พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,226 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะจำเลยเป็นลูกจ้างโรงงานสุรา ไม่ใช่เจ้าพนักงาน ทำให้ไม่อาจลงโทษฐานทุจริตต่อหน้าที่ได้
จำเลยได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในโรงงานสุราสังกัดกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามระเบียบข้อบังคับของโรงงานสุรา แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นผู้บรรจุแต่งตั้งก็ตาม ไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก ไม่ต้องรับอนุมัติจาก ก.พ. การถอดถอนหรือให้ออกจากตำแหน่งเป็นไปตามข้อบังคับของโรงงานสุรา ไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ จำเลยได้รับเงินเดือนจากรายได้ ของโรงงานสุราไม่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดิน เมื่อจะออกจากงานก็ไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ จำเลยทำงานอยู่ในโรงงานสุราโดยมีค่าจ้าง ฐานะของจำเลยเป็นเพียงลูกจ้างของโรงงานสุราเท่านั้น ถือว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ เมื่อได้ความตามทางพิจารณาในเบื้องต้นว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย และถ้าตามฟ้องก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นได้เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้เลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะให้สืบพยานที่เหลือกันต่อไป เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ เมื่อได้ความตามทางพิจารณาในเบื้องต้นว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย และถ้าตามฟ้องก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นได้เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้เลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะให้สืบพยานที่เหลือกันต่อไป เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะ 'ลูกจ้าง' โรงงานสุรา ไม่ใช่ 'เจ้าพนักงาน' ทำให้ฟ้องทุจริตไม่ได้ แม้มีอำนาจสั่งจ่ายเงิน
จำเลยได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในโรงงานสุราสังกัดกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามระเบียบข้อบังคับของโรงงานสุราแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้บรรจุแต่งตั้งก็ตาม ไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก ไม่ต้องรับอนุมัติจาก ก.พ.การถอดถอนหรือให้ออกจากตำแหน่งเป็นไปตามข้อบังคับของโรงงานสุรา ไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ จำเลยได้รับเงินเดือนจากรายได้ของโรงงานสุราไม่ได้รับจากงบประมาณแผ่นดินเมื่อจะออกจากงานก็ไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญจำเลยทำงานอยู่ในโรงงานสุราโดยมีค่าจ้าง ฐานะของจำเลยเป็นเพียงลูกจ้างของโรงงานสุราเท่านั้น ถือว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมาย
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่เมื่อได้ความตามทางพิจารณาในเบื้องต้นว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายและถ้าตามฟ้องก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นได้เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้เลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะให้สืบพยานที่เหลือกันต่อไปเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่เมื่อได้ความตามทางพิจารณาในเบื้องต้นว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายและถ้าตามฟ้องก็ไม่อาจจะลงโทษจำเลยในความผิดฐานอื่นได้เช่นนี้ ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้เลยทีเดียว ไม่จำเป็นที่จะให้สืบพยานที่เหลือกันต่อไปเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างเข้าใจผิดเรื่องค่าจ้างวันหยุดงาน ลูกจ้างไม่ทักท้วงนาน ไม่ถือว่าจงใจผิดนัด
ลูกจ้างรายเดือนที่มาทำงานให้นายจ้างในวันหยุดงาน มีสิทธิได้ค่าจ้างเป็น 2 เท่า ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 26
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่า ให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วง 1 ปี เศษจึงมาฟ้องโดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัดแรงงาน ดังนี้จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 33 วรรค 2
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่า ให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วง 1 ปี เศษจึงมาฟ้องโดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัดแรงงาน ดังนี้จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ. 2499 มาตรา 33 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างเข้าใจผิดเรื่องค่าจ้างทำงานวันหยุด ลูกจ้างไม่ทักท้วงนานกว่า 1 ปี ศาลไม่ถือว่าจงใจผิดนัด
