พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงด้วยอาวุธมีด ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายในเวลากลางวัน มีโอกาสเลือกและแทงที่ท้องจนลึกเข้าช่องท้อง ถูกอวัยวะภายในเป็นบาดแผลถึงกับเลือดตกในมาก ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง เห็นได้ว่าจำเลยแทงโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์และฎีกาในคดีล้มละลาย
กรณีที่ผู้คัดค้านเป็นบุคคลภายนอกและเป็นเจ้าหนี้จำเลยเมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้ (จำเลย) กับผู้คัดค้าน และให้ผู้คัดค้านชำระเงินแก่กองทรัพย์สินของลูกหนี้จำเลยตามคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อผู้คัดค้านอุทธรณ์คำสั่งย่อมมีสิทธิขอทุเลาการบังคับได้
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่ มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
ในกรณีเช่นนี้พระราชบัญญัติล้มละลายมิได้บัญญัติเรื่องการทุเลาการบังคับไว้ จึงต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 231 เรื่องการทุเลาการบังคับมาใช้บังคับซึ่งได้กำหนดวิธีการไว้เป็นพิเศษให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้น ๆ ไป ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาสั่ง ถ้าการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาก็อยู่ในอำนาจศาลฎีกา เมื่อผู้คัดค้านขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องการทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้ว ผู้คัดค้านไม่ มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลอุทธรณ์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรงต่อเนื่องหลายนัด ศาลฎีกายืนโทษจำคุก
จำเลยกับพวกใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงไปที่กลุ่มผู้เสียหายซึ่งอยู่ห่าง 1 วาเศษ กระสุนปืนถูกพวกผู้เสียหายที่เท้า ทั้งปรากฏว่าหลังจากยิงนัดแรกแล้วยังมีการยิงต่อไปอีก 4 นัด แสดงว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 88/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: ศาลฎีกาวินิจฉัยให้นับโทษต่อเมื่อมีคำพิพากษาลงโทษในคดีก่อนแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 ศาลล่างทั้งสองไม่นับต่อให้ เพราะคดีดังกล่าวศาลยังไม่ได้พิพากษา โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อกับโทษของจำเลยที่ 3 ในคดีหมายเลขดำที่ 19/2519 นั้น ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วตามสำนวนคดีแดงที่ 473/2519 จำเลยมิได้แก้ฎีกาปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงรับฟังได้ว่าคดีดังกล่าวศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแล้วจริง และพิพากษาให้นับโทษต่อ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาพิจารณาคดีต่อไปได้แม้โจทก์ถึงแก่กรรม และทายาทไม่รับมรดกความ
คดีอาญา (ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177) แม้โจทก์ถึงแก่กรรมในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาและทายาทของผู้มรณะไม่ติดใจรับมรดกความ ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีไปได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2520)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลฎีกาพิจารณาคดีเมื่อโจทก์ถึงแก่กรรม และทายาทไม่รับมรดกความ
คดีอาญา (ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177) แม้โจทก์ถึงแก่กรรมในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาและทายาทของผู้มรณะไม่ติดใจรับมรดกความ ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีไปได้(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กฎหมายใหม่ที่มีผลเป็นคุณแก่จำเลยในคดีอาญา แม้จำเลยมิได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องได้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ โจทก์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ออกใช้บังคับ พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นคุณแก่จำเลย จึงต้องใช้พระราชบัญญัตินี้มาปรับแก่คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาขึ้นมา เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา และมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ต้องรับโทษ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 724/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายยกเว้นโทษอาวุธปืนใหม่มีผลย้อนหลัง ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้อง แม้จำเลยไม่ได้ฎีกา
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯโจทก์ฎีกา ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518 ออกใช้บังคับพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นคุณแก่จำเลย จึงต้องใช้พระราชบัญญัตินี้มาปรับแก่คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก แม้จำเลยไม่ได้ฎีกาขึ้นมา เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา และมีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ต้องรับโทษ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาที่ไม่ระบุบทลงโทษ และการยกเว้นโทษตามกฎหมายใหม่ ศาลฎีกาพิพากษาแก้
การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานและทำลายบัตรประจำตัวข้าราชการ แต่ในคำขอท้ายฟ้องมิได้อ้างมาตรา 138, 140, 188 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นบทลงโทษมาด้วยนั้น ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 138, 140, 188 ไม่ได้ และการที่โจทก์อ้างประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษมาด้วย ก็ไม่พอจะอนุมานว่าโจทก์ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่มิได้อ้าง
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้น แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดในขณะฟ้องและศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษมา แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 3 ยอมให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปขอรับอนุญาตภายใน 90 วัน โดยผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษในความผิดฐานนี้ และแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในประเด็นนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่มีเจตนาฆ่า เพียงทำร้ายร่างกายโดยไม่มีเหตุโกรธเคือง
ผู้ตายกับจำเลยที่ 2 โต้เถียงกัน แล้วจำเลยที่ 2 หยิบไม้กว้างและหนาด้านละประมาณ 3 นิ้วฟุต ยาวศอกเศษที่อยู่บนพื้นดินบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุนั้นเองตีผู้ตาย 2-3 ที ผู้ตายยกแขนรับและหันไปหาไม้มาต่อสู้ จำเลยที่ 1 เข้าไปทางด้านข้างผู้ตาย แล้วใช้เก้าอี้ไม้กลมไม่มีพนักตีผู้ตาย 1 ที ถูกที่แขนและศีรษะล้มลง แล้วจำเลยทั้งสองก็หยุดทำร้ายมิได้กระทำซ้ำ ผู้ตายมีแผลที่ศีรษะจากของแข็งไม่มีคม คางด้านซ้ายช้ำบวม และแขนซ้ายขวาท่อนล่างช้ำแดง และถึงแก่ความตายในวันรุ่งขึ้น ดังนี้ จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานทำร้ายผู้ตายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยมิได้มีเจตนาฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290