พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1010/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาในศาลแขวงตาม พ.ร.บ.ศาลแขวงฯ พ.ศ.2499: บทบาทผู้ว่าคดีและอัยการ
คดีเกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ใช้บังคับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 ส่วนพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2503 ยังมิได้ออกใช้บังคับ เมื่อผู้ว่าคดีฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงธนบุรี ศาลแขวงธนบุรีไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า คดีมีมูลฐานวิ่งราวทรัพย์(ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลอาญา) และให้ประทับฟ้องไว้ อัยการได้รับสำนวนจากศาลแขวงธนบุรีและพิจารณาแล้วสั่งไม่ฟ้องฐานวิ่งราวคงสั่งฟ้องฐานลักทรัพย์ (ซึ่งเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง) เช่นนี้เมื่ออัยการฟ้องข้อหาฐานลักทรัพย์ต่อศาลอาญาศาลอาญาจำต้องรับคดีนี้ไว้พิจารณา (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2503)
ความในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(2) ที่ให้อยู่ในดุลพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นในศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงนั้น ใช้ได้แต่ในระบบที่ศาลแขวงมิได้เป็นศาลไต่สวนความผิดอาญาทั่วไปเท่านั้น
นอกจากราษฎรฟ้องกันเองแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของผู้ว่าคดีตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 เท่านั้นที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีในศาลแขวงตามพระราชบัญญัตินี้ได้ อัยการหาอาจเป็นโจทก์ในศาลแขวงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 นี้ได้ไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)
ความในพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(2) ที่ให้อยู่ในดุลพินิจของศาลจังหวัดที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่เกิดขึ้นในศาลแขวงและอยู่ในอำนาจของศาลแขวงนั้น ใช้ได้แต่ในระบบที่ศาลแขวงมิได้เป็นศาลไต่สวนความผิดอาญาทั่วไปเท่านั้น
นอกจากราษฎรฟ้องกันเองแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของผู้ว่าคดีตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 เท่านั้นที่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีในศาลแขวงตามพระราชบัญญัตินี้ได้ อัยการหาอาจเป็นโจทก์ในศาลแขวงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ.2499 นี้ได้ไม่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004-1005/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันในคดีอาญา: ผลผูกพันต่อเนื่องแม้ศาลชั้นต้นยกฟ้อง & ศาลไม่มีหน้าที่วินิจฉัยเหตุจำเลยไม่มาศาล
ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ขังจำเลยไว้ หรือให้เรียกประกันระหว่างฎีกา แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ประกันได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาต สัญญาประกันดังกล่าวนี้ ยังคงมีผลสมบูรณ์ตลอดถึง คดีอยู่ระหว่างฎีกา เพราะสัญญาประกันในคดีอาญาจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อคดีถึงที่สุด เว้นแต่มีการถอนการตาย การผิดสัญญาประกัน หรือศาลสั่งยกเลิก ผู้ประกันจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประกันโดยเข้าใจผิดหาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2503)
ถ้าผู้ประกันร้องเป็นประเด็นแต่ข้อเดียวว่า สัญญาประกันไม่ผูกพันเพราะไม่มีเหตุหรือมูลหนี้เท่านั้นศาลก็ย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะเอื้อมไปวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ไปศาลตามหมายนัดเพราะอะไร
ในคดีอาญา แม้โจทก์จำเลยต่างเป็นราษฎรด้วยกัน เมื่อมีการผิดสัญญาประกัน หรือมีกรณีเกี่ยวกับการบังคับตามสัญญาประกันเกิดขึ้น อัยการก็ย่อมมีอำนาจฎีกาได้
ถ้าผู้ประกันร้องเป็นประเด็นแต่ข้อเดียวว่า สัญญาประกันไม่ผูกพันเพราะไม่มีเหตุหรือมูลหนี้เท่านั้นศาลก็ย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะเอื้อมไปวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ไปศาลตามหมายนัดเพราะอะไร
ในคดีอาญา แม้โจทก์จำเลยต่างเป็นราษฎรด้วยกัน เมื่อมีการผิดสัญญาประกัน หรือมีกรณีเกี่ยวกับการบังคับตามสัญญาประกันเกิดขึ้น อัยการก็ย่อมมีอำนาจฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004-1005/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันในคดีอาญา: ผลผูกพันหลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง และความรับผิดของผู้ประกัน
ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ขังจำเลยไว้หรือให้เรียกประกันระหว่างฎีกา แต่ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ประกันได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและศาลชั้นต้นได้สั่งอนุญาต สัญญาประกันดังกล่าวนี้ยังคงมีผลสมบูรณ์ตลอดถึงคดีอยู่ระหว่างฎีกา เพราะสัญญาประกันในคดีอาญาจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อคดีถึงที่สุด เว้นแต่มีการถอน การตาย การผิดสัญญาประกัน หรือศาลสั่งยกเลิก ผู้ประกันจะอ้างว่าได้ทำสัญญาประกันโดยเข้าใจผิดหาได้ไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อเนื่องจากคดีที่ศาลรอการลงโทษ โดยจำเลยรับตามฟ้อง โจทก์ไม่ต้องอ้างในบัญชีพยาน
โจทก์บรรยายฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยในคดีที่ศาลได้รอการลงโทษไว้ โดยนับโทษติดต่อกันไปตามลำดับดังนี้ โจทก์ไม่จำต้องอ้างคดีดังกล่าวไว้ในบัญชีพยาน เมื่อจำเลยรับตามที่โจทก์ฟ้อง ศาลย่อมพิพากษาตามคำรับของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: จำเป็นต้องมีเลขคดีแดงที่ชัดเจนของสำนวนที่ศาลเคยลงโทษแล้ว
เมื่อไม่ปรากฏเลขคดีแดงของสำนวนที่ศาลลงโทษ ก็ไม่อาจจะสั่งนับโทษต่อได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาเมื่อจำเลยหลบหนี และทนายยื่นฎีกาแทน การมีอำนาจพิจารณาของศาลฎีกา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อน ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้ว ทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีอาญาโดยจำเลยหลบหนี: ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ แม้จำเลยไม่ได้รับทราบคำพิพากษา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้วทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลยพินิจศาลในการลดโทษตามมาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญาในคดีอาญา
ศาลอุทธรณ์ลงโทษและลดโทษให้ตาม มาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญา จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องอยู่ในดุลยพินิจของศาล
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2502)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการลดโทษจำเลยในคดีอาญา แม้ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ
ศาลอุทธรณ์ลงโทษและลดโทษให้ตาม มาตรา 78 ประมวลกฎหมายอาญา จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หรือไม่นั้นเป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาล (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประทับฟ้องและการสืบพยานจำกัดสิทธิโจทก์ในการฟ้องคดีอาญาซ้ำ
ผู้ว่าคดีได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยตั้งข้อหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ชั้นไต่สวนมูลฟ้องจำเลยรับในข้อหารับของโจร ศาลแขวงสั่งคดีมีมูล ประทับฟ้องฐานรับของโจร ส่วนข้อหาฐานลักทรัพย์ไม่ประทับฟ้อง โจทก์ก็ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านประการใด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร โจทก์ก็แถลงไม่สืบพยาน ดังนี้คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้อีก โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีการับฟ้องฐานลักทรัพย์อีกด้วย ข้อฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นสาระแก่คดีตาม ป.วิ.อ. มาตรา 214, 15 และ ป.วิ.พ. มาตรา 242 (1) ต้องยกฎีกาโจทก์เสีย