พบผลลัพธ์ทั้งหมด 230 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนเมื่อผิดนัดชำระหนี้
เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนเมื่อผิดนัดชำระหนี้ และการฟ้องร่วมของลูกจ้าง
เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินเพื่อดำเนินกิจการย่อมอยู่ในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วน แม้ไม่ได้ระบุชัดในตราสาร และการใช้ตราปลอมของผู้จัดการทำให้จำเลยต้องรับผิด
การกู้เงินเพื่อให้กิจการดำเนินไปตามวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดย่อมนับเนื่องเข้าในวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นแม้จะไม่ระบุไว้ชัดแจ้งในตราสารจัดตั้งก็ดี
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดลงชื่อกู้เงินแทนห้างแต่ประทับตราปลอมห้างหุ้นส่วนจำกัดก็ต้องรับผิด
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดลงชื่อกู้เงินแทนห้างแต่ประทับตราปลอมห้างหุ้นส่วนจำกัดก็ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ชำระบัญชีและการบังคับชำระหนี้: ผู้ชำระบัญชีต้องฟ้องร้องเป็นเรื่องๆ ไป ไม่สามารถบังคับได้โดยตรง
ในกรณีที่ฟ้องร้องขอเลิกห้างหุ้นส่วนและตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้เลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีแล้วเมื่อปรากฏแก่ผู้ชำระบัญชีว่า ผู้ใดเป็นลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินเกี่ยวข้องแก่ห้างหุ้นส่วนที่ชำระบัญชี และผู้นั้นไม่ยอมชำระหรือนำส่งแล้ว ก็ย่อมต้องฟ้องร้องต่อศาลเป็นเรื่องๆ ไปจะขอให้ศาลบังคับให้เขาส่งหรือชำระในคดีเดิมที่ขอเลิกหุ้นส่วนนั้นไม่ได้เพราะมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ดังในเรื่องล้มละลาย
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนจำกัดกับการฎีกาคดี ห้างหุ้นส่วนยังคงมีสิทธิฎีกาได้ แม้จะเลิกไปแล้ว
จำเลยเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วจำเลยได้จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วน ดังนี้จำเลยย่อมจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 546/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิรวมในอสังหาริมทรัพย์ ห้างหุ้นส่วนสามัญ การซื้อขายสิทธิ และการร้องสอด
การรวมทุนกันประกอบกิจการมี และสวนยาง อีกนัยหนึ่ง ก็คือ การร่วมกันมีที่ดินสวนยางหรือทำเป็นสวนยาง เพื่อแสวงหาดอกผลธรรมดาจากสวนยางนั้น แม้จะเรียกว่าห้างหุ้นส่วนสามัญ (โดยมิได้จดทะเบียน) ก็ตาม ความสัมพันธ์เช่นนี้ จะต้องบังคับตามกฎหมายอันว่าด้วยกรรมสิทธิรวมในอสังหาริมททรัพย์นั้น จะบังคับตามกฎหมายเรื่องหุ้นส่วนแต่อย่างเดียวไม่ได้ เพราะทรัพย์สินอันเป็นประธานที่ผู้เป็นหุ้นส่วนมีอยู่ร่วมกัน คือที่ดินสวนยาง
และส่วนของหุ้นส่วนในเรื่องนี้ก็คือส่วนหนึ่งในสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมในสวนยาง อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ จะมีตราจองหรือไม่ ก็ย่อมเป็นสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกัน แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะมีสิทธิทำนิติกรรมจำหน่ายส่วนของตนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1361 ก็ตาม แต่ก็ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไป แก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้ว ภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานนะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการ อันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
และส่วนของหุ้นส่วนในเรื่องนี้ก็คือส่วนหนึ่งในสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของรวมในสวนยาง อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ จะมีตราจองหรือไม่ ก็ย่อมเป็นสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกัน แม้ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะมีสิทธิทำนิติกรรมจำหน่ายส่วนของตนได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1361 ก็ตาม แต่ก็ต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
