คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เหตุสุดวิสัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งหมายนัดและการแจ้งภูมิลำเนา การไม่แจ้งย้ายที่อยู่ไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัยในการขยายเวลาฎีกา
เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปให้โจทก์ณ บ้านเลขที่ตามคำฟ้องโดยวิธีปิดหมายตามคำสั่งศาล แม้โจทก์จะย้ายไปรับราชการต่างจังหวัด แต่เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานว่า โจทก์ได้ย้ายทะเบียนบ้านและครอบครัวไปด้วยดังนี้ ถือว่าโจทก์มีถิ่นที่อยู่หลายแห่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 45(เดิม) การส่งหมายนัดดังกล่าวจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74และมาตรา 79 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 แล้ว การที่โจทก์ย้ายไปรับราชการในต่างจังหวัดและมิได้อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ตามฟ้อง ทำให้โจทก์ไม่ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมาย-วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดยื่นคำขอพิจารณาใหม่เกินกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้มีเหตุสุดวิสัยหลังการยึดทรัพย์
คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยอ้างว่า จำเลยไม่ได้อยู่ที่บ้านในระหว่างถูกฟ้องเพราะเดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบีย แสดงว่าจำเลยยังมีภูมิลำเนาอยู่ตามที่ระบุในฟ้อง เจ้าพนักงานเดินหมายส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนคำบังคับให้จำเลยตามภูมิลำเนาดังกล่าว จึงเป็นการส่งโดยชอบแล้ว คำร้องขอพิจารณาใหม่ของจำเลยจะต้องยื่นภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209ทั้งนี้ แม้จะมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ แต่เมื่อมีการยึดทรัพย์เพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาแล้ว ก็ไม่อาจยื่นคำขอล่าช้าเกินกว่า 6 เดือน นับแต่วันยึดทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัย, ของมีค่า, และข้อจำกัดความรับผิดในการขนส่ง: ศาลฎีกาวินิจฉัยความรับผิดของผู้ขนส่ง
ได้ความแต่เพียงว่าระหว่างขนส่ง คนขับรถบรรทุกของจำเลยขับไปใกล้ถึงปลายทางได้เกิดเพลิงไหม้ตรงกลางคันรถใต้ผ้าใบคลุมสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่ปรากฏว่าเหตุเพลิงไหม้นั้นไม่อาจป้องกันได้เพราะเหตุใด และคนขับรถผู้ต้องประสบเหตุนั้นได้จัดการระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้นหรือไม่อย่างไร ยังถือไม่ได้ว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย ลวดเชื่อมไฟฟ้าและเครื่องซักผ้าเป็นเพียงทรัพย์สินธรรมดาทั่วไป มิใช่ของมีค่าที่มีคุณค่าอันมีลักษณะพิเศษทำนองเดียวกับเงินตรา ธนบัตร ธนาคารบัตร ตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ประทวนสินค้า หรืออัญมณี ผู้ส่งสินค้าจึงไม่จำเป็นต้องบอกราคาในขณะส่งมอบแก่ผู้ขนส่ง ใบกำกับสินค้าที่จำเลยออกให้โจทก์มีข้อจำกัดความรับผิดว่าจำเลยจะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่เกิน 500 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ลงลายมือชื่อยินยอมรับรู้ในข้อจำกัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 390/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์คันหลัง การรักษาระยะห่าง และเหตุสุดวิสัยในกรณีรถชนท้าย
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ประมาทปาดหน้ารถยนต์ของโจทก์โดยกะทันหันคนขับรถยนต์ของโจทก์ได้ระมัดระวังและหยุดรถยนต์ทันทีเพื่อป้องกันมิให้ชนกับรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับ จำเลยที่ 3 ซึ่งขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์ของโจทก์มา ถ้าระมัดระวังเช่นเดียวกับคนขับรถยนต์ของโจทก์ก็จะหยุดรถได้ทันและไม่เกิดเหตุขึ้น แต่จำเลยที่ 3 ไม่ใช้ความระมัดระวัง ทำให้หยุดรถไม่ทันและชนท้ายรถยนต์ของโจทก์ เช่นนี้ต้องฟังว่าเป็นความประมาทของจำเลยที่ 3 ด้วย ทั้งนี้เพราะผู้ขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์คันอื่นต้องระมัดระวังไม่ขับรถให้เร็วหรือกระชั้นชิดกับรถยนต์คันหน้าเกินไป การขับรถเร็วและกระชั้นชิดคันหน้าเกินไป เมื่อรถยนต์คันหน้าเกิดเหตุขึ้น ทำให้คนขับรถยนต์คันหลังหยุดรถไม่ทันและชนท้ายรถยนต์คันหน้า เช่นนี้ มิใช่เหตุสุดวิสัย เพราะคนขับรถยนต์คันหลังมีโอกาสระมัดระวังมิให้เกิดเหตุได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3851/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากเหตุจำเป็นและเหตุสุดวิสัย นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
ลูกจ้างมีความจำเป็นต้องเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปร่วมงานบวชน้องเขยที่ต่างจังหวัดประกอบกับในระหว่างที่หยุดงานและอยู่ที่ต่างจังหวัดนั้นได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ไม่มีรถยนต์โดยสารแล่นเข้ากรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ลูกจ้างไม่สามารถเดินทางกลับมาทำงานได้ การหยุดงานหรือการละทิ้งหน้าที่ของลูกจ้าง จึงมีเหตุอันสมควร นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยทางจราจร: การเฉี่ยวชนเนื่องจากรถบังสายตาและระยะเบรก
ขณะเกิดเหตุจำเลยลดความเร็วของรถลงเหลือประมาณ 25-30กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพราะเห็นว่าเป็นทางร่วมทางแยกและเห็นผู้ตายยืนอยู่บนถนนด้วย เหตุที่รถของจำเลยเฉี่ยวจำเลยเป็นเพราะขณะนั้นจำเลยมองไม่เห็นผู้ตาย เนื่องจากมีรถตู้ขับคู่มากับรถของจำเลยทางช่องทางที่ 3 ทางขวามือบังผู้ตายไว้ เมื่อผู้ตายหลบรถตู้คันดังกล่าวมาทางรถของจำเลยในระยะกระชั้นชิด จำเลยจึงห้ามล้อกะทันหัน แต่รถไม่หยุดในทันที และเฉี่ยวผู้ตายทางขวาของรถเป็นเหตุให้ผู้ตายล้มลง พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เป็นเพราะความประมาทของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2650/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีแรงงาน: เหตุสุดวิสัย-การไต่สวน-สิทธิในการให้การ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยได้อ้างถึงข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุและความจำเป็นที่มิได้ยื่นคำให้การและมาศาลในวันนัดพิจารณาว่า เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกฟ้องและไม่ทราบวันนัดเนื่องจากจำเลยไปรักษาพยาบาลมารดาอยู่ต่างจังหวัด ในระหว่างวันที่ถูกฟ้องถึงวันที่ศาลชี้ขาดตัดสินคดีและมีการส่งคำบังคับ เพิ่งมาทราบเรื่องที่ถูกฟ้องและบังคับคดีหลังจากจำเลยออกโรงพยาบาลและกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยอ้างแล้วจำเลยก็ย่อมไม่สามารถมาแถลงให้ศาลแรงงานกลางทราบถึงความจำเป็นที่ไม่อาจมาศาลได้ภายในกำหนด 7 วัน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 41 ได้กรณีเช่นนี้ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคดีโดย อนุโลมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31ศาลแรงงานกลางต้องไต่สวนคำร้อง ของ จำเลยและมีคำสั่งตามรูปคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2569/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยต้องเป็นเหตุที่ศาลไม่อาจขยายเวลา หรือคู่ความไม่อาจยื่นคำขอได้ การขาดความรอบคอบของทนายไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
เหตุสุดวิสัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23หมายถึงเหตุที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาหรือเหตุที่คู่ความไม่สามารถมีคำขอขึ้นมาก่อนกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายหรือศาลกำหนดไว้ การที่ทนายจำเลยหลงลืมไม่ได้ยื่นใบแต่งทนายความพร้อมกับคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดนั้น เป็นเพราะทนายจำเลยขาดความรอบคอบหรือไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร จึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัยตามมาตราดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาอุทธรณ์ เหตุสุดวิสัย ความผิดทนาย และการละเลยของโจทก์
โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์เมื่อสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์แล้ว อ้างเหตุว่าเพิ่งมาฟังคำพิพากษาเนื่องจากจำวันผิดพลาด โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 13 กรกฎาคม 2533แต่โจทก์เข้าใจว่าเป็นวันที่ 13 สิงหาคม 2533 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นอุทธรณ์และทนายโจทก์ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุที่โจทก์อ้างดังกล่าวไม่เป็นเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 เพราะทนายโจทก์ได้มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปตรวจดูวันฟังคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นสั่งเลื่อนไปเป็นวันที่ 13กรกฎาคม 2533 และแจ้งให้ทนายโจทก์ทราบแล้ว ถือว่าโจทก์ได้ทราบคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนับแต่วันอ่าน โจทก์มีเวลาพอที่จะทำอุทธรณ์ยื่นต่อศาลได้ทันตามกำหนดเวลา แม้ทนายโจทก์ป่วยก็สามารถแต่งตั้งทนายความคนใหม่เรียงอุทธรณ์ให้ แต่โจทก์ละเลยเสียปล่อยให้เวลาผ่านไปจนสิ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ โจทก์จึงอ้างเหตุสุดวิสัยเพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ออกไปหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1413/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีอาญา ความผิดฐานฉ้อโกง เหตุสุดวิสัย และการมิอาจใช้บทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ป.อ. ภาค 1 ลักษณะ 1 หมวด 9 บัญญัติเรื่องอายุความคดีอาญาไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะ จะนำบทบัญญัติเรื่องเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถทำให้อายุความสะดุดหยุดลงอันเป็นเหตุให้อายุความยังไม่ครบบริบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 187 มาใช้ในคดีอาญาด้วยไม่ได้.
of 52