คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าของ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 432 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดโฉนดโดยสุจริต แต่ขาดความยินยอมจากเจ้าของ สิทธิในการยึดถือไม่มีผล
จำเลยยึดโฉนดที่ดินของโจทก์ไว้โดยสุจริต เชื่อว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ถ. นำมาวางประกันกู้เงินจำเลยซึ่งไม่เป็นความจริงโจทก์เรียกโฉนดคืนจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองหลังคำพิพากษาถึงที่สุด: จำเลยไม่อาจอ้างสิทธิเจ้าของได้อีก เมื่อคดีก่อนพิพากษาว่าเช่า
เมื่อคำพิพากษาในคดีก่อนซึ่งถึงที่สุดไปแล้วฟังว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยทั้งสองอยู่โดยอาศัยสิทธิการเช่าจากบิดาโจทก์ เช่นนี้ เมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่าและฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเป็นคดีใหม่ จำเลยจะยกสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของขึ้นต่อสู้โจทก์อีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องจำกัดในกรณีที่ดินพิพาทเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ผู้ให้เช่าต้องเป็นเจ้าของ
เมื่อที่ดินเป็นป่าสงวนแห่งชาติ มิใช่ของโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวให้จำเลยเช่า และไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายจากผู้ไม่มีสิทธิ & การครอบครองแทนเจ้าของ: สิทธิในที่ดินพิพาท
ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่าของจำเลยฝากให้ ส.ดูแลแทน เมื่อ ส.นำไปขายให้แก่โจทก์โดยจำเลยมิได้รู้เห็นหรือยินยอม จึงเป็นการที่โจทก์ซื้อจากผู้ที่ไม่มีสิทธิที่จะขายแก่ตนได้ การครอบครองของโจทก์ในนาพิพาทหลังจากการซื้อขายซึ่งไม่มีผลผูกพันจำเลยไม่ว่าจะนานสักเพียงใด ก็เป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้เป็นเจ้าของ โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายจากผู้ไม่มีสิทธิและสิทธิครอบครอง: การครอบครองนาพิพาทหลังการซื้อขายที่ไม่ผูกพันเจ้าของเดิม
ที่พิพาทเป็นที่นามือเปล่าของจำเลยฝากให้ ส.ดูแลแทนเมื่อส.นำไปขายให้แก่โจทก์โดยจำเลยมิได้รู้เห็นหรือยินยอม จึงเป็นการที่โจทก์ซื้อจากผู้ที่ไม่มีสิทธิที่จะขายแก่ตนได้ การครอบครองของโจทก์ในนาพิพาทหลังจากการซื้อขายซึ่งไม่มีผลผูกพันจำเลย ไม่ว่าจะนานสักเพียงใดก็เป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้เป็นเจ้าของ โจทก์ไม่ได้สิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างรุกล้ำที่ดิน การยินยอมโดยปริยาย และสิทธิในที่ดินของเจ้าของเดิม
เดิมที่ดินแปลงใหญ่ทั้งโฉนดเป็นของจำเลยร่วม จำเลยร่วมให้ผู้รับเหมาก่อสร้างตึกแถว 10 ห้อง พร้อม ๆ สร้างห้องแถวในที่ดินดังกล่าวผู้รับเหมาได้ทำรั้วกำแพงก่ออิฐถือปูนกว้าง 1 เมตร ยาว 3.50 เมตร แทนรั้วสังกะสีเดิมติดด้านหลังตึกแถวทุกห้อง จำเลยร่วมไม่ได้ทักท้วงห้ามปรามอย่างใด แสดงว่าจำเลยร่วมยินยอมให้ผู้รับเหมาทำรั้วกำแพงได้ ฉะนั้น การที่ผู้รับเหมาก่อสร้างกำแพงหลังตึกดังกล่าวจึงเป็นการกระทำโดยสุจริตไม่เป็นการละเมิด ต่อมาจำเลยร่วมแบ่งแยกโฉนดโอนขายที่ดินนอกเขตที่สร้างตัวตึกแถวให้โจทก์ ขายตึกแถวเฉพาะที่ดินที่สร้างตึกแถวให้บุคคลอื่นและ ส.ส.