ลูกจ้างรายเดือนที่มาทำงานให้นายจ้างในวันหยุดงานมีสิทธิได้ค่าจ้างเป็น 2 เท่าตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 26
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่าให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วงเวลา 1 ปีเศษจึงมาฟ้อง โดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัตรแรงงาน ดังนี้ จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 33 วรรคสอง
นายจ้างประกาศไม่จ่ายค่าจ้าง 2 เท่าให้ลูกจ้างรายเดือนโดยเข้าใจข้อกฎหมายผิด ฝ่ายลูกจ้างไม่ทักท้วงและไม่เรียกร้องเอาค่าจ้างจนล่วงเวลา 1 ปีเศษจึงมาฟ้อง โดยจำเลยก็ยินดีจะจ่ายให้ตามความเห็นของสารวัตรแรงงาน ดังนี้ จะถือว่านายจ้างจงใจผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้างโดยไม่มีเหตุผลสมควรไม่ได้ ตามพระราชบัญญัติแรงงาน พ.ศ.2499 มาตรา 33 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716-1717/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้าง แม้ลูกจ้างนอกเหนือจากหน้าที่โดยตรง
จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถออกไปแล้ว แล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716-1717/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างในการขับรถ แม้ลูกจ้างเปลี่ยนเส้นทางไปทำธุระส่วนตัว
จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถไปรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่1 ขับรถออกไปแล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คนบาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันธรรมสวนะไม่ใช่ 'วันหยุดงาน' ตามพรบ.แรงงาน ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันดังกล่าว
การหยุดงานวันธรรมสวนะตามประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2499 ถือว่าเป็นวันหยุดราชการปกติประจำสัปดาห์ ลูกจ้างไม่สิทธิได้รับเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุดทำงานตามพระราชบัญญัติแรงงาน มาตรา 25
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันธรรมสวนะไม่ใช่วันหยุดตามกฎหมายแรงงาน ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง
การหยุดงานวันธรรมสวนะตามประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2499 ถือว่า เป็นวันหยุดราชการปกติประจำสัปดาห์ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุดทำงานตามพระราชบัญญัติแรงงาน มาตรา 25
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสุราขาดระหว่างผู้ผลิตและผู้ขายส่ง: ไม่ถือเป็นตัวแทนหรือลูกจ้าง ทำให้ต้องเสียอากรแสตมป์
เจ้าของร้านขายส่งสุราเป็นคนอื่น มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทซึ่งทำการต้มกลั่นสุราเลย ส่วนได้ส่วนเสียแยกต่างหาก มิได้มีอะไรเกี่ยวพันกัน แม้ในฐานะของลูกจ้างกับนายจ้างก็มิได้มีปรากฏ เจ้าของร้านขายส่งสุราหลายรายต้องวางเงินประกันไว้ต่อบริษัทต้มกลั่น ซึ่งบางรายต้องวางเงินประกันไว้ก่อนถึง 80,000 บาท ก็มี ข้อสำคัญที่สุดก็คือ สุราที่ส่งไปให้ร้านขายส่งสุราเหล่านี้ บริษัทต้มกลั่นถือว่า เป็นการจำหน่ายเสร็จเด็ดขาดจากบริษัทต้มกลั่นไปแล้วทั้งสิ้น มิใช่ทรัพย์ของบริษัทต้มกลั่นอีกต่อไป บัญชีงบดุลก็มิได้แสดงว่าเป็นทรัพย์ของบริษัทต้มกลั่นเลย พฤติการณ์ทั้งมวลประกอบกันแสดงชัดว่า บริษัทต้มกลั่นได้ขายขาดสุราให้แก่ร้านขายส่งสุราเหล่านี้ไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องของตัวการกับตัวแทนหรือลูกจ้างกับนายจ้าง การรับเงินค่าสุราจากร้านขายส่งดังกล่าวจึงจำต้องออกใบรับและปิดอากรแสตมป์เพราะกรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ข้อ ฌ. แห่งลักษณะตราสาร ข้อ 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาท หากมอบหมายให้ใช้รถในหน้าที่ และข้อตกลงซ่อมรถไม่ผูกพันเจ้าของรถ
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างและเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท. 12499 ได้มอบรถยนต์คันดังกล่าวให้จำเลยที ่1 ซึ่งเป็นลูกจ้างในตำแหน่งหัวหน้าช่างเครื่องยนต์ของบริษัท จำเลยที่ 2 ไปใช้ในตำแหน่งหน้าที่และในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันนั้น โดยตาวประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้นเป็นการเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้แล้วว่า การที่จำเลยที่ 1 ได้ขับรถนั้นโดยความประมาทเป็นเหตุให้ชนรถโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นการกระทำในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้น ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 / 2502)
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้น ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 / 2502)