พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: ศาลไม่อาจแบ่งทรัพย์สินหากข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนเพียงพอ
มาตรา 142(2) แห่ง ป.ม.วิ.แพ่งที่บัญญัติว่า ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ใดใดเป็นของตนทั้งหมด แต่พิจารณาได้ความว่า โจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนแบ่งนั้นก็ได้ นั้น ถ้าข้อเท็จจริงในคดีนั้นยังไม่ชัดเจนพอที่จะให้แบ่งส่วนกันออกไปอย่างไรแล้วศาลก็ไม่อาจแบ่งให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งส่วนทรัพย์สินในคดีเรียกร้องทรัพย์สิน: ศาลต้องมีข้อเท็จจริงชัดเจนก่อนแบ่ง
มาตรา 142(2) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่บัญญัติว่า ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ใดใดเป็นของตนทั้งหมด แต่พิจารณาได้ความว่า โจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนแบ่งนั้นก็ได้ นั้นถ้าข้อเท็จจริงในคดีนั้นยังไม่ชัดเจนพอที่จะให้แบ่งส่วนกันออกไปอย่างไรแล้วศาลก็ไม่อาจแบ่งให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1547/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดัดแปลงเช่าทรัพย์สิน: สิทธิในส่วนควบและการตีความสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าโรงเรียนของโจทก์ แล้วจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ โดยดัดแปลงแก้ไข รื้อขนสัมภาระจากโรงเรือนของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ดังนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องจำเลยตามมูลละเมิด เมื่อฟังไม่ได้ว่า เป็นละเมิดแล้วในข้อที่จำเลยจะต้องรับผิดฐานไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าหรือไม่นั้น ไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยเพราะเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องว่ากล่าวตามมูลสัญญาเช่า
แม้ในสัญญาเช่าจะใช้คำว่าการดัดแปลงหรือต่อเติมใด ๆ ที่ผู้เช่าได้ทำขึ้นต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าก็ดี ก็ย่อมต้องหมายความถึงการกระทำที่มาเป็นส่วนควบของทรัพย์ประชาชน สัญญาเช่าที่มีข้อความดั่งที่ปรากฎนี้ หาอาจทำให้สังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นที่ตกเข้ามาอยู่ในที่เช่าเป็นกรรมสิทธิของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ไม่
แม้ในสัญญาเช่าจะใช้คำว่าการดัดแปลงหรือต่อเติมใด ๆ ที่ผู้เช่าได้ทำขึ้นต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าก็ดี ก็ย่อมต้องหมายความถึงการกระทำที่มาเป็นส่วนควบของทรัพย์ประชาชน สัญญาเช่าที่มีข้อความดั่งที่ปรากฎนี้ หาอาจทำให้สังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นที่ตกเข้ามาอยู่ในที่เช่าเป็นกรรมสิทธิของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์เมื่อไม่ใช่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทรัพย์สิน
จำเลยเป็นเสมียนกรมรถไฟประจำสถานีหนึ่งมีหน้าที่ขายตั๋วรถไฟให้ผู้โดยสาร จำเลยใช้ตั๋วของกรมรถไฟซึ่งได้สูญหายไปในระหว่างทางและไม่ได้อยู่ในบัญชีสถานีที่จำเลยประจำอยู่ มาเขียนกรอกข้อความลงไปแล้วปลอมขายว่าเป็นตั๋วรถไฟที่แท้จริงให้แก่ผู้ซื้อไป ดังนี้ เงินที่จำเลยขายตั๋วปลอมได้มา จำเลยจึงไม่มีหน้าที่ต้องส่งให้นายสถานีนั้นจำเลยเอาเงินนั้นไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย จำเลยจึงไม่มีผิดฐานยักยอกตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 131 หรือ 319
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบุคคลภายนอกคัดค้านการบังคับคดีและการงดการขายทอดตลาดทรัพย์สิน
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ๆ กำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขาดทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลยพินิจงดการขายได้ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา 292 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดชั่วคราวเนื่องจากข้อพิพาทเรื่องการโอนและจำนอง