ขายตึกแถวห้องเลขที่ 464/2 พร้อมทั้งที่ดินให้จำเลยที่ 1 หลังจากโจทก์ขอให้เจ้าพนักงานกรมที่ดินมารังวัดสอบเขตแล้วความจึงปรากฏว่า รั้วกำแพงด้านหลังตึกแถวทุกห้องรวมทั้งห้องของจำเลยที่ 1 ด้วยก่อสร้างในที่ดินของโจทก์ ในกรณีเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายมาตราใดที่จะยกขึ้นมาปรับคดีได้โดยตรง ในการวินิจฉัยคดีจึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายใกล้เคียงตามมาตรา 4 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และบทกฎหมายใกล้เคียงที่จะปรับกับข้อเท็จจริงคดีนี้คือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 ประกอบด้วยมาตรา 1314 ซึ่งบัญญัติให้โจทก์เจ้าของที่ดินเป็นเจ้าของสิ่งก่อสร้างคือรั้วกำแพง แต่ต้องใช้ค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะสร้างรั้วกำแพงนั้นให้แก่จำเลย ดังนี้โจทก์จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนรั้วกำแพงและเรียกค่าเสียหายไม่ได้ ทั้งจะให้จำเลยชำระเงินค่าใช้ที่ดินแก่โจทก์ก็ไม่ได้ เพราะรั้วกำแพงไม่ใช่โรงเรือน กรณีไม่เข้ามาตรา 1312 จำเลยไม่มีสิทธิใช้ที่ดินที่ก่อสร้างและภายในเขตรั้วกำแพงซึ่งเป็นที่พิพาทเพราะเป็นของโจทก์และคดีนี้จะบังคับให้โจทก์ใช้ค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้น เพราะสร้างรั้วกำแพงนั้นให้แก่จำเลยก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะจำเลยไม่ได้ฟ้องแย้งและไม่มีประเด็นดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์เช่าซื้อ: ผู้ชำระค่างวดไม่ใช่เจ้าของ, สิทธิการขอคืนทรัพย์สินสงวนไว้สำหรับเจ้าของกรรมสิทธิ์
การที่ ส. บุตรผู้ร้องได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ของกลางโดยผู้ร้องเป็นผู้ชำระราคาค่าเช่าซื้อจนครบถ้วน และผู้ให้เช่าซื้อได้มอบทะเบียนรถยนต์ของกลางให้ผู้ร้องแล้วแต่ยังไม่ได้โอนทะเบียนเป็นของผู้ร้องนั้น ไม่มีผลทำให้ผู้ร้องมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง กรรมสิทธิ์ตกเป็นของ ส. ผู้เช่าซื้อนับแต่มีการชำระเงินตามเสร็จประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 การที่ผู้ร้องชำระเงินค่าเช่าซื้อถือว่าเป็นการชำระแทน ส. ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์อันแท้จริงในรถยนต์ของกลาง จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางซึ่งถูกริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2326/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของเครื่องเล่นพนันต้องรับผิดชอบหากไม่ป้องกันการนำไปใช้ผิดกฎหมาย แม้จะอ้างให้เช่าเพื่อความบันเทิง
โต๊ะม้าไฟฟ้าของกลางเป็นเครื่องมือที่เจ้าของ(ผู้ร้อง)อาจป้องกันมิให้นำไปใช้พนันเอาทรัพย์สินกันได้ โดยดัดแปลงเกี่ยวกับเครื่องในช่องจ่ายเงินรางวัลไม่ให้เครื่องทำงานจ่ายเงิน ผู้ร้องมิได้จัดการดัดแปลงโต๊ะม้าไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นเจตนาของผู้ร้องว่าไม่รู้เห็นเป็นใจด้วยกับจำเลยที่ 1 ในการกระทำผิด ฉะนั้นข้อห้ามในสัญญาเช่าที่ระบุว่าห้ามจำเลย ที่ 1 นำไปเล่นการพนันเด็ดขาด ผู้ร้องให้เช่าไปเล่นเพื่อสนุกสนานนั้นไม่อาจรับฟังให้เป็นประโยชน์แก่คดีของผู้ร้องได้ ที่ศาลสั่งริบโต๊ะม้าไฟฟ้าของกลางเพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันได้โดยสภาพและผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด จึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการแย่งการครอบครอง: การเข้าครอบครองโดยเชื่อว่าเป็นเจ้าของ ไม่ถือเป็นความผิดฐานบุกรุก