ถ้าผู้ได้รับซื้อสิทธิของผู้เป็นหุ้นส่วนไว้โดยเพียงแต่ทำสัญญากันเป็นหนังสือเท่านั้น แล้วภายหลังผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นได้ขายสิทธินั้นไป แก่ผู้รับซื้อคนใหม่โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันโดยสุจริตแล้ว ดังนี้ ผู้รับซื้อคนแรกก็ย่อมจะฟ้องบังคับให้ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งขายสิทธินั้นแก่ตน โอนสิทธิที่ขายให้แก่ตนไม่ได้
เป็นผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยให้เข้าสู้คดีในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยแล้ว ภายหลังตนเองได้ร้องสอดเข้ามาในคดีในฐานนะตัวเอง ดังนี้ ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อให้มีผลยกฟ้องแล้ว ศาลก็พอบังคับได้ แต่ถ้าเป็นการร้องสอดเข้ามาเพื่อที่จะให้ศาลบังคับตัวเองในฐานะเป็นตัวแทนจำเลยนั้น ศาลจะบังคับให้ หาได้ไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ประโยชน์ของตัวแทนขัดกับประโยชน์ของตัวการ อันเป็นกรณีที่ตัวแทนไม่อาจทำแทนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลอกลวงซื้อขายและการเป็นผู้เสียหาย: ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนถูกหลอกลวง ย่อมเป็นผู้เสียหาย
จำเลยได้หลอกลวงขอซื้อน้ำอัดลมไปจากหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด แล้วไม่ยอมชำระราคา กลับปฏิเสธว่าไม่ได้มาติดต่อขอซื้อน้ำอัดลม ดังนี้ ถือได้ว่าผู้จัดการนั้นเป็นผู้เสียหาย เพราะเป็นผู้ถูกหลอกลวง ส่วนน้ำอัดลมจะเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือไม่ หาเป็นเหตุกระทำให้ผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายอยู่แล้วกลายเป็นมิใช่ผู้เสียหายไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโต้แย้งคำชี้ขาดผู้ชำระบัญชี: ยังไม่มีสิทธิฟ้องหากยังไม่ถูกเรียกร้องหนี้
ในเรื่องผู้ชำระบัญชี ซึ่งศาลตั้งในกรณีเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญมิได้จดทะเบียน ได้ทำคำชี้ขาดและทำบัญชีงบดุลย์ของหุ้นส่วนนั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ใดอื่นจะมาร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงแก้ไขมิได้ เพราะยังไม่มีสิทธิโต้แย้งอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 กล่าวคือ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดยังมิได้ถูกฟ้องเรียกหนี้ตามคำชี้ขาดหรือตามบัญชีแต่อย่างใด จึงไม่มีสิทธิที่จะมาร้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลคุ้มครองผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่พิพาทระหว่างการชำระบัญชีห้างหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วน ฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและให้ชำระบัญชี ในระหว่างพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้โจทก์จำเลยประมูลการเก็บผลประโยชน์ระหว่างความ หรือเอาเงินทางต่อศาลเป็นกองกลาง ฯลฯ ดังนี้ ถือว่า เป็นเรื่องขอให้ศาลคุ้มครองตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 25,264 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จัดการนำผลประโยชน์จากทรัพย์รายพิพาทที่จะเกิดขึ้นมามอบไว้ต่อศาลในระหว่างคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งคุ้มครองผลประโยชน์จากทรัพย์พิพาทระหว่างดำเนินคดีห้างหุ้นส่วน
ผู้เป็นหุ้นส่วน ฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันขอให้เลิกห้างหุ้นส่วนและให้ชำระบัญชีในระหว่างพิจารณา โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้โจทก์จำเลยประมูลการเก็บผลประโยชน์ระหว่างความ หรือเอาเงินวางต่อศาลเป็นกองกลาง ฯลฯ ดังนี้ถือว่า เป็นเรื่องขอให้ศาลคุ้มครองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 25,264 ศาลย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้จัดการนำผลประโยชน์จากทรัพย์รายพิพาทที่จะเกิดขึ้นมามอบไว้ต่อศาลในระหว่างคดีได้