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยเพื่อบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดของศาลผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สินที่ยึดเป็นของผู้ร้องผู้ร้องกำลังฟ้องขอให้ทำลายการโอน ซึ่งจำเลยรับโอนไปโดยปลอมใบมอบอำนาจและขอให้ทำลายการจำนองระหว่างโจทก์จำเลยอยู่แล้ว ขอให้ศาลงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินรายนี้ไว้ก่อน ดังนี้ ศาลย่อมใช้ดุลพินิจงดการขายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ประกอบด้วยมาตรา292(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกโดยการแบ่งทรัพย์สินหรือชำระเป็นเงิน หากไม่สามารถทำได้ให้ขายทอดตลาด
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15,000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฏว่าที่สวนมะพร้าวแพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15,000 บาทมาวางศาลเพื่อชำระแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วยศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1203/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎหมายมรดก: กฎหมายอิสลาม vs. ประมวลกฎหมายแพ่งฯ กรณีการยกทรัพย์สิน
คดีมรดกของผู้ถือศาสนาอิสลามอันเกิดขึ้นในศาล ของจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูลนั้น ต้องใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวมรดกบังคับแทนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ในการที่จะพิจารณาวินิจฉัยว่าทรัพย์อะไรเป็นมรดกหรือไม่นั้น จะต้องใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บังคับเสียก่อน
ผู้ตายทำหนังสือ(นาซา)ยกที่ดินให้จำเลยตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ แม้ตามกฎหมายอิสลามมีว่าการให้ด้วยหนังสือนาซานี้ใช้ได้ ที่ดินไม่เป็นมรดกต่อไปตามกฎหมายอิสลามไม่แบ่งมรดกก็ตาม แต่ปรากฏว่าการยกให้ไม่ถูกแบบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพราะไม่ได้จดทะเบียน ที่ดินจึงยังเป็นของผู้ตายอยู่ในเวลาตายจึงต้องถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าที่ดินนี้ยังเป็นมรดกของผู้ตายอยู่
ผู้ตายทำหนังสือ(นาซา)ยกที่ดินให้จำเลยตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ แม้ตามกฎหมายอิสลามมีว่าการให้ด้วยหนังสือนาซานี้ใช้ได้ ที่ดินไม่เป็นมรดกต่อไปตามกฎหมายอิสลามไม่แบ่งมรดกก็ตาม แต่ปรากฏว่าการยกให้ไม่ถูกแบบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพราะไม่ได้จดทะเบียน ที่ดินจึงยังเป็นของผู้ตายอยู่ในเวลาตายจึงต้องถือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าที่ดินนี้ยังเป็นมรดกของผู้ตายอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจุดไฟเผาในที่เสี่ยงภัยและประมาทเลินเล่อ จนเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินผู้อื่น
จำเลยจุดไฟเผาเรียวไผ่ที่โคนกอไผ่ขณะที่ลมกำลังแรงและที่ตรงนั้นก็มีป่าไผ่ติดต่อกันอยู่เป็นพืดตั้ง 20 กอ แห้งบ้าง สดบ้าง และใกล้ ๆ นั้นก็มีบ้านเรือนของราษฎรอยู่กันหลายหลัง จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น มีผู้ห้ามจำเลยจำเลยก็ไม่เชื่อฟังขืนจุดจนได้ จึงเป็นเหตุให้ไฟไหม้กอไผ่ขึ้น แล้วลูกไฟปลิวตกไหม้บ้านเรือนผู้เสียหายหมด ดังนี้ ความผิดของจำเลยเลยต้องด้วย ก.ม.อาญามาตรา 187-186 ไม่ใช่เรื่องทำให้ไฟไหม้โดยประมาทตาม ม.201 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1048/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานวางเพลิงเผาทำลายทรัพย์สินผู้อื่นโดยเจตนา แม้มีผู้ห้ามปราม
จำเลยจุดไฟเผาเรียวไผ่ที่โคนกอไผ่ขณะที่ลมกำลังแรง และที่ตรงนั้นก็มีป่าไผ่ติดต่อกันอยู่เป็นพืดตั้ง 20กอ แห้งบ้าง สดบ้าง และใกล้ๆ นั้นก็มีบ้านเรือนของราษฎรอยู่กันหลายหลัง จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวจะเป็นอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น มีผู้ห้ามจำเลย จำเลยก็ไม่เชื่อฟังขืนจุดจนได้ จึงเป็นเหตุให้ไฟไหม้กอไผ่ขึ้น แล้วลูกไฟปลิวตกไหม้บ้านเรือนผู้เสียหายหมด ดังนี้ความผิดของจำเลยต้องด้วย กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 187-186ไม่ใช่เรื่องทำให้ไฟไหม้โดยประมาทตาม มาตรา 201(1)