พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,604 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระดอกเบี้ยไม่ถือเป็นการชำระหนี้ต้นเงิน แม้ดอกเบี้ยจะเกินอัตราตามกฎหมาย ต้นเงินยังคงฟ้องร้องได้
เมื่อข้อความในเอกสารกล่าวถึงเรื่องชำระดอกเบี้ยอย่างเดียวเท่านั้น ย่อมจะฟังว่าเป็นหลักฐานแห่งการใช้ต้นเงินด้วยไม่ได้
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น เป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้นต้นเงินหาเป็นโมฆะไม่ ผู้ให้กู้จึงฟ้องเรียกต้นเงินกู้คืนได้
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น เป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้นต้นเงินหาเป็นโมฆะไม่ ผู้ให้กู้จึงฟ้องเรียกต้นเงินกู้คืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระดอกเบี้ยไม่ถือเป็นการชำระหนี้ต้นเงิน, สัญญาเงินกู้ดอกเบี้ยเกินอัตราเฉพาะดอกเบี้ยเป็นโมฆะ
เมื่อข้อความในเอกสารกล่าวถึงเรื่องชำระดอกเบี้ยอย่างเดียวเท่านั้น ย่อมจะฟังว่าเป็นหลักฐานแห่งการใช้ต้นเงินด้วยไม่ได้
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น เป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้นต้นเงินหาเป็นโมฆะไม่ ผู้ให้กู้จึงฟ้องเรียกต้นเงินกู้คืนได้
การกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรานั้น เป็นโมฆะเฉพาะดอกเบี้ยเท่านั้นต้นเงินหาเป็นโมฆะไม่ ผู้ให้กู้จึงฟ้องเรียกต้นเงินกู้คืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการชำระหนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระบือ 3 ตัว ราคา 6,300 บาท โจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยรับว่าจะส่งกระบือทั้ง 3 ตัวให้แก่โจทก์แต่แล้วจำเลยไม่นำกระบือไปให้โจทก์ตามที่ตกลงกันข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาจะซื้อขาย เมื่อโจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลย ถือได้ว่ามีการชำระหนี้แล้วโจทก์จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเงื่อนเวลาในสัญญากู้ การชำระหนี้บางส่วนไม่ถือเป็นการสละเงื่อนเวลา ทำให้เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องเรียกหนี้ก่อนกำหนดได้
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้ก่อนถึงกำหนดชำระ ลูกหนี้ปฏิเสธความรับผิด อ้างว่าขำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาแล้ว ย่อมแสดงว่าลูกหนี้ไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญากู้นั้น เงื่อนเวลาจึงไม่เป็นข้อที่ลูกหนี้จะอ้างเป็นประโยชน์ได้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเงื่อนเวลาชำระหนี้ และการฟ้องเรียกหนี้ก่อนถึงกำหนด
เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้ก่อนถึงกำหนดชำระ ลูกหนี้ปฏิเสธความรับผิด อ้างว่าชำระหนี้เงินกู้ตามสัญญาแล้ว ย่อมแสดงว่า ลูกหนี้ไม่ถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาในสัญญากู้นั้น เงื่อนเวลาจึงไม่เป็นข้อที่ลูกหนี้จะอ้างเป็นประโยชน์ได้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เช็คหลังธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน: การเริ่มนับระยะเวลาตามมาตรา 5
เมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คของจำเลย การการกระทำของจำเลยย่อมเป็นผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 แล้วจำเลยจะมีทางพ้นผิดได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามมาตรา 5ซึ่งบัญญัติให้ผู้กระทำผิดนำเงินไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ธนาคารบอกกล่าวแก่ผู้ออกเช็คได้รับทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่า ธนาคารมิได้บอกกล่าวให้จำเลยผู้ออกเช็คได้รับทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน กับกรณีเรื่องนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินแก่ผู้ทรงเช็คแล้ว และการชำระเงินก็ยังไม่พ้นกำหนดเวลาดังระบุไว้ในมาตรา 5 เพราะธนาคารไม่ได้บอกกล่าวแก่จำเลยให้ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงยังไม่อาจเริ่มนับระยะเวลาและเมื่อไม่อาจเริ่มนับระยะเวลา จึงไม่มีทางจะถือว่าพ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ได้ คดีจึงเป็นอันเลิกกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหลักฐานขัดแย้งกับข้อตกลงเดิมและการใช้สิทธิเรียกร้องชำระหนี้ด้วยการโอนที่ดิน
