คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำพิพากษาศาลแขวงในปัญหาข้อเท็จจริงเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คดีอาญาที่อยู่ในอำนาจศาลแขวง เมื่อศาลแขวงพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ให้ร่วมกับชมรมโรงสีจัดซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกของโจทก์และฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินค่าบริการของโจทก์ ย่อมถือว่าเป็นการพิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแขวง ฯ มาตรา 22 การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยได้ร่วมกับชมรมโรงสีกระทำผิดหน้าที่ของจำเลยและจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินของโจทก์จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้าม ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ตามอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ถูกต้องและต้องถือว่าข้อเท็จจริงยุติแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาจำเลย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: อุทธรณ์และฎีกาไม่ชอบ เนื่องจากเป็นคำสั่งระหว่างดำเนินการ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 วรรคสอง บัญญัติให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีร้องขัดทรัพย์เหมือนอย่างคดีธรรมดา ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามมาตรา 288 (1) จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นยังไม่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ ต้องห้ามตาม มาตรา 226(1 แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์มาแล้วก็เป็นการไม่ชอบผู้ร้องขัดทรัพย์จะฎีกาต่อมาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: การอุทธรณ์และฎีกาที่มิชอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 288 วรรคสอง บัญญัติให้ศาลพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีร้องขัดทรัพย์เหมือนอย่างคดีธรรมดาศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องขัดทรัพย์วางเงินประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามมาตรา 288(1) จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นยังไม่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ผู้ร้องขัดทรัพย์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ต้องห้ามตาม มาตรา 226(1) แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องขัดทรัพย์มาแล้วก็เป็นการไม่ชอบผู้ร้องขัดทรัพย์จะฎีกาต่อมาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1734/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ขาดนัดพิจารณาและการไม่อุทธรณ์คำสั่งจำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเพราะเหตุโจทก์ขาดนัดพิจารณาซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 วรรคแรก บัญญัติห้ามมิให้โจทก์อุทธรณ์คำสั่งเช่นว่านี้หรือมีคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นนำคดีที่จำหน่ายคดีไปแล้วกลับมาทำการพิจารณาต่อไปเป็นการขอให้พิจารณาใหม่ จึงต้องห้าม และกรณีไม่อาจขอให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีได้เพราะการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีด้วยเหตุโจทก์ขาดนัดพิจารณานั้น มิได้เป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 158/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีบังคับคดีที่ราคาทรัพย์สินไม่เกินสองหมื่นบาท ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมิชอบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์สิน 5 รายการรวมราคา 7,800 บาท ที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดเป็นทรัพย์สินของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด เป็นคดีมีทุนทรัพย์และราคาทรัพย์สินที่พิพาทไม่เกินสองหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องโดยฟังว่าทรัพย์ที่นำยึดไม่ใช่ของผู้ร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ จึงเป็นการไม่ชอบและผู้ร้องจะฎีกาข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดและการคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: ศาลไม่อนุญาตให้ระงับการขายทอดตลาด แม้มีการอุทธรณ์คำสั่ง
เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย จำเลยคัดค้านว่าราคาต่ำไป แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำการขายได้ จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและขอให้งดการขายทอดตลาด แม้ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดจะได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อไปให้แก่บุคคลภายนอกในระหว่างอุทธรณ์ หากต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวและให้ศาลชั้นต้นทำการขายทอดตลาดใหม่ทั้งผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดและผู้รับโอนทรัพย์ดังกล่าวก็ไม่ได้ไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และศาลชั้นต้นก็ยังคงดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีจึงไม่ได้ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ที่จะเป็นเหตุให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาด ตามที่จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ภาษีการค้าไม้พื้น: ข้อจำกัดทุนทรัพย์ & การจัดประเภทสินค้า
อุทธรณ์ของโจทก์โต้เถียงคำวินิจฉัยของศาลภาษีอากรกลางในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีมีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 25ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
สินค้าไม้พื้นลิ้นรอบตัวที่มีความยาวต่ำกว่า 50 เซนติเมตรที่โจทก์ผลิตเป็นไม้ที่ใช้ประโยชน์โดยการปูบนพื้นซีเมนต์ หาใช่ใช้ปู บนไม้ตงโดยตรงไม่ทั้งมีระเบียบของจำเลยที่ 1 กำหนดไว้เช่นนั้น จึงเป็นสินค้าไม้ที่ใช้ประโยชน์ได้ในลักษณะเป็นสิ่งปูลาดอย่างหนึ่งตามความหมายของสินค้าในบัญชีที่ 1 หมวดที่ 4(7) ท้ายพระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 54 ซึ่งจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับ ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทผู้ผลิตสินค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งอุทธรณ์เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์
ในวันที่ยื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ และกำหนดเวลาให้ผู้อุทธรณ์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์ ศาลได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ไปกรมบังคับคดีเพื่อรอการนำส่งแล้ว ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่ง จึงเป็นการทิ้งอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ข้อที่อ้างว่าในทางปฏิบัติอีกฝ่ายจะมารับสำเนาอุทธรณ์จากเจ้าหน้าที่เอง ฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุข้อเท็จจริงโดยย่อในอุทธรณ์: ไม่จำเป็นต้องย่อทางนำสืบของคู่ความ
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะไม่ได้ย่อ ทางนำสืบของโจทก์จำเลยไว้ก็ไม่เป็นการขัดต่อ ป.วิ.อ.มาตรา 193 แต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ที่ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อ ศาลมีอำนาจรับพิจารณา
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เพียงแต่ไม่ได้ย่อทางนำสืบของโจทก์จำเลยเท่านั้นไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ถือได้ว่าได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อที่ยกขึ้นอ้างอิงไว้แล้ว เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจรับไว้พิจารณาได้.
of 349