พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2201/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษา: ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ถอนยึดทรัพย์ทั้งหมดเมื่อพบว่าจำเลยมีทรัพย์สินพอชำระหนี้และประกอบกิจการตามปกติ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยึดทรัพย์ก่อนคำพิพากษากรณีฉุกเฉินและยกคำร้องที่จำเลยขอให้ถอนการยึด ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ถอนการยึดเฉพาะทรัพย์บางรายการ ดังนี้ จำเลยฎีกาให้ถอนการยึดทั้งหมดได้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: ศาลอุทธรณ์มีอำนาจตัดสินในระหว่างพิจารณาคดี ศาลฎีกาไม่มีอำนาจแก้ไข
การขอทุเลาการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 นั้น กฎหมายกำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป สำหรับคดีนี้อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องขอทุเลาการบังคับจึงเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ ศาลฎีกาไม่มีอำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์เป็นอย่างอื่นได้ และกรณีที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับแล้ว จำเลยจะฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1797/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหลังกระทำผิด ศาลฎีกายกเว้นโทษจำเลยตามกฎหมายใหม่
จำเลยมีอาวุธปืนไม่รับใบอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯปล้นทรัพย์และถูกจับพร้อมด้วยปืนระหว่างนั้นกฎหมายให้ไปขอรับใบอนุญาตได้ เป็นกฎหมายยกเว้นโทษจำเลยไม่ต้องรับโทษตาม มาตรา3 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานลักทรัพย์เกินคำขอในฟ้อง ศาลฎีกาแก้ไขโทษให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องว่าวิ่งราวทรัพย์ ไม่ปรากฏเหตุฉกรรจ์ เป็นฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ได้ความว่าลักทรัพย์ลงโทษตาม มาตรา 335(7) ลักทรัพย์โดยมีอาวุธไม่ได้ ทั้ง มาตรา335(7)มีโทษหนักกว่า มาตรา 336 วรรคแรก ศาลลงโทษตาม มาตรา334
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1689/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่: สัญญาเงินกู้เบิกเกินบัญชีและจำนอง - ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีที่จำเลยทำไว้กับโจทก์และบังคับจำนอง โดยฟ้องกล่าวถึงจำเลยทำสัญญาจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์และจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกิน บัญชีไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2514 จำนวนเงินไม่เกิน 20,000 บาท กำหนดชำระภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญากำหนดส่งดอกเบี้ยภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หากผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยตามกำหนดยอมให้คิดดอกเบี้ยที่ค้างชำระทบต้นเข้ากับเงินที่เบิกเกินบัญชีโดยเสียดอกเบี้ยตามวิธีและอัตราดังกล่าวตามสำเนาสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี เอกสารท้ายฟ้อง ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีข้อความว่าจำเลยยอมให้ดอกเบี้ยโจทก์ร้อยละสิบสี่ต่อปี และบรรยายต่อไปว่าเมื่อจำเลยนำสัญญาจำนองและเบิกเงินเกินบัญชีแล้ว จำเลยผิดสัญญาไม่ชำระดอกเบี้ยและต้นเงินแก่โจทก์รวมทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยที่จำเลยเป็นหนี้โจทก์คิดเพียงวันที่ 7 กันยายน 2520 เป็นเงิน 63,256.29 บาท ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีนับแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2514 ตลอดมาจนถึงวันที่ 7 กันยายน 2520 โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละสิบสี่ต่อปี และคิดดอกเบี้ยที่ผิดนัดทบเข้ากับต้นเงินเมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วจำเลยเป็นหนี้โจทก์รวม 63,256.29 บาท ฟ้องของโจทก์ดังกล่าวได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว ส่วนที่ว่าจำเลยเบิกเงินจากโจทก์เมื่อไร จำนวนเท่าใด คิดดอกเบี้ยจากยอดต้นเงินเท่าใด คิดจากวันไหนถึงวันไหน นั้นเป็นรายละเอียดที่จะต้องนำสืบ เมื่อมีประเด็นโต้เถียงกันแม้โจทก์ไม่บรรยายข้อความดังกล่าวในคำฟ้องและไม่แสดงบัญชีเดินสะพัด ฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1668/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว: ศาลฎีกาปรับบทลงโทษจากมาตรา 340 วรรคสี่ เป็นวรรคสอง
จำเลยมีอาวุธปืนและลูกระเบิดติดตัวไปในการปล้นทรัพย์และขู่ว่าจะใช้หากเจ้าทรัพย์ขัดขืน โดยไม่ได้ยิงปืนหรือใช้วัตถุระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นแต่อย่างใด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ฐานปล้นโดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 วรรคสี่ และเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกอายุความในคดีมรดก: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นการต่อสู้เรื่องอายุความตามมาตรา 1754 และ 1710
จำเลยให้การว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ เพราะคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับมรดกจำเลยเป็นทายาทตามพินัยกรรม โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี เป็นคำให้การที่จำเลยประสงค์ยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 เป็นข้อต่อสู้ที่จำเลยให้การอีกข้อหนึ่งว่า โจทก์ขาดอำนาจฟ้องเพราะมิได้ฟ้องคดีภายในกำหนด 60 วัน ตามคำสั่งของนายอำเภอก็ยังไม่พอแปลได้ว่า จำเลยได้ยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1710 เป็นข้อต่อสู้คดีไม่มีประเด็นว่าฟ้องของโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1710
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1453/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมชิงทรัพย์: ศาลฎีกาพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับจำเลยที่ 2 ในการชิงทรัพย์
จำเลยที่ 1 ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยที่ 2 นั่งซ้อนท้ายขับชลอตามรถจักรยานที่ผู้เสียหายขี่ จำเลยที่ 2 กระชากแขนผู้เสียหายล้มลงแล้วลงจากรถบีบคอกระชากสร้อยคอของผู้เสียหายกลับไปขึ้นรถที่จำเลยที่ 1 จอดติดเครื่องรออยู่บริเวณที่เกิดเหตุออกรถหนีย้อนกลับ ทางเดิมไปทันที จำเลยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นตัวการชิงทรัพย์ทั้ง 2 คน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องที่ไม่ชอบเนื่องจากทนายลงชื่อแทนโจทก์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่ไม่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องยกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าทนายลงชื่อในฟ้องแทนโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) พิพากษายืน โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยให้โจทก์ลงลายมือชื่อในคำฟ้องและประทับรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป ดังนี้ เป็นฎีกาที่มิได้ยกเหตุขึ้นคัดค้านข้อชี้ขาดของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ถูกต้องอย่างใด จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่จากที่ดินบุกรุกและการพิสูจน์ที่ตั้งทรัพย์สินที่ไม่ชัดเจน ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
เมื่อข้อเท็จจริงเรื่องที่ตั้งของที่ดินพิพาทยังไม่แน่นอนว่าจะอยู่ในเขตของศาลใด และจำเลยก็มิได้ยกปัญหาเรื่องที่โจทก์ฟ้องผิดศาลขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การ ศาลฎีกาจึงไม่เห็นสมควรที่จะยกปัญหาเรื่องนี้ขึ้นวินิจฉัย (อ้างฎีกาที่ 2642/2519)
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งบุกรุกเข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยพลการ ซึ่งเป็นการละเมิดต่อโจทก์ได้ โดยไม่จำต้องบอกกล่าว(อ้างฎีกาที่ 1190/2518)
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งบุกรุกเข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยพลการ ซึ่งเป็นการละเมิดต่อโจทก์ได้ โดยไม่จำต้องบอกกล่าว(อ้างฎีกาที่ 1190/2518)