เมื่อจำเลยให้การรับว่า ได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้จริง จำเลยจะขอนำสืบตามข้อต่อสู้ว่า หนังสือสัญญากู้นั้นทำขึ้นแทนหนังสือวางเงินมัดจำในการที่จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยมีสิทธินำสืบได้ว่า ได้มีการโอนที่ดินใช้หนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์อันเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนเงินกู้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่ในคำให้การของจำเลยมิได้กล่าวตั้งเป็นประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้ง ก็ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบในข้อนี้ได้
จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยมีสิทธินำสืบได้ว่า ได้มีการโอนที่ดินใช้หนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์อันเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนเงินกู้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่ในคำให้การของจำเลยมิได้กล่าวตั้งเป็นประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้ง ก็ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบในข้อนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการนำสืบข้อต่อสู้เปลี่ยนแปลงสัญญากู้เป็นมัดจำซื้อขาย และประเด็นการชำระหนี้ด้วยการโอนที่ดิน
เมื่อจำเลยให้การรับว่า ได้ทำหนังสือสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้จริง จำเลยจะขอนำสืบตามข้อต่อสู้ว่าหนังสือสัญญากู้นั้นทำขึ้นแทนหนังสือวางเงินมัดจำในการที่จำเลยขายที่ดินให้โจทก์ไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยมีสิทธินำสืบได้ว่า ได้มีการโอนที่ดินใช้หนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์ อันเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนเงินกู้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่ในคำให้การของจำเลยมิได้กล่าวตั้งเป็นประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้งก็ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบในข้อนี้ได้
จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยมีสิทธินำสืบได้ว่า ได้มีการโอนที่ดินใช้หนี้เงินกู้ให้แก่โจทก์ อันเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนเงินกู้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่ในคำให้การของจำเลยมิได้กล่าวตั้งเป็นประเด็นข้อนี้ไว้โดยชัดแจ้งก็ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบในข้อนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้จำนองเหนือทรัพย์สิน แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่น
จำเลยจำนองที่ดินมือเปล่าพร้อมด้วยโรงเรือนไว้กับโจทก์เป็นการประกันหนี้ ต่อโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกร้องให้ชำระหนี้และให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเอาเงินไปชำระหนี้ ในที่สุดทำยอมความโดยจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ ครั้นผิดนัดโจทก์จึงนำยึดทรัพย์จำนองเพื่อบังคับคดี ดังนี้ แม้ภายหลังการจำนองและก่อนโจทก์ฟ้องจำเลย จำเลยจะได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ให้แก่ผู้ร้อง และได้สละสิทธิ์ให้ผู้ร้องยึดถือไว้แล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้สิทธิได้รับชำระหนี้ของโจทก์จากทรัพย์พิพาทหมดไป ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 805/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้จำนองเหนือทรัพย์สิน แม้มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่น สิทธิในการได้รับชำระหนี้ยังคงอยู่
จำเลยจำนองที่ดินมือเปล่าพร้อมด้วยโรงเรือนไว้กับโจทก์เป็นประกันหนี้ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยเรียกร้องให้ชำระหนี้และให้ยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ในที่สุดทำยอมความโดยจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ครั้นผิดนัดโจทก์จึงนำยึดทรัพย์จำนองเพื่อบังคับคดีดังนี้ แม้ภายหลังการจำนองและก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยจำเลยจะได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ให้แก่ผู้ร้องและได้สละสิทธิให้ผู้ร้องยึดถือไว้แล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้สิทธิได้รับชำระหนี้ของโจทก์จากทรัพย์พิพาทหมดไป ผู้ร้องจะร้องขัดทรัพย์หาได้ไม่