห้องเลิกกันก่อนวันใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ 2489ผู้เช่าที่อยู่ต่อมาโดยมิได้อาศัยอำนาจแห่งการเช่าย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.นี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าก่อนมี พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 สัญญาเช่าสิ้นสุดแล้ว ไม่คุ้มครองตามกฎหมาย
การเช่าที่ถูกบอกเลิกโดยถูกต้องก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 นั้น ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 เพราะสัญญาเช่าได้สิ้นสุดลงก่อนแล้ว และ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2489 ก็ไม่มีบทบัญญัติให้ย้อนหลังไปคุ้มครองถึงการเช่าที่ถูกบอกเลิกไปก่อนแล้วด้วย.
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 และไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 แล้ว แม้ต่อมาในระหว่างพิจารณาของศาลแม้จะมี พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม 2490 ออกมาเป็นประโยชน์แก่จำเลยผู้เช่าจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าปี 2490 แก้ไขฉะเพาะกฎหมาย ปี 2489 เท่านั้น
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 และไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 แล้ว แม้ต่อมาในระหว่างพิจารณาของศาลแม้จะมี พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม 2490 ออกมาเป็นประโยชน์แก่จำเลยผู้เช่าจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าปี 2490 แก้ไขฉะเพาะกฎหมาย ปี 2489 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ 2489 ไม่ได้รับความคุ้มครอง แม้มีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม
การเช่าที่ถูกบอกเลิกโดยถูกต้องก่อนใช้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 นั้น ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 เพราะสัญญาเช่าได้สิ้นสุดลงก่อนแล้ว และพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2489ก็ไม่มีบทบัญญัติให้ย้อนหลังไปคุ้มครองถึงการเช่าที่ถูกบอกเลิกไปก่อนแล้วด้วย
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า2488 และไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 แล้ว แม้ต่อมาในระหว่างพิจารณาของศาล แม้จะมีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม 2490 ออกมาเป็นประโยชน์แก่จำเลยผู้เช่าจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2490 แก้ไขเฉพาะกฎหมายปี 2489 เท่านั้น
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า2488 และไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 แล้ว แม้ต่อมาในระหว่างพิจารณาของศาล แม้จะมีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม 2490 ออกมาเป็นประโยชน์แก่จำเลยผู้เช่าจำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองเพราะพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าปี 2490 แก้ไขเฉพาะกฎหมายปี 2489 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าและการละเมิดหลังสัญญาเช่าระงับ ผู้เช่าไม่อาจอ้าง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
จำเลยรับว่า"ได้รับหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือนจริงตามฟ้องโจทก์" ดังนี้เป็นการรับโดยชัดแจ้งว่า คำบอกเลิกนั้นมีผลใช้ได้ด้วย.
ข้อกฏหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลชั้นต้นนั้นศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้.
ผู้เช่าที่อยู่ในที่เช่าภายหลังสัญญาเช่าระงับลงโดยผู้ให้เช่าบอกเลิกนั้น ได้ชื่อว่า เป็นผู้ละเมิด หาใช่ผู้เช่าที่จะได้รับความคุ้มครอง จาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่.
ข้อกฏหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแต่ในศาลชั้นต้นนั้นศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้.
ผู้เช่าที่อยู่ในที่เช่าภายหลังสัญญาเช่าระงับลงโดยผู้ให้เช่าบอกเลิกนั้น ได้ชื่อว่า เป็นผู้ละเมิด หาใช่ผู้เช่าที่จะได้รับความคุ้มครอง จาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างว่าความเป็นสัญญาจ้างทำของ ผลบังคับใช้จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาสัญญาจ้างไม่สิ้นสุดเพียงเพราะแพ้คดีชั้นต้น
สัญญาจ้างว่าความเป็นสัญญาจ้างทำของ
จ้างว่าความเรื่องสลากกินแบ่งโดยตกลงให้ว่าความตั้งแต่ศาลต้นจนคดีถึงที่สุด ให้ค่าจ้าง5,000 บาท ถ้าแพ้จะไม่คิดเอาค่าจ้างดังนี้ เป็นเรื่องจ้างทำของโดยว่าความให้สำเร็จทุกศาล ส่วนการแพ้ชนะเป็นเงื่อนไขที่จะชำระหรือไม่ชำระค่าจ้างเท่านั้น ฉนั้นถ้าความแพ้ศาลล่างแต่ชนะศาลสูง ผู้ว่าจ้างก็ต้องชำระค่าจ้าง
ผู้ว่าจ้างเอางานที่จ้างทำยังไม่ทันเสร็จไปให้ผู้อื่นทำโดยไม่ได้เลิกสัญญาจ้าง ผู้รับจ้างฟ้องเรียกค่าจ้างเมื่องานเสร็จแล้วได้.