จำเลยฟ้องคดีแพ่งว่า ม.บุกรุกที่ดินของจำเลย ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย แต่ ม. แย่งการครอบครองไปแล้ว คงเป็นของจำเลย 15 ไร่ ระหว่างฎีกาจำเลยจ้างคนเข้าหยอดปอในที่ดินส่วนที่ศาลพิพากษาว่าเป็นของ ม. และพนักงานอัยการได้ฟ้องจำเลย ข้อหาบุกรุก ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าที่ดินที่กล่าวหายังพิพาทเป็นคดีแพ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ฟังไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิโดยแน่แท้ ยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาคดีถึงที่สุด ต่อมาเมื่อคดีแพ่งยุติลงว่าที่ดินเป็นของจำเลย 15 ไร่แล้ว จำเลยได้จ้างคนเข้ารื้อที่ดินเป็นส่วนของ ม. อีก ดังนี้ จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทตั้งแต่เข้าหยอดปอ ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องฐานบุกรุกไปแล้ว เป็นเรื่องที่จำเลยยังไม่ยอมสละการครอบครอง มิใช่เข้าไปไถ่ที่พิพาทเป็นการแย่งการครอบครองใหม่ จึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1088/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การนับระยะเวลาครอบครองโดยไม่ยึดการเปลี่ยนเจ้าของ และการละเมิดสิทธิจากกรรมที่ลดประโยชน์ภารจำยอม
การนับระยะเวลาครอบครองติดต่อกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 กล่าวไว้เฉพาะด้านผู้ครอบครองว่าถ้าผู้ครอบครองได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์และครบ 10 ปีแล้ว ย่อมได้กรรมสิทธิ์มิได้คำนึงถึงฝ่ายผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกครอบครองแต่อย่างใด แม้จะบัญญัติว่าต้องเป็นการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น คำว่า 'ผู้อื่น' ย่อมหมายถึงบุคคลทั่วไปซึ่งมิใช่ผู้ครอบครองปรปักษ์ ฉะนั้นในการนับเวลาครอบครองติดต่อกันตามมาตรานี้ จึงถือเอาระยะเวลาครอบครองของฝ่ายผู้ครอบครองเท่านั้นไม่ต้องพิจารณาถึงตัวเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกครอบครองว่าจะได้โอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกครอบครองให้แก่ผู้ใดหรือไม่ ทั้งไม่จำต้องถือเอาทางฝ่ายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่ละคนที่รับโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นเกณฑ์ในการเริ่มนับระยะเวลาใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวเจ้าของ
ภารจำยอมที่อาจได้มาทางอายุความนั้น มาตรา 1401 ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ 3บรรพ 4 มาใช้บังคับโดยอนุโลมฉะนั้นการนับระยะเวลาติดต่อกันเกี่ยวกับภารจำยอมโดยอายุความจึงต้องถือเอาการนับระยะเวลาตามเกณฑ์ในมาตรา 1382 มาเป็นหลักเมื่อได้ความว่าโจทก์กับ ส. และเจ้าของที่ดินแปลงอื่นๆ ได้ตกลงกันและทำหนังสือสัญญากันไว้ยอมแบ่งที่ดินของตนฝ่ายละ 1 เมตรทำเป็นทางออกสู่ถนนใหญ่ และโจทก์ก็ได้ใช้ทางนี้เป็นทางเข้าออกตลอดมา ครั้นโจทก์ใช้ทางพิพาทยังไม่ถึง 10 ปี จำเลยได้รับโอนที่ดินมาจาก ส. โดยจำเลยรู้ถึงข้อตกลงระหว่างโจทก์กับ ส. และเจ้าของที่ดินแปลงอื่นๆ ดี ดังนี้แม้สัญญาที่ทำกันไว้จะไม่ผูกพันจำเลยให้จำต้องปฏิบัติตาม แต่การที่จำเลยยังปล่อยให้โจทก์ใช้ทางพิพาทต่อมาโดยไม่โต้แย้งขัดขวางจนรวมเวลาเก่าใหม่เข้าด้วยกันเกินกว่า 10 ปี ทางพิพาทย่อมตกเป็นภารจำยอมโดยทางอายุความ
จำเลยเป็นเจ้าของภารยทรัพย์ย่อมต้องห้ามตามมาตรา 1390มิให้ประกอบกรรมใดๆ อันจะเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกเมื่อโจทก์เจ้าของสามยทรัพย์เป็นผู้ลาดพื้นซีเมนต์ทางเดินบนที่ดินของจำเลยซึ่งตกอยู่ภายใต้ภารจำยอมการที่จำเลยขุดพื้นซีเมนต์ที่โจทก์ทำไว้เป็นหลุมเพื่อทำรั้วและทำให้พื้นซีเมนต์แตกไป จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อมาตรา 1390 และย่อมเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ตามมาตรา 420 ด้วย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
of 44