พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,691 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาที่ไม่สมบูรณ์และการบังคับคดีตามหนี้เดิม แม้จะพิพากษาตามสัญญาที่ไม่สมบูรณ์ ศาลยังคงบังคับคดีตามหนี้ซื้อของเชื่อได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงิน 4,000 บาท จำเลยว่าเป็นเรื่องซื้อของเชื่อเพียง 400 บาท โจทก์ให้จำเลยเซ็นชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้โดยมิได้กรอกข้อความไว้ จำเลยยังมิได้ชำระค่าซื้อของเชื่อจริง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์กรอกสัญญากู้ภายหลัง จึงให้จำเลยชำระค่าซื้อของเชื่อ 400 บาท ดังนี้ เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยมิได้เป็นหนี้เงินกู้ตามสัญญาที่โจทก์ฟ้อง แต่ฟังได้ว่าจำเลยได้ลงชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้ที่ยังมิได้กรอกข้อความให้โจทก์ไว้ เนื่องจากจำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อจากโจทก์ ก็พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 400 บาทให้โจทก์ได้ (ความจริงศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งมีผลเท่ากับให้จำเลยใช้เงิน 400 บาท นั่นเอง).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการเช่า: จดหมายรับสภาพหนี้และการเบิกความในคดีอาญาใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้
จำเลยได้เขียนจดหมายมีข้อความว่า 'ผมต้องขออภัยที่ยังหาบ้านที่เหมาะสมยังไม่ได้ จึงต้องอยู่ต่อไปอีกจนสิ้น พฤษภาคมนี้ ส่วนค่าเช่าที่ค้างอยู่ ผมจะได้จัดการชำระให้ในไม่ช้านี้' จดหมายฉบับนี้แม้จำเลยจะเขียนถึงพลเรือโทนัย นพคุณ ซึ่งมิใช่เป็นผู้ให้จำเลยเช่าบ้านพิพาทก็ตามแต่กรณีเป็นเรื่องจำเลยยอมรับว่าได้เช่าบ้านพิพาทและยังค้างค่าเช่าอยู่จริงเมื่อจำเลยได้ลงชื่อในจดหมายฉบับนี้แล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นหลักฐานการเช่าอันจะนำมาฟ้องร้องขอให้บังคับคดีได้
คำให้การของจำเลยในคดีอาญาที่เบิกความว่า จำเลยได้เช่าบ้านพิพาทของโจทก์นั้น ถือว่าเป็นหลักฐานการเช่าในอันที่จะใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องจำเลยได้เช่นเดียวกัน
คำให้การของจำเลยในคดีอาญาที่เบิกความว่า จำเลยได้เช่าบ้านพิพาทของโจทก์นั้น ถือว่าเป็นหลักฐานการเช่าในอันที่จะใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องจำเลยได้เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779-1780/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีทุเลาและการชำระหนี้จำนองหลังจำหน่ายคดีของผู้ค้ำประกัน
จำเลยเอาที่ดินมาวางเป็นหลักประกันทุเลาการบังคับคดีในระหว่างพิจารณาคดี จำเลยตายไปเกินกว่า 1 ปี ไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี คดีเฉพาะตัวจำเลยจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งเช่นว่านั้นย่อมใช้บังคับแก่การประกันนั้นได้โดยไม่ต้องฟ้องผู้ค้ำประกันขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274 และอายุความเจ้าหนี้ของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 จะนำมาใช้แก่กรณีนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากการบังคับคดีและการลักทรัพย์: ผลต่อกรรมสิทธิ์และเจตนา
ที่ดินซึ่งเจ้าของที่ดินมีแต่เพียงสิทธิครอบครอง (ส.ค.1) เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้จัดการยึดแล้วที่ดินรายนี้ย่อมตกอยู่ในความยึดถือของเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการขายทอดตลาดตามคำสั่งของศาล ผู้ซื้อชำระราคาแล้ว ย่อมเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ยึดถือทรัพย์ที่ยึดนั้นต่อไป แต่เป็นที่เข้าใจว่าได้โอนความเป็นเจ้าของตลอดจนความยึดถือทรัพย์นั้นให้แก่ผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมเป็นเจ้าของทรัพย์รายนี้ ส่วนการที่ศาลมีหนังสือถึงนายอำเภอท้องที่ ขอให้จัดการทำหนังสือสัญญาซื้อขายให้ผู้ซื้อนั้น เป็นเพียงให้ทางอำเภอจัดการเกี่ยวกับหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินอีกชั้นหนึ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้บางส่วนและการบังคับคดีสัญญาซื้อขาย แม้ผู้ซื้อมิได้วางประจำก็ฟ้องบังคับได้
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าจำเลยได้ส่งมอบนาให้โจทก์ครอบครองตั้งแต่วันตกลงซื้อขายนากันนั้นเป็นข้ออ้างว่าได้ชำระหนี้บางส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรค 2 ซึ่งเป็นมูลให้โจทก์บังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่อไป คือ ให้โอนที่พิพาทแก่โจทก์ตามข้อสัญญาได้ กฎหมายมิได้มีข้อจำกัดว่าฝ่ายที่ชำระหนี้เท่านั้นจึงจะฟ้องร้องขอให้ศาลบังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งมอบนาถือเป็นการชำระหนี้บางส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 456 วรรค 2 โจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับคดีได้
ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าจำเลยได้ส่งมอบนาให้โจทก์ครอบครองตั้งแต่วันตกลงซื้อขายนากันนั้นเป็นข้ออ้างว่าได้ชำระหนี้บางส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรค 2 ซึ่งเป็นมูลให้โจทก์บังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่อไปคือ ให้โอนที่พิพาทแก่โจทก์ตามข้อสัญญาได้ กฎหมายมิได้มีข้อจำกัดว่าฝ่ายที่ชำระหนี้เท่านั้นจึงจะฟ้องร้องขอให้ศาลบังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 997/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการหลุดพ้นจากความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อมีการประนอมหนี้และชำระหนี้แล้ว
โจทก์นำยึดทรัพย์จำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาจำเลยร้องขอให้ศาลปล่อทรัพย์ที่ยึดโดยมีผู้ค้ำประกันต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินโจทก์ จำเลยไม่ชำระโจทก์ขอให้ศาลบังคับผู้ค้ำประกัน เมื่อปรากฏต่อศาลว่าโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือประนอมหนี้โอนที่ดินของจำเลยใช้หนี้โจทก์ไปแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องรับผิดใช้หนี้โจทก์
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
ผู้ร้องได้ยื่นระบะพยานอ้างเอกสารไว้แล้ว แต่เรียกมาไม่ได้ คงส่งศาลได้แก่สำเนาเพิ่งปรากฏว่าจำเลยได้นำต้นฉบับเอกสารมาส่งศาลเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้วผู้ร้องจึงขอให้ศาลฎีกาสั่งให้สืบพยานเกี่ยวกับต้นฉบับเอกสารนั้น ศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับต้นฉบับเอกสารและสั่งให้ศาลชั้นต้นสืบพยานประกอบเอกสารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 240(2) และ (3) ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ฟ้องทายาท แม้ไม่มีมรดก บังคับคดีเอาจากกองมรดกได้ แต่จำกัดเฉพาะหนี้ร่วมหรือหนี้ที่เกี่ยวข้องกับมรดก
เมื่อไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ หากฎีกาขึ้นมา ก็เป็นฎีกานอกประเด็นศาลไม่รับวินิจฉัยให้
เจ้าหนี้ฟ้องทายาทลูกหนี้ผู้ตายได้แม้ทายาทจะมิได้รับมรดกเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้จะบังคับเอาจากมรดกของผู้ตายโดยทายาทไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
เจ้าหนี้ฟ้องทายาทลูกหนี้ผู้ตายได้แม้ทายาทจะมิได้รับมรดกเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้จะบังคับเอาจากมรดกของผู้ตายโดยทายาทไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85-88/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับรื้ออาคารกับบุคคลภายนอกและอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลยสั่งรื้ออาคารซึ่งเป็นภยันตรายต่อสาธารณชนและโจทก์ เมื่อปรากฏต่อศาลว่าจำเลยมิใช่เป็นเจ้าของอาคารพิพาทหากศาลมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์ ผลของการบังคับคดีย่อมไปผูกพันบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วยให้จำต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล ศาลจึงไม่อาจสั่งบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์ได้
อำนาจในการที่จะสั่งให้รื้อถอนอาคารที่สร้างขึ้นภายในเขตเทศบาลเป็นอำนาจหน้าที่โดยอิสระของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 11,12, และพระราชบัญญัติควบคุมก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 มาตรา 3,4,5 ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติมาตราใดที่บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรับผิดในเมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นงดเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ศาลจึงไม่อาจสั่งบังคับให้
อำนาจในการที่จะสั่งให้รื้อถอนอาคารที่สร้างขึ้นภายในเขตเทศบาลเป็นอำนาจหน้าที่โดยอิสระของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 11,12, และพระราชบัญญัติควบคุมก่อสร้างอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 มาตรา 3,4,5 ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติมาตราใดที่บัญญัติให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรับผิดในเมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นงดเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ศาลจึงไม่อาจสั่งบังคับให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีสำเร็จก่อนพิทักษ์ทรัพย์: ผลยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อไม่มีเจ้าหนี้อื่นยื่นคำร้อง
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยก่อนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว และมิได้มีเจ้าหนี้อื่นยื่นคำร้องขอเฉลี่ยภายในกำหนด 14 วัน นับแต่วันขายทอดตลาด ถือว่าการบังคับคดีสำเร็จบริบูรณ์ไปแล้ว ใช้ยันแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ได้