จ้างว่าความเรื่องสลากกินแบ่งโดยตกลงให้ว่าความตั้งแต่ศาลต้นจนคดีถึงที่สุด ให้ค่าจ้าง5,000 บาท ถ้าแพ้จะไม่คิดเอาค่าจ้างดังนี้ เป็นเรื่องจ้างทำของโดยว่าความให้สำเร็จทุกศาล ส่วนการแพ้ชนะเป็นเงื่อนไขที่จะชำระหรือไม่ชำระค่าจ้างเท่านั้น ฉนั้นถ้าความแพ้ศาลล่างแต่ชนะศาลสูง ผู้ว่าจ้างก็ต้องชำระค่าจ้าง
ผู้ว่าจ้างเอางานที่จ้างทำยังไม่ทันเสร็จไปให้ผู้อื่นทำโดยไม่ได้เลิกสัญญาจ้าง ผู้รับจ้างฟ้องเรียกค่าจ้างเมื่องานเสร็จแล้วได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่าและการฟ้องขับไล่ เมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา
โจทได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยล่วงหน้า 1 เดือนแล้ว จำเลยยังไม่ออกจากห้องเช่า และได้ไห้ค่าเช่าแก่โจทสำหรับเดือนต่อมาโดยโจทไม่ออกไบรับเงินไห้และฟ้องขับไล่ ดังนี้ สัญญาเช่านั้นย่อมระงับ จำเลยไม่มีสิทธิหยู่ไนห้องเช่าต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281-282/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาประกันตัวและข้อพิพาทเกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติของศาล
ตัวจำเลยในคดีอาญา ส่งสำนวนให้ศาลเดิมเรียกอัยยการแลนายประกันมาสอบถามว่าจะมีข้อคัดค้านและหลักฐานอย่างใดบ้างที่ว่าไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990-991/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง การมอบอำนาจ และสิทธิการครอบครองห้องเช่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุด
ตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา 808 ตัวแทนต้องทำการด้วยตนเอง เว้นแต่จะมีอำนาจให้ตัวแทนช่วงทำการได้ เมื่อหนังสือมอบอำนาจระบุว่า โจทก์มอบอำนาจให้บริษัท ซ. ฟ้องและดำเนินคดีแทนกับให้มีอำนาจตั้งตัวแทนช่วงคนเดียวหรือหลายคนเพื่อกระทำการแทนได้ ดังนั้น บริษัท ซ. มีอำนาจตั้ง ข. เป็นตัวแทนช่วงให้ทำการฟ้องคดีแทนต่อไป แต่ ข. ต้องดำเนินการตามที่ได้รับมอบอำนาจด้วยตนเอง เนื่องจากตามหนังสือมอบอำนาจไม่มีข้อความระบุว่า โจทก์ให้อำนาจผู้รับมอบอำนาจช่วงตั้งบุคคลอื่นเป็นตัวแทนช่วงทำการแทนต่อไปอีกได้ แม้ตามหนังสือมอบอำนาจช่วงมีข้อความว่า ให้ ข. มีอำนาจตั้งตัวแทนช่วงคนเดียวหรือหลายคนเพื่อให้มีอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจช่วง ก็เป็นเรื่องนอกเหนือขอบอำนาจที่โจทก์ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจ ข. ไม่มีอำนาจตั้งให้ อ. เป็นตัวแทนช่วงดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายมานั้นแทนตน อ. ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ร่วมเข้ามาเป็นโจทก์ในคดีนี้เพราะโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นหมายเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 477 และ 549 อันเป็นการร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (3) โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีเรื่องใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 58 วรรคหนึ่ง หาใช่เป็นการร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (2) ซึ่งต้องห้ามมิให้โจทก์ร่วมใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่ตนเข้าร่วมไม่ ดังนั้น แม้ฟ้องเดิมโจทก์จะไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ร่วมก็เข้ามาในคดีได้
แม้การเช่าของจำเลยถือเป็นการเช่าช่วงโดยชอบเพราะโจทก์ร่วมตกลงให้บริษัท ว. นำห้องเช่าพิพาทออกให้เช่าช่วงได้ แต่เมื่อโจทก์ร่วมกับบริษัท ว. ได้เลิกสัญญาเช่ากันแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในห้องเช่าพิพาทต่อไป เนื่องจากจำเลยเป็นผู้เช่าช่วงย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าบริษัท ว. ผู้เช่าเดิม และเหตุที่ห้องเช่าพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ร่วมก็เป็นไปตามข้อตกลงการเช่า ไม่ใช่เป็นกรณีโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่เช่าไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 569 จำเลยไม่อาจยกสัญญาเช่าช่วงขึ้นอ้างต่อโจทก์เพื่อครอบครองห้องเช่าพิพาทได้ โจทก์ร่วมมีสิทธิขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าพิพาทได้ แต่โจทก์ร่วมไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย เนื่องจากตามคำร้องขอของโจทก์ร่วมมิได้ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย
โจทก์ร่วมเข้ามาเป็นโจทก์ในคดีนี้เพราะโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นหมายเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 477 และ 549 อันเป็นการร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (3) โจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีเรื่องใหม่ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 58 วรรคหนึ่ง หาใช่เป็นการร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (2) ซึ่งต้องห้ามมิให้โจทก์ร่วมใช้สิทธิอย่างอื่นนอกจากสิทธิที่มีอยู่แก่โจทก์ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่ตนเข้าร่วมไม่ ดังนั้น แม้ฟ้องเดิมโจทก์จะไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ร่วมก็เข้ามาในคดีได้
แม้การเช่าของจำเลยถือเป็นการเช่าช่วงโดยชอบเพราะโจทก์ร่วมตกลงให้บริษัท ว. นำห้องเช่าพิพาทออกให้เช่าช่วงได้ แต่เมื่อโจทก์ร่วมกับบริษัท ว. ได้เลิกสัญญาเช่ากันแล้ว จำเลยจึงไม่มีสิทธิอยู่ในห้องเช่าพิพาทต่อไป เนื่องจากจำเลยเป็นผู้เช่าช่วงย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าบริษัท ว. ผู้เช่าเดิม และเหตุที่ห้องเช่าพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ร่วมก็เป็นไปตามข้อตกลงการเช่า ไม่ใช่เป็นกรณีโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่เช่าไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 569 จำเลยไม่อาจยกสัญญาเช่าช่วงขึ้นอ้างต่อโจทก์เพื่อครอบครองห้องเช่าพิพาทได้ โจทก์ร่วมมีสิทธิขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าพิพาทได้ แต่โจทก์ร่วมไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย เนื่องจากตามคำร้องขอของโจทก์ร่วมมิได้ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหาย