พบผลลัพธ์ทั้งหมด 356 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3667/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกตรวจสอบบัญชีที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากไม่ได้ยกขึ้นว่ากันในศาลล่าง
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่า เหตุที่โจทก์มิได้ส่งสมุดบัญชีและเอกสารตามหมายเรียกของเจ้าพนักงานประเมินเพราะมีข้อขัดข้องยังไม่สามารถส่งให้ได้ การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าการส่งหมายเรียกให้โจทก์ส่งสมุดบัญชีและเอกสารเพื่อการตรวจสอบไต่สวนไม่ชอบ เพราะมิได้ส่งไปยังสถานที่ตั้งทำการหรือประกอบการของโจทก์ ทั้งผู้เซ็นรับหมายเรียกก็มิใช่พนักงานของโจทก์จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลภาษีอากรกลาง ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3667/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกตรวจสอบบัญชีที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุไม่ได้ยกขึ้นว่ากันในศาลล่างและไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่า เหตุที่โจทก์มิได้ส่งสมุดบัญชีและเอกสารตามหมายเรียกของเจ้าพนักงานประเมินเพราะมีข้อขัดข้องยังไม่สามารถส่งให้ได้ การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าการส่งหมายเรียกให้โจทก์ส่งสมุดบัญชีและเอกสารเพื่อการตรวจสอบไต่สวนไม่ชอบ เพราะมิได้ส่งไปยังสถานที่ตั้งทำการหรือประกอบการของโจทก์ ทั้งผู้เซ็นรับหมายเรียกก็มิใช่พนักงานของโจทก์ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลภาษีอากรกลาง ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3667/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกตรวจสอบบัญชีที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากมิได้ยกขึ้นว่ากันในศาลภาษีอากรกลาง
คำฟ้องของโจทก์อ้างว่า เหตุที่โจทก์มิได้ส่งสมุดบัญชีและเอกสารตามหมายเรียกของเจ้าพนักงานประเมินเพราะมีข้อขัดข้องยังไม่สามารถส่งให้ได้ การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าการส่งหมายเรียกให้โจทก์ส่งสมุดบัญชีและเอกสารเพื่อการตรวจสอบไต่สวนไม่ชอบ เพราะมิได้ส่งไปยังสถานที่ตั้งทำการหรือประกอบการของโจทก์ ทั้งผู้เซ็นรับหมายเรียกก็มิใช่พนักงานของโจทก์จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลภาษีอากรกลาง ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3414/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีเช็คและการยอมความที่ไม่สมบูรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่ไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ในคดีความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็คซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี โจทก์ไม่จำต้องสืบพยานประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยแม้เป็นกรณีที่จำเลยให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของความผิดก็ต้องรับฟังเป็นยุติดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ปรากฏจากคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยกับผู้เสียหายได้ตกลงกันว่า เมื่อจำเลยผ่อนชำระหนี้จนครบถ้วนตามที่ตกลงกันแล้วผู้เสียหายจึงจะถอนคำร้องทุกข์ จำเลยจึงขอให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่ข้อตกลงยอมความกันในทางอาญาจึงไม่ปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ว่า มีข้อตกลงระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยอันจะถือได้ว่าเป็นการยอมความโดยถูกต้องตามกฎหมาย การที่จำเลยฎีกาว่ามีการยอมความโดยถูกต้องตามกฎหมายระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยแล้ว จึงเป็นฎีกาที่มิได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยชัดแจ้งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากผู้ร้องมิได้วางเงินค่าฤชาธรรมเนียมตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้ร้องยื่นฎีกาโดยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แทนผู้คัดค้านตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาวางศาลพร้อมกับฎีกา แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาไว้ก็ถือว่าเป็นฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229ประกอบมาตรา 247.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การที่จำเลยไม่ได้ยกประเด็นการครอบครองปรปักษ์ในคำให้การ ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากบ้านพิพาท จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่า จำเลยได้กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์แล้วหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในปัญหาข้อนี้ จึงไม่ชอบแม้จำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 89/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากฎีกาไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เงินที่โจทก์ฝากไว้กับจำเลยย่อมตกเป็นของจำเลยการที่จำเลยโอนเงินที่รับฝากไว้ไปให้บุคคลอื่นจึงเป็นเรื่องที่โจทก์จะเรียกร้องเอาจากจำเลยในทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ อันเป็นการยกฟ้องโจทก์อาศัยข้อกฎหมายดังนี้ โจทก์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อฎีกาของโจทก์คงโต้เถียงเฉพาะปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่เท่านั้น มิได้คัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4820/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 248 และแก้ไขคำพิพากษาเรื่องการรื้อถอนทรัพย์สิน
ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องแย้ง โดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์ เพราะจำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทที่ปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าว แต่ไม่ได้ใช้อยู่อาศัยเอง หากให้ผู้อื่นเช่าอยู่จำเลยฎีกาว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่ว่า จำเลยไม่ได้อยู่ในบ้านพิพาทฟังไม่ได้ จำเลยอยู่ในเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของโจทก์ อันเป็นฎีกาโต้เถียงให้ศาลฎีการับฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ซึ่งขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละห้าพันบาท และจำเลยไม่ได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์หรือไม่ได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาที่ก่อให้เกิดสิทธิอยู่บนที่พิพาทนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยจึงต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นข้อเท็จจริงใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ แม้จะได้รับอนุญาตให้ฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดแต่โทษจำคุกรอการลงโทษโจทก์ร่วมฝ่ายเดียวอุทธรณ์ไม่ให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันและโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย ล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้าน เพิ่งมายกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ แม้จำเลยจะได้รับอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2716/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัย เหตุไม่ได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพียงแต่คัดลอกเนื้อหาจากอุทธรณ์
ฎีกาของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ถูกต้องอย่างไร คงคัดลอกข้อความในอุทธรณ์มาไว้ในฎีกาเท่านั้